Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

‘Fyeqoodgurl’ หรือ ฝ้าย - สุมิตตา ดวงแก้ว ศิลปินที่โด่งดังจากคลิปไวรัลคัฟเวอร์เพลงเกาหลีไม่ถึง 1 นาที และเชื่อว่าตัวเองจะเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

KEY

POINTS

  • ฝ้ายเป็นคนเหนือที่เลือกเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ พื้นที่ที่ทำให้เธอได้เป็นตัวเอง
  • เธอคือศิลปินที่โด่งดังจากคลิปไวรัลคัฟเวอร์เพลงเกาหลีไม่ถึง 1 นาที และเป็นหญิงไทยคนเดียวในรายการค้นหาเกิร์ลกรุ๊ปในเกาหลีใต้
  • สำหรับเธอ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าตัวเอง และนิยามว่าตัวเองเป็นนักสู้ที่ไม่หยุดสู้และไม่หยุดทำสิ่งที่เธอรัก

“ถ้าถามว่าแบบ best friends ของเราคือใคร ก็ต้องบอกว่าตัวเอง”

ในชีวิตของ ‘Fyeqoodgurl’ หรือ ฝ้าย - สุมิตตา ดวงแก้ว  ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความคิด ความรู้สึกของตัวเอง

แทนที่จะรับฟังเสียงภายนอก ฝ้ายเลือกจะเปลี่ยนจุดศูนย์กลางในใจของคนอื่นมาอยู่ที่ตัวเอง

ใช่ เธออายุ 28 ปี แต่บทเรียนชีวิตของเธอนั้นมากมายไม่แพ้ผู้ใหญ่คนอื่น ๆ และยังเป็นศิลปินที่ขับเคลื่อนด้วยแพสชัน บางครั้งก็เป็น auto pilot ที่ปรากฏในความรู้สึกของเธอ

แต่เธอก็เชื่อว่า ขอแค่ไม่หยุดทำ สู้ต่อไป แล้วสักวันหนึ่งจะเป็นวันที่เธอรอคอย

“เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นวันของเรา แต่ไม่อยากคาดหวังว่า ต้องวันนี้ พรุ่งนี้ หนึ่งเดือน สองเดือน หรือหนึ่งปี เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ขอแค่อย่าหยุดทำก็พอ”

The People คุยกับ ‘ฝ้าย’ ตั้งแต่ชีวิตในภาคเหนือ การเริ่มต้นใหม่ในกรุงเทพฯ และประสบการณ์ชีวิตที่บอกเธอว่า ‘ตัวเอง’ คือคนสำคัญที่สุดแล้ว

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

สาวเหนือขี้อายที่เก็บกระเป๋าเข้ากรุงเทพฯ 

ถึงวันนี้ ฝ้ายจะเป็นตัวเองเต็มที่และอยากทำในสิ่งที่อยากทำ แต่วัยเด็กเธอเป็นคนขี้อาย แต่สนุกและมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำมาตลอด

แม้ว่าวันนั้น จะยังไม่มีใครมองเห็นความสามารถที่ซ่อนอยู่ของเธอ

“เรื่องการชอบร้องเพลง น่าจะเริ่มตอนเด็ก ๆ ประมาณ 6 - 7 ขวบ ชอบดูบาร์บี้ แล้วก็ร้องเพลงบาร์บี้ เป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าร้องเพลงหรือเต้น แล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองทำได้ดีเท่าไร แค่รู้สึกว่าทำแล้วมีความสุขแค่นั้น”

ขณะเดียวกัน แทนที่ศักยภาพของเธอจะเปล่งประกาย ฝ้ายเล่าว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวทำให้เธอกลัวการถูกตัดสิน ศิลปินสาวคนนี้เลยเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เก็บกระเป๋าเข้ากรุงเทพมหานคร

“ตอนอยู่ภาคเหนือ รู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัยที่จะแสดงสิ่งเหล่านี้ออกมา กลัวโดนตัดสิน ไม่รู้ว่าเป็นกันเหมือนทุกที่ไหม แต่ว่าที่เราเจอมา คือ ถ้าใครอยากเด่นอยากดัง ก็จะโดนสายตาที่ไม่ดี อาจจะโดนเกลียด หรือโดนนินทา ก็เลยไม่ค่อยชอบความรู้สึกแบบนั้น เลยเลือกที่จะหนีออกจากสังคมนั้น”

เมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ เธอเป็นตัวเองมากขึ้น และทำให้รู้ว่า ไม่ได้มีใครมาสนใจชีวิตเราได้ขนาดนั้น ถึงจะกังวลอยู่บ้าง แต่ฝ้ายก็จะยังเลือกสิ่งที่เธอมีความสุข

