01 ธ.ค. 2566 | 15:00 น.
- ท่ามกลางกระแส T-Pop ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง BUS คือหนึ่งในบอยแบนด์น้องใหม่ที่เข้ามาเติมสีสันให้กับวงการ
- แม้ต่างคนต่างที่มา แต่พวกเขามีความฝันเดียวกัน คือการเป็นศิลปิน
- ถึงจะเป็นเพียงก้าวแรกในวงการบันเทิง แต่ BUS ก็เป็นศิลปินอีกวงหนึ่งที่น่าจับตามอง และหวังว่าจะดังไกลทั้งในและต่างประเทศ
BUS คือชื่อวงอย่างเป็นทางการของเด็กฝึก 789 trainee จำนวน 12 คนที่ผ่านบททดสอบจากรายการ 789 SURVIVAL รายการเซอร์ไวเวอร์ค้นหาเด็กหนุ่มที่ฝันอยากเป็นศิลปิน
โดยรายการ 789 SURVIVAL เป็นโปรเจกต์และรายการใหม่ของ ‘ย้ง’ ทรงยศ สุขมากอนันต์ อดีตผู้บริหารนาดาวบางกอกที่เคยสร้างนักแสดงและนักร้องประดับวงการไทยมากมาย เช่น ‘ต่อ’ ธนภพ ลีรัตนขจร, ‘เก้า’ สุภัสสรา ธนชาต, ‘บิวกิ้น’ พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ ‘พีพี’ กฤษฏ์ อำนวยเดชกร
เหตุผลที่ใช้ชื่อเป็น ‘789’ เพราะไม่มีใครรู้ว่า สุดท้ายจะมีเด็ก 7 8 หรือ 9 คนที่จะได้เป็นศิลปินคนใหม่ให้กับวงการ T-Pop
“พี่ขออนุญาตชาเลนจ์ตัวเอง และขออนุญาตทีมงานว่า เราลองมาทำสิ่งยาก ๆ กันไหม ด้วยการตัดสินใจว่า ขอเดบิวต์กรุ๊ปนี้ด้วยจำนวน 12 คน” ย้ง ทรงยศพูดในตอนสุดท้ายของรายการ 789 SURVIVAL
สมาชิก 12 คนที่ผ่านเข้ารอบ ประกอบด้วย ‘อลัน’ พศวีร์ ศรีอรุโณทัย, ‘มาร์ค’ กฤษณ์ กัญจนาทิพย์, ‘ขุนพล’ ปองพล ปัญญามิตร, ‘ฮาร์ท’ ชุติวัฒน์ จันเคน, จินวุค คิม, ‘ไทย’ ชญานนท์ ภาคฐิน, ‘เน็กซ์’ ณัฐกิตติ์ แช่มดารา, ‘ภู’ ธัชชัย ลิ้มปัญญากุล, ‘คอปเปอร์’ เดชาวัตร พรเดชาพิพัฒ, ‘เอเอ’ อชิรกรณ์ สุวิทยะเสถียร, ‘จั๋ง’ ธีร์ บุญเสริมสุวงศ์ และ ‘ภีม’ วสุพล พรพนานุรักษ์
บทความนี้ชวนทำความรู้จัก และออกเดินทางไปสำรวจเส้นทางของทั้ง 12 คนที่เต็มไปด้วยการทลายขีดจำกัดในใจและความสามารถของตัวเองเพื่อเป็นศิลปินหน้าใหม่ในวงการเพลงไทย
LIMIT BREAK ทะยานสู่ความฝัน
“หัวใจฉันมีไว้ชน แค่มองขึ้นไปข้างบน ร้อนแรงเหมือนไฟลุกโชน”
คือท่อนหนึ่งของเพลง LIMIT BREAK เพลงประจำรายการ 789 SURVIVAL ที่พูดถึงการทลายขีดจำกัดของตนเอง เพื่อทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง
ความฝันเดียวกัน แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวของชีวิตเด็กฝึก บางคนมองว่านี่คือความท้าทาย บางคนมองว่านี่คือโอกาส และบางคนก็อาจจะมองว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของความฝัน
ยกตัวอย่างเช่น ‘ขุนพล’ ปองพล ปัญญามิตร ที่เคยมีผลงานในบทบาทของ ‘บาส’ จากซีรีส์เรื่องแปลรักฉันด้วยใจเธอ ที่มีนักแสดงนำเป็น ‘บิวกิ้น’ พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ ‘พีพี’ กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และเคยขึ้นเวทีคอนเสิร์ต FANTOPIA (งานมหกรรมรวมศิลปินที่จัดขึ้นปี 2563) มาแล้ว แต่เขาก็ยังเลือกพักสิ่งที่เขาเคยทำ มาเข้าร่วมโปรเจกต์นี้
