‘MR.BIG’ วง ‘แมว 9 ชีวิต’ แห่งดนตรีร็อก สมาชิกล้วนเป็นจอมยุทธ์สายดนตรี

• MR.BIG วงร็อกจากยุค 80s ที่โด่งดังยาวนานจากเพลงฮิต และฝีมือที่มากล้นของสมาชิกซึ่งล้วนเป็นจอมยุทธ์สายดนตรี
• หลังขึ้นถึงจุดสูงสุด วง MR.BIG แยกทางกันไประยะหนึ่ง และกลับมารวมตัวอีกครั้งในช่วงหลายปีหลัง ทำให้แฟนเพลงรวมถึงชาวไทยได้กลับมาชมโชว์ของศิลปินที่คุ้นเคยอีกหน

‘To be with You’ เพลงฮิตระดับทุบโลกของ MR.BIG คณะดนตรี Supergroup จาก Los Angeles ที่ก่อตั้งวงเมื่อปี ค.ศ. 1988 ที่ชื่อ MR.BIG ถือเป็นวงร็อก ‘แมวเก้าชีวิต’ หรือ Hairband Rock Guitar Hero ที่โด่งดังในยุค 80s ยุคที่ ‘วงร็อคผมยาว’ Old School Rock ดาหน้ากันออกมาเขย่าวงการดนตรีโลก!

การที่ MR.BIG ได้รับยกย่องว่าเป็น Supergroup ก็เนื่องมาจาก MR.BIG เป็นการรวมตัวของนักดนตรีร็อกแถวหน้าจากวงต่าง ๆ ในยุคนั้น อันประกอบด้วย

พอล กิลเบิร์ต (Paul Gilbert) อดีตสมาชิกวง Racer X ได้รับยกย่องว่าเป็นมือกีต้าร์ที่ดีที่สุดอันดับ 4 ของโลก จากการจัดอันดับของ Guitar One magazine's Top 10 Greatest Guitar Shredders of All Time และติดอันดับใน Guitar World's 50 มือกีตาร์ที่เล่นเร็วที่สุดตลอดกาล

บิลลี่ ชีฮาน (Billy Sheehan) มือเบสชื่อดัง เป็นที่รู้จักในระดับโลกจากการทำงานร่วมกับนักดนตรีดังอย่าง Steve Vai, David Lee Roth, Talas, Niacin, The Winery Dogs เจ้าของตำแหน่งมือเบสร็อกที่ดีที่สุดจากการจัดอันดับโดย Readers' Poll ของ Guitar Player Magazine ถึง 5 ครั้งด้วยกัน

แพท ทอร์ปีย์ (Pat Torpey) เป็นที่รู้จักในนามอดีตมือกลองผู้ร่วมก่อตั้งของวง MR. BIG มีชื่อเสียงมาก่อนจากการร่วมงานกับ Richie Kotzen and The Knack, John Parr, Belinda Carlisle, Robert Plant, Montrose, Impellitteri และ Ted Nugent

หลัง แพท เสียชีวิตไป Matt Starr คือมือกลองซึ่งมาแทนที่แพท เล่นในอัลบั้มและ World Tour ชุด Defying Gravity

เอริก มาร์ติน (Eric Martin) นักร้องแนวฮาร์ดร็อก (Hard Rock) ชื่อดัง มีทั้งผลงานเดี่ยว และผลงานในการร่วมวงกับผู้อื่น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างมากจากการเป็นนักร้องนำให้กับ MR. BIG

แมวร็อก 9 ชีวิต

ในยุคเริ่มต้นฟอร์มวงเมื่อปี ค.ศ. 1988 ที่เมือง Los Angeles รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น คณะดนตรี MR.BIG เล่นแนว Hard Rock ตามด้วย Glam Metal แต่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงคือ Heavy Metal โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Soft Rock กับ Sound ดนตรีร็อคยุค 80s

ดนตรีของ MR.BIG เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์จากเสียงร้องอันหนักแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LINE เสียงประสานซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเสียงดนตรีและเสียงร้องนำ โดยมีเพลงฮิตที่แฟนเพลงทั่วโลก ทั้งขาประจำ และขาจร รู้จักกันมากที่สุดคือ To Be With You ตามด้วย Just Take My Heart

