‘The Hu’ โฟล์กเมทัลแห่งมองโกเลีย จอมยุทธทางดนตรีลูกผสม ส่งต่อแนวคิดบรรพบุรุษด้วยดนตรี

‘The Hu’ โฟล์กเมทัลแห่งมองโกเลีย จอมยุทธทางดนตรีลูกผสม ส่งต่อแนวคิดบรรพบุรุษด้วยดนตรี

โฟล์กเมทัลแห่งมองโกเลีย จอมยุทธทางดนตรีลูกผสมจากดินแดนเจงกิสข่านในชื่อวง ‘The Hu’ ส่งต่อแนวคิดของบรรพบุรุษชาวมองโกลด้วยดนตรี

  • The HU วงดนตรีโฟล์กเมทัลจากมองโกเลีย ผสมเครื่องดนตรีท้องถิ่นกับดนตรีเมทัลแบบตะวันตก 
  • ก่อน โควิด-19 ระบาด The HU มีผลงานติดอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard สาขา Hard Rock

หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายไปตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 มองโกเลียในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศที่เคยปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม ถือได้ว่าเป็นลำดับที่สองของโลกหากนับจากรัสเซีย และเคยเป็นประเทศหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านอวกาศในช่วงสงครามเย็น ในเวลาต่อมาได้ปรับเปลี่ยนการปกครองเป็นเสรีประชาธิปไตยครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990 ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการเปิดประเทศ

วัฒนธรรมป็อบของโลกตะวันตกไหลบ่าเข้ามาอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นจนส่งผลต่อการรับรู้ใหม่ที่นำมาสู่การสร้างวัฒนธรรมลูกผสม ดังที่เคยเกิดขี้นมาแล้วตั้งแต่ช่วงสงครามโลกที่วัฒนธรรมป็อบอเมริกันบุกยึดทั่วโลกและศิลปินท้องถิ่นโอบรับ นำเข้ามาประยุกต์ผ่านการตีความ ก่อเกิดเป็นภาษาทางดนตรีใหม่ ๆ จากการรับรู้และต่อรองระหว่างโลกเก่ากับโลกใหม่ได้อย่างลงตัว 

เฉกเช่นในดนตรีสายโฟล์กเมทัล (Folk Metal) ที่เปรียบเสมือนพื้นที่ใหม่ของการสร้างวัฒนธรรมลูกผสม มีวงร็อกที่ผสมดนตรีพื้นถิ่นจากมองโกเลียนามหนึ่ง พวกเขาเกิดขึ้นมาในดินแดนเจงกิสข่านจักรพรรดินักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิมองโกล ผู้เคยมีบทบาทสำคัญต่อเส้นทางสายไหมที่โลกตะวันออกโลกและตะวันตกสามารถเดินทางค้าขายกันได้อย่างสะดวก 

แม้ว่าในปัจจุบันมองโกลเลียจะเป็นประเทศหนี่งที่อยู่บนแผนที่โลก หากแต่มีวงดนตรีนาม ‘The Hu’ ได้กลับมาประกาศแสนยานุภาพผ่านทางวัฒนธรรมดนตรีมองโกลขึ้นมาปรากฏสู่สายตาคนจากหลายประเทศอีกครั้ง แม้ในห้วงเวลาที่พรมแดนสมมติในโลกปิดตัวลงเพื่อป้องกันโรคระบาดก็มิอาจหยุดยั้งสุ้มเสียงทางดนตรีที่พวกเขารังสรรค์ขึ้นมาได้ 

The HU (Who are you?) พวกเขาเป็นใคร? 

The HU วงดนตรีโฟล์คเมทัล (Folk Metal) จากกรุงอูลันบาตอร์ เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย ชื่อวงนั้นอาจฟังดูพ้องเสียงกับวงดนตรีร็อกอังกฤษยุค 60s แต่ความหมายกลับแตกต่างกัน วง The HU นั้นหมายถึง ‘ความเป็นมนุษย์’ พวกเขาก่อตั้งวงตั้งแต่ปี 2016 สมาชิกประกอบด้วย กาลา (Gala), จายา (Jaya) เทมกา (Temka) และเองคุช (Enkush) คนหนุ่มที่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยการดนตรีแห่งชาติมองโกเลีย (Mongolian State Conservatory) 