“สุดท้ายผมเลือกมาทำไอดอล ด้วยเหตุผลที่ว่า การได้อยู่บนเวที การได้อยู่กับผู้คน ตอนที่เดินสายแปลรัก (ซีรีส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ) หรือการที่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตแฟนโทเปีย เป็นจุดที่ทำให้ผมรู้สึกว่า การที่ไม่ได้อยู่แค่ในจอ แต่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนจริง ๆ บนเวที ผมชอบบรรยากาศแบบนั้น ซึ่งมันก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจมาเลือกเส้นทางไอดอลด้วย”
ขณะที่ ‘คอปเปอร์’ เดชาวัต พรเดชาพิพัฒ ผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายจากรายการ The Star Idol การเข้ามาในรายการถือว่าเป็นตัวเต็งของรายการ เพราะคอปเปอร์เป็นหนึ่งในสมาชิกที่ได้รับคำชมและมีคะแนนสูงมาตลอด แต่บางครั้งเขาก็มีข้อผิดพลาดเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ คอปเปอร์พูดความรู้สึกหลังจากแพ้ในมิชชันแบทเทิลว่า
“ก็ไม่ได้เสียดายแต่เสียใจที่ไม่ได้ชนะ แต่ว่าก็ทำเต็มที่แล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องเสียดาย ก็เรายังชนะไม่ได้ตอนนี้ แต่ว่าก็ไม่ได้เสียดายที่ตัวเองแพ้ ถึงแพ้รอบนี้ก็ยังสู้ต่อไป”
ส่วน ‘มาร์ค’ กฤษณ์ กัญจนาทิพย์ เด็กหนุ่มที่บินตรงมาจากสหรัฐอเมริกา อดีตเด็กฝึกจากค่ายเจวายพี เอนเตอร์เทนเมนต์ (JYP Entertainment) ค่ายเพลงชื่อดังจากเกาหลี จากที่ไม่รู้ว่าชอบอะไรและไม่เข้าใจการเป็นศิลปิน ระหว่างเข้าร่วมรายการเขาเลยทุ่มสุดตัว เพื่อไม่ให้กลับมานึกเสียดายทีหลัง
“มีหลายคนถามว่า มาร์คทิ้งชีวิตที่อเมริกามาอยู่ที่นี่ ไม่เสียดายเหรอ แต่ว่าพอได้ทำงานมาเรื่อย ๆ ก็ไม่รู้สึกเสียดายเลยครับ ไม่เสียดายสักวินาทีที่ได้ทำงานร่วมกับทุกคนที่นี่”
ไม่เพียงแค่ขุนพล คอปเปอร์ หรือมาร์ค แต่เราก็เชื่อว่าสมาชิกของรายการทุกคนต่างทุ่มแรงกาย แรงใจ เพื่อทลายขีดจำกัดของตัวเอง เพื่อคว้าโอกาสและทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงเหมือนกัน
ก้าวข้ามคำว่าเทรนนี
“อยากก้าวข้ามคำว่าเทรนนี อยากเป็นศิลปิน อยากเป็นโรลโมเดลให้ได้”
มาร์คพูดในรายการ 789 SURVIVAL เพราะรู้ดีกว่าใครว่า เส้นทางก่อนเป็นศิลปินมันไม่ใช่เรื่องง่าย และยังมีหลากหลายเรื่องราวที่เขาได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น
รวมถึง ‘เน็กซ์’ ณัฐกิตติ์ แช่มดารา หนึ่งในสมาชิกที่ได้เดบิวต์ก็บอกว่า ขอบคุณคนรอบตัวและตัวเองในความพยายามและความซื่อสัตย์ต่อความฝัน