แม้จะเข้ายุค Alternative Rock และ Grunge Rock ในช่วงทศวรรษ 1990 แต่ต้องบอกว่า ยุครุ่งเรืองของ MR.BIG ก็คือยุค 90s นั้นเอง ที่ชาวคณะเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น และได้รับความนิยมต่อเนื่องอย่างยาวนานข้ามมาอีก 2 ทศวรรษเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี MR.BIG ก็เหมือนวงร็อคทั่วโลกที่มักเกิดความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในวงอยู่เสมอ บางครั้งก็ลุกลามออกไปจนวงเกือบแตก และบางครั้งก็สามารถสงบศึกลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบได้กับ ‘แมวร็อก 9 ชีวิต’ ที่เจียนอยู่เจียนตาย ตายแล้วเกิดใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่ถึงกับทำให้ Paul Gilbert มือกีตาร์ระดับพระกาฬในยุคบุกเบิกของ MR.BIG ต้องออกจากวงในปี ค.ศ.1999 ทำให้ Richie Kotzen ได้กลายมาเป็นมือกีตาร์คนใหม่ของวง โดยหลังจากนั้น MR.BIG ได้มีอัลบั้มช่วงท้าย ๆ ตามมาอีก 2 ชุด ได้แก่ Get Over It (1999) และ Actual Size (2001) ก่อนที่จะแยกทางกันไปในปี ค.ศ. 2002

สิ่งที่ทำให้ MR. BIG ก้าวข้ามผ่านกาลเวลามาถึง 35 ปีเต็ม ใน ค.ศ. นี้ ประดุจ ‘แมว 9 ชีวิต’ ที่รวมแล้วแยก-แตกแล้วรวม ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาด้วยกัน มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ร่วมต้าน เช่น การแยกวงไปถึง 7 ปีเต็ม (ระหว่างปี ค.ศ. 2002 ถึงปี ค.ศ. 2009)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปลีกวิเวกของ Paul Gilbert รวมถึงความไม่ลงรอยระหว่าง Billy Sheehan และสมาชิกคนอื่น ๆ แต่ท้ายที่สุด สมาชิกยุคก่อตั้ง Classic Line-up ทุกคนก็กลับมา Reunion กันอยู่เสมอ และพร้อมหน้าพร้อมตาทุกครั้ง ชนิดที่เรียกว่า หาก Pat Torpey ยังคงอยู่ ก็คงร่วมเดินทางมาด้วยเป็นคนแรก ๆ เลยทีเดียว

 

รวมแล้วแยก แตกแล้วรวม

ช่วงปลายทศวรรษที่ 2000 สมาชิก MR.BIG ขนานแท้และดั้งเดิม จากยุค Classic Line-up อันประกอบด้วย Eric Martin, Paul Gilbert, Billy Sheehan และ Pat Torpey ทนความรบเร้า และคำขอร้องจากบรรดาแฟนพันธุ์แท้ MR.BIG ไม่ไหว โดยได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009

จัด World Tour ประเดิม ณ ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2009 จากนั้นอีก 2 ปี วง MR.BIG ได้ฤกษ์เบิกอัลบั้มใหม่ออกมาในรอบทศวรรษ นั่นคือ ผลงานเพลงชุด What If ในปี ค.ศ. 2011

ทว่า อีก 3 ปีถัดมา กลับเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าขึ้นในระหว่างการบันทึกเสียงอัลบั้ม The Stories We Can Tell ในปี ค.ศ. 2014 เมื่อ Pat Patpey ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสัน ทำให้เขามีส่วนร่วมกับอัลบั้มล่าสุดนี้เพียงน้อยนิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานชุดถัดไปของ MR.BIG คือ Defying Gravity ในปี ค.ศ. 2017 ที่ได้กลายเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ Pat Torpey มีส่วนร่วมกับวง เพราะในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2018 ได้เสียชีวิต ระหว่างที่เพื่อน ๆ ในวงกำลังอยู่ในสตูดิโอเพื่ออัดเสียงงานชุดดังกล่าว

หลังจาก Pat Torpey เสียชีวิต Billy Sheehan เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในตอนนั้นว่า MR.BIG คิดแผนอะไรไม่ออกเลย แค่ต้องทำทุก ๆ อย่างให้เสร็จ โดยเฉพาะทัวร์คอนเสิร์ตที่รับไว้ตั้งแต่ตอนที่ Pat ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อเป็นการให้เกียรติ Pat

“จริง ๆ แล้วทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมเลย แต่เราไม่อยากที่จะฝืนมันอีกต่อไป ในแง่ของวงดนตรีแล้ว การที่เราเสียใครสักคน เราไม่ต้องการใครมาแทน Pat เพราะ Pat เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของ MR.BIG และโดยส่วนตัวแล้ว ผมแล้วผมก็ยังรัก Eric และ Paul ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เราไม่อยากฝืนความรู้สึกอีกต่อไป”