พวกเขาถูกฝึกฝนให้เชี่ยวชาญทั้งดนตรีมองโกเลียและดนตรีคลาสสิก โดยเลือกหยิบเอาเสียงดนตรีพื้นถิ่นอย่างซอหัวม้า (Morin Khuur) และเครื่องดีดคล้ายพิณ 2-3 สายของมองโกเลีย (Tovshuur) กับเสียงร้องจากลำคอแบบตูวา (Tuvan throat singing) ผสมผสานเข้ากับดนตรีร็อกแบบเมทัล จนออกมาเป็นผลลัพธ์ใหม่ที่ยากจะมีใครเหมือน

เมื่อผนวกกับกระแสดนตรีโฟล์กเมทัลที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วง 90s และมาเบ่งบานในช่วงเวลาประจวบเหมาะกับการออกผลงานของพวกเขา ส่งผลให้วงเขาพุ่งทะยานสู่อันดับ 1 ในการจัดอันดับเพลงของ Billboard สาขา Hard Rock เมื่อช่วงต้นปี 2019 ก่อนการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ปี 2018 บทเพลง ‘Yuve Yuve Yu’ กับ MV ที่ตราตรึงใจผู้คนนับล้านครั้งผ่านสื่อออนไลน์ ภาพจำที่นำเสนอในแบบทวิภพระหว่างความเป็นสมัยใหม่ในชีวิตประจำวันของสมาชิกวง กับภาพตัดที่นำไปสู่ภพภูมิอันเป็นภูมิทัศน์ทางธรรมชาติของประเทศมองโกเลียแบบดั้งเดิม พร้อมกับออกไปยืนแต่งกายด้วยชุดหนังที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับกลิ่นอายของชาวร็อก ออกมายืนบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีพื้นถิ่นที่ผสมผสานเข้ากับดนตรีร็อกแบบ Shuffle ที่ขึ้นต้นบทเพลงด้วย Riff จากเครื่องพิณมองโกเลีย 3 สาย และซอหัวม้าที่สีค้างโน้ต โดยมีเสียงของดนตรีตะวันตกอย่างกีตาร์ไฟฟ้าคลออยู่เป็นพื้นหลังและขับนำด้วยเสียงกลองชุดที่เป็นตัวขับเคลื่อนจังหวะของบทเพลงให้มีความคึกคัก 


ปีถัดมาพวกเขาได้ปล่อยเพลง ‘Wolf Totem’ นำเสนอภาพของแก๊งมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่ปรากฏอยู่บนภาพเป็นพื้นหลังที่ขับเคลื่อนรถตามการนำของแม่ทัพที่กำลังขี่ม้าศึก ไม่นานหลังจากนั้น เสียงบรรเลงเดี่ยวซอหัวม้าที่ค่อย ๆ ปรากฏดังชัดขึ้นมาพร้อมกับจังหวะกลองพร้อมรบ เมื่อเข้าท่อนร้องแรกที่มีเนื้อหาดุดันที่พูดถึงการต่อสู้กับเหล่าสัตว์ป่าที่พวกเขาจะสู้เข้าไปอย่างไม่ถอย เพราะมีเหล่ามวลชนแก๊งมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คอยเอาใจช่วยอยู่ข้างหลัง และประพันธ์ทำนองให้มีการร้องรับแบบถามตอบกับกาลา มือซอ และนักร้องของวง จนเข้าสู่ท่อนดนตรีอีกครั้งที่ปรากฏ Riff สุดเท่จากเสียงพิณมองโกเลีย และจังหวะกลองที่ชวนนึกถึงการโยกหัว (Headbanging) ของเหล่าศิลปินเมทัลในยุค 80s 

องค์ประกอบของการผสมผสานดังกล่าวทำให้บทเพลงมีความสมบูรณ์แบบตามอย่างที่ดนตรีโฟล์กเมทัลควรจะเป็น และเป็นบทเพลงที่แสดงศักยภาพซอหัวม้าอย่างโดดเด่น โดยสอดแทรกลีลาตามความหมายของซอที่ต้องการเลียนแบบเสียงร้องของม้าได้เป็นอย่างดี 

หลังจากที่พวกเขาปล่อยเพลงเป็น single ออกมาในเดือนกันยายนปี 2019 อัลบั้มแรกนามว่า The Gereg ที่เป็นชื่อเรียกหนังสือเดินทางสมัยเจงกิสข่าน ในปีเดียวกัน พวกเขามีตารางแสดงดนตรีสดที่อเมริกาเหนือ และช่วงเวลาเดียวกันนั้น พวกเขาได้ร่วมงานกับ Jacoby Shaddix นักร้องวงร็อกชื่อดังแห่งวง Papa Roach และยังถูกนำมาใช้ประกอบภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง The Retaliators (2021) ปี 2020 และพวกเขายังได้รับเชิญเป็นหนึ่งใน 53 ศิลปินที่ร่วมอัลบั้ม The Metallica Blacklist ที่ออกมาเพื่อเฉลิมฉลองวง Metallica ครบรอบ 30 ปี ในบทเพลง ‘Through the Never’ ปัจจุบัน พวกเขามีอัลบั้มที่สอง Rumble of Thunder (2022) ที่ขึ้นอันดับ 1 ของ Billboard ในสาขา World Albums 