“ขอบคุณทุกคนมากครับ อย่างแรกเลยคืออยากจะขอบคุณแฟน ๆ ที่ทุกคนน่ารักกับผมมาก ๆ ความจริงใจและความหวังดีจากทุกคน ผมขอบคุณมากครับ ขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานและไดเรกเตอร์ และครอบครัวที่เป็นที่พักพิงให้ผมเสมอ ขอบคุณเพื่อน ๆ และตัวเองที่พยายามและซื่อสัตย์กับความฝันของตนเอง”
แล้วการไม่ได้เดบิวต์ครั้งนี้ก็ไม่ได้แปลว่า การเป็นศิลปินของพวกเขาจะจบลง เพราะ ย้ง ทรงยศ เองก็มองเห็นศักยภาพในตัวผู้เข้าแข่งขันทุกคน เขาบอกว่า “พี่อยากบอกว่ามันเป็นการไม่ได้ไปต่อแค่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ พี่และทีมขอเวลาในการไปเดบิวต์กรุ๊ปผู้ชนะกรุ๊ปแรกก่อน และหลังจากนั้นพวกพี่จะกลับมาฟอร์มกรุ๊ปของพวกน้องเป็นกรุ๊ปต่อไป”
BUS ที่ออกเดินทางอย่างเปล่งประกาย
หลังจากจบรายการ เด็กทั้ง 12 คนก็ใช้ชื่อว่า 789 SURVIVAL ในการออกงานและทำกิจกรรม รวมถึงยังเป็นชื่อคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเขาด้วย
จนมาถึงวันที่พวกเขามีชื่อวงอย่างเป็นทางการ นั่นคือ BUS ที่ย่อมาจากประโยคเต็ม ‘Because of You I Shine’ ซึ่งประกอบด้วย ตัว B จากคำว่า Because of ตัว U จากคำว่า You และตัว S จากคำว่า Shine เพื่ออธิบายว่า เด็กหนุ่ม 12 คนไม่สามารถเปล่งประกายได้ด้วยตัวเอง แต่พวกเขาเปล่งประกายได้ เพราะได้รับความรัก ได้รับการซัพพอร์ตจากทุกคน
จากวันแรกที่พวกเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ต่างคนต่างที่มา แต่มีฝันเดียวกัน คือการเป็นศิลปิน
พวกเขาซ้อมหนัก รักษาจุดแข็ง พัฒนาจุดอ่อน และดูแลกันมาตลอด แล้ววันที่ 6 ธันวาคม 2566 นี้ พวกเขาก็จะได้เปิดตัวในฐานะศิลปินวง BUS ศิลปินวงใหม่ที่จะมอบสีสันใหม่ ๆ ให้กับวงการ T-Pop ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน
‘ปรุง’ ทัชระ ล่องประเสริฐ (ตำแหน่ง Artist Strategy Director ค่าย Sonray Music) เคยให้สัมภาษณ์กับรายการเรื่องของเรื่องไว้ว่า เขาอยากให้ BUS เป็นกำลังใจให้เด็กที่มีฝันและอยากเป็นศิลปิน
“อยากให้เด็กหนุ่มเหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจเล็ก ๆ ให้เด็กอีกหลายคน ว่าพื้นที่เขาไม่ได้มีแค่ที่เกาหลี พื้นที่เขามีในที่นี่เหมือนกัน (ประเทศไทย) เราอยากทำให้เขาเห็นว่าที่ตรงนี้ก็มีที่ยืน และเราจะทำให้มันได้”
แล้วเราจะตั้งตารอคอยการเดบิวต์ของพวกเขา พร้อมทั้งจะคอยเป็นกำลังใจให้กับเส้นทางศิลปินของพวกเขาในอนาคตที่อาจจะเป็นบอยกรุ๊ปน้องใหม่ของไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในระดับโลกเหมือนกับศิลปินรุ่นพี่วงอื่น ๆ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทยเก่ง และมีความสามารถเหมือนกัน
เรื่อง : นิภาภรณ์ แพงจำปา The People Junior
ภาพ : Instagram bus.becauseofyouishine
อ้างอิง :