“จากนั้น เราจะออกไปทัวร์กันอีกให้ทุกอย่างจบไป เมื่อสิ้นสุดงานทั้งหมดแล้ว เราคิดว่าทุกอย่างน่าจะหยุดลง ลึก ๆ ในใจผม หากไม่มี Pat ผมไม่อยากทำอะไรอีกเลย” Billy Sheehan ทิ้งท้าย

ในปีนี้ (2023) MR.BIG ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อทัวร์คอนเสิร์ตกระชากพลังวัยรุ่น กับรากฐาน Guitar Hero ผู้สร้างแรงบันดาลใจแก่นักดนตรีหลายยุคหลายสมัย ผ่านสไตล์ Old School อันแข็งแรง บนถนนดนตรี Rock ที่เดินทางมาไกลมาจาก 1988 ถึง 2023

ดนตรีของ MR.BIG มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สไตล์การเล่นกีตาร์ของ Paul Gilbert ได้ทำให้บทเพลงของ MR.BIG สามารถเข้าถึงผู้คนหลายรุ่นหลายวัย จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะผลงานของ MR.BIG อัดแน่นด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่สามารถเลียนแบบได้นั่นเอง

 

ผลงานที่ผ่านมา

อัลบั้มแรก MR.BIG ปี ค.ศ. 1989 ใช้ชื่อชุดเป็นชื่อเดียวกับวง ประกาศศักดาด้วยการติดอันดับ 46 ทันทีใน Billboard 200 Chart ด้วยซิงเกิ้ลสุดฮิต Addicted to that Rush

Lean into It ปี ค.ศ. 1991 อัลบั้มที่ 2 ซึ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ปี ค.ศ. 1991 โดย Lean into It นี้ ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด กับการครองอันดับที่ 15 บน Billboard 200 Charts โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Single เด็ด To Be with You เป็นเพลงเแรก และเพลงเดียวของวง ที่ขึ้นไปถึงอันดับที่ 1 บน Billboard Hot 100 และเป็นเพลงยอดเยี่ยมตลอดกาลในใจแฟนเพลงของวง

Bump Ahead ปี ค.ศ. 1993 อัลบั้มที่ 3 ที่มีริฟฟ์กีต้าร์เกรี้ยวกราด และมีเอกลักษณ์ จาก Colorado Bulldog

Hey Man ปี ค.ศ. 1996 อัลบั้มที่ 4 ซึ่งเป็นอัลบั้มสุดท้ายก่อนที่ Paul Gilbert จะออกจากวง

Get Over It ปี ค.ศ. 1999 อัลบั้มที่ 5 ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกหลังจากที่ Paul Gilbert ได้ออกจากวงไป โดยในอัลบั้มนี้ ได้ Richie Kotzen มาเป็นมือกีตาร์แทน Paul Gilbert

Actual Size ปี ค.ศ. 2001 อัลบั้มที่ 6 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สอง และอัลบั้มสุดท้ายที่ทำร่วมกับ Richie Kotzen อัลบั้มนี้มีเพลง Shine ที่ภายหลังถูกนำมาเป็นเพลงประกอบแอนิเมชั่นเรื่อง Hellsing

What If... ปี ค.ศ. 2011 อัลบั้มที่ 7 ซึ่งปล่อยออกมาในปี ค.ศ. 2011 เป็นอัลบั้มแรกนับจากการกลับมารวมตัวกันในปี ค.ศ. 2009 เป็นอัลบั้มแรกในรอบสิบปี และยังเป็นอัลบั้มแรกที่สมาชิกดั้งเดิมทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Paul Gilbert ได้กลับมาร่วมกับวง นับจากปี ค.ศ. 1996 เป็นต้นมา

The Stories We Could Tell ปี ค.ศ. 2014 อัลบั้มที่ 8 ซึ่งทำการบันทึกเสียงกับ Pat Regan (Kiss, Deep Purple, Warrant, Keel) โดยเป็น 13 เพลงใหม่ ที่มีเพลงดังหลายเพลง เช่น Gotta Love the Ride, The Man Who Has Everything, Just Let Your Heart Reside, I Forget to Breathe

Defying Gravity ปี ค.ศ. 2017 สตูดิโออัลบั้มล่าสุดของ MR.BIG ซึ่งนับเป็นอัลบั้มที่ 9 โดยได้ Matt Starr มือกลองคนใหม่มาร่วมงานด้วย

 

เรื่อง: จักรกฤษณ์ สิริริน

ภาพ: แฟ้มภาพ Getty Images