กว่าจะมาเป็น The HU

หากสืบย้อนไปถึงที่มาของการก่อร่างสร้างตัวตนของพวกเขานั้น จะพบว่า พวกเขารับมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติจากวิทยาลัยการดนตรีแห่งชาติมองโกเลีย (Mongolian State Conservatory) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร้องจากลำคอแบบตูวา ที่เป็นการทำเสียงประสานสองแนวแบบมี Harmonic อันเกิดขึ้นในลำคอจากการร้องเพียงคนเดียว 

กล่าวคือแนวเสียงหนึ่งจะทำหน้าที่เป็นเสียงพื้นฐานค้างยาว (Drone) ที่ฟังดูโทนต่ำกว่าจากเสียงอีกแนวที่จะเป็นคู่ประสานขึ้นมาใหม่ในลำคอ และมักใช้บรรเลงประกอบไปพร้อมกับซอหัวม้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์สำคัญของดนตรีพื้นถิ่นมองโกเลียดั้งเดิมที่พบได้ในกลุ่มชนเผ่าเรร่อนแถบเทือกเขาอัลไตที่อยู่แทบตะวันตกของประเทศมองโกเลียปัจจุบัน 

แน่นอนว่า พวกเขาเติบโตมากับวิถีวัยรุ่นที่มีดนตรีร็อกเป็นฉากทัศน์สำคัญในชีวิต และยากที่ปฏิเสธได้ว่าอิทธิพลทางดนตรีของพวกเขาเริ่มจากวงดนตรีร็อกภายในประเทศตั้งแต่ก่อนสหภาพโซเวียตล่มสลายอย่างเป็นทางการ อย่างวง Hurd (1987-) และ Haranga (1989-) จนล่วงเข้าสู่ยุคสหัสวรรษ ที่มีวงอย่าง Altan Urag (2002-) ในฐานะวงดนตรีมองโกเลียรุ่นพี่ที่แผ้วถางกรุยทางนำวิถีดนตรีท้องถิ่นมองโกเลียกับดนตรีร็อกโลกตะวันตกมาเจอกันจนมีชื่อเสียงโด่งดังจากการทำเพลงประกอบสื่อต่าง ๆ 

ไม่เพียงอิทธิพลจากภายในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการสร้างสรรค์ พวกเขายังชื่นชอบสุ้มเสียงของดนตรีร็อกโลกตะวันตกอย่าง Metallica, System of a down, Slipknot, Nirvana, Pantera, Sepultura, Korn, Tool, Linkin Park, Lamb of God ที่มีส่วนสำคัญต่อการก่อร่างสร้างตัวตนของพวกเขาขึ้น ส่งผลให้วงพวกเขาโดดเด่นอย่างมากในโลกดนตรีโฟล์กเมทัลยุคปัจจุบัน 

 

พวกเขาต้องการอะไร?

The HU พยายามที่จะส่งผ่านทั้งแนวคิดและกลิ่นอายของเหล่าบรรพบุรุษชาวมองโกลที่เคยใช้ดนตรีเพื่อสื่อสารกับธรรมชาติ ในสายตาของพวกเขา ตัวตนที่เกิดขึ้นท่ามกลางธรรมชาติเหล่านั้น เป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยพลังงานบวก ทำให้การสร้างสรรค์ทั้งดนตรีและเนื้อเพลงไม่เพียงแต่เป็นการผลิตสรรพเสียงทางดนตรีใหม่ หากแต่ยังมีพันธกิจหนึ่งคือการแบ่งปันพลังงานบวกให้โลกรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขาผ่านการแสดงดนตรี ในทุกครั้ง พวกเขาอยากให้ทุกคนที่เข้ามารับฟังได้รับพลังงานบวกกลับไปเสมอ

ดังนั้น ทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่พวกเขาหยิบฉวยนำมาใช้ จึงเปรียบเสมือนเคล็ดลับที่มัดใจผู้คนให้หลงใหล ถึงแม้จะไม่เข้าใจในภาษามองโกลที่พวกเขาสื่อสารออกมาเลยก็ตาม แต่กลับรับรู้ได้ผ่านสภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น จนจับจิตจับใจผู้คนให้อยากโยกหัวตามจังหวะเพลงของพวกเขาโดยไร้เงื่อนไขทางภาษา ผนวกกับการใช้ดนตรีเฮฟวีเมทัลในยุค 80s อันเป็นสื่อกลางสำคัญที่เชื่อมร้อยวัฒนธรรมท้องถิ่นกับสุ้มเสียงของดนตรีเมทัลตะวันตก จนกลายเป็นผลลัพธ์ใหม่ทางดนตรีในแบบโฟล์กเมทัล

มากไปกว่านั้น ดนตรีโฟล์กเมทัลคือสิ่งซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมลูกผสมครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในแทบยุโรปตอนเหนือ เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 ย้อนแย้งกับสภาวะของโลกที่สามซึ่งต้องเผชิญหน้าและโอบรับกับกระแสโลกาภิวัตน์อย่างยากที่จะปฏิเสธ 

แต่ในโลกที่หนึ่งกลับหันหลังและเข้าสู่การรื้อฟื้นวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดนตรีเมทัลได้ถูกตีความใหม่และเพิ่มช่องทางความเป็นไปได้ใหม่ที่จะนำเสียงดนตรีท้องถิ่นเข้ามาร่วมสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการสร้าง platform ใหม่ทางดนตรี ที่เปิดพื้นที่สร้างสรรค์และตีความวัฒนธรรมดนตรีเมทัลเดิมให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อต่อรองอำนาจนำทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม โดยเลือกใช้กลไกทางวัฒนธรรมดั้งเดิมมาเป็นเครื่องมือต่อสู้ และเพื่อแสวงหาตัวตนและจุดยืนที่ท้าทายกับกระแสหลักของโลกที่เป็นสากล 

การรื้อฟื้นวัฒนธรรมที่เคยถูกละเลยนำมาปัดฝุ่นและห่อหุ้มใหม่ ส่งผลให้วัฒนธรรมท้องถิ่นดั้งเดิมนั้นสามารถที่จะดำรงอยู่ท่ามกลางอัตราเร่งใหม่ได้อย่างไม่สะดุด ดังที่ปรากฏจาก The HU ที่พยายามประยุกต์เครื่องดนตรีมองโกเลียดั้งเดิมอย่าง Morin Khuur หรือซอหัวม้า ให้มีลักษณะที่เหมาะสมที่จะเล่นได้กับดนตรีที่พวกเขาอยากจะเล่น 

จากซอที่มีชื่อเรียกว่า เจ้า Thunder หรือสายฟ้า จึงเป็นสิ่งซึ่งสะท้อนถึงความพยายามหาจุดสมดุลระหว่างความเป็นตะวันออกและตะวันตก โลกเก่ากับใหม่ เข้าไว้ในลักษณะของวัฒนธรรมลูกผสม ที่ช่วยต่อลมหายใจให้คนรุ่นหลังได้เห็นคุณค่ารวมถึงเบิกหูให้คนนอกวัฒนธรรมมองมองโกเลียด้วยสายตาใหม่ และสร้างความภาคภูมิใจที่สามารถต่อรองความหมายใหม่กับเหล่าจักรวรรดินิยมทางทั้งทาง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม เอาไว้ในแบบลูกผสมระหว่างความเป็นท้องถิ่นนิยมกระแสโลกาภิวัตน์ (Globalization)

สำหรับวง The HU ที่โด่งดังไปทั่วโลกนั้น แน่นอนว่า รัฐบาลมองโกเลียไม่ได้นิ่งนอนใจและเห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะฉกฉวยโอกาสนี้เพื่อใช้พวกเขาในฐานะทูตทางวัฒนธรรม รับหน้าที่เผยแพร่ความงาม อำนาจทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ให้โลกได้รับรู้ผ่านเสียงดนตรี และพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากทั้งภายในและภายนอกให้แสดงในเทศการดนตรีสำคัญ ๆ ในปัจจุบัน อย่างเทศกาล Coachella และยังร่วมงานกับศิลปินเมทัลในตำนานหลายวงหรือแม้แต่เกม Star Wars ก็ยังปรากฏบทเพลงของพวกเขาอยู่ในนั้น

 

เรื่อง: กุลธีร์ บรรจุแก้ว

ภาพ: แฟ้มภาพจาก Getty Images