“ตอนแรก เราก็กังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเราก็เลยไม่กล้าทำสิ่งที่เราชอบ แต่พอมาอยู่กรุงเทพฯ เราก็เออช่างแม่ง ใครจะคิดอะไรกับเราก็ช่างแม่ง อยากทำสิ่งที่เราชอบ อยากทำสิ่งที่เรามีความสุข”

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

ด้วยความชอบในเสียงเพลงมาตลอด เมื่อโอกาสมาถึง เธอเข้าร่วม TU Folk Song เห็นต้นแบบจากรุ่นพี่บนเวที นั่นคือจังหวะแรกที่เธอเลือกไล่ตามความฝันการเป็นศิลปิน

ในสายตาของเธอ การเป็นศิลปินไม่ใช่เรื่องง่าย และคิดว่าตัวตนของคนหน้าจอกับตัวจริงคงต่างกัน แต่เมื่อโตขึ้น สังคมเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน ทุกคนเป็นศิลปินได้หมด และใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป

“ตอนนั้นคิดว่า การเป็นศิลปินดูยากจัง แต่ตอนนี้รู้สึกว่าการเป็นศิลปินไม่ยาก ทุกคนเป็นศิลปินได้หมด สมัยเด็ก ๆ เราก็มาจากต่างจังหวัด ศิลปินเขาคงแบบ โอ้ยเขาคงหยิ่งหรือเปล่า แต่พอเราโต รู้สึกว่า ศิลปินหรือใครก็ตามเขาเป็นคนเท่ากันหมด แล้วก็ ใครก็เป็นศิลปินได้ ไม่จำเป็นต้องมีความคิดที่ว่า ศิลปินกับคนทั่วไปต่างกัน

“บางคนเจอตัวจริงหนูก็ทักว่าทำไมฝ้ายไม่หยิ่งเลย เราก็เลยคิดว่าทำไมต้องหยิ่ง ทำไมต้องทำตัวต่างจากเขา หรือทำตัวให้อยู่เหนือกว่าคนอื่น ด้วยความที่เราก็ไม่ชอบที่ให้ใครมา treat กับเราอย่างนั้นอยู่แล้ว เราก็เลยไม่ treat อย่างนั้นกับคนอื่นด้วยเช่นกัน ก็เหมือนแฟร์ ๆ เราก็เป็นคนด้วยกันหมด”

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต รวมถึงการเป็นศิลปิน เธอเองก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวเห็นว่า เธอทำได้และไปต่อในเส้นทางนี้ได้

“ตอนเด็ก ๆ เขาไม่ได้สนับสนุนเลย เขาอยากให้ตั้งใจเรียนเป็นแอร์โฮสเตส ซึ่งเราก็ตั้งใจเรียนให้เขาแล้ว สอบแอร์ให้เขาแล้วด้วย ติดทุกที่ที่เขาอยากให้ติด แต่สุดท้ายแล้วก็ขอเลือกชีวิตตัวเอง

“พิสูจน์ให้เขาเห็นว่า เรารับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ เราเลือกสิ่งนี้ เราจัดการมันได้  พอเขาเห็นว่าเราทำได้ เขาก็ปล่อย”

ถ้าไม่หยุดทำ ต้องมีสักวันหนึ่งที่เป็นวันของเรา

ฝ้ายผ่านมาแล้ว ทั้งบทบาทการเป็นศิลปินและนักแสดง มีทั้งจุดสูงสุดและจุดที่ราบเรียบ แต่เธอไม่เคยท้อ และเลือกที่จะเดินตามเส้นทางที่เธอเลือก ทำสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หยุด

เธอไม่ได้เอาชีวิตของตัวเองไปผูกกับความคาดหวังของใคร แต่ปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามจังหวะและเวลาของมันเอง

“เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นวันของเรา แต่ก็ไม่อยากคาดหวังว่า ต้องวันนี้ พรุ่งนี้ ภายในหนึ่งเดือน สองเดือน หรือหนึ่งปี อยากให้มันเป็นไปตามเวลาของชีวิต เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ขอแค่อย่าหยุดทำก็พอ”

เหมือนกับวันที่เธอหมดไฟ เพราะทำเท่าไรก็ยังเหมือนเดิม แต่สุดท้ายด้วยความรู้สึก ด้วยสัญชาตญาณบางอย่าง เธอลุกขึ้นมาคัฟเวอร์เพลง ‘Hype Boy’ ของศิลปินเกาหลี ‘Newjeans’ ปรากฏว่ากลายเป็นไวรัล มีคนเข้ามาดูและฟังเสียงของเธอใน YouTube มากกว่า 700,000 ครั้ง และมียอดกดไลก์ในติ๊กต็อก 400,000 กว่าครั้ง 

“ตอนที่ทำ Hype Boy หนูรู้สึกหมดไฟ ไม่อยากทำแล้ว แต่อะไรไม่รู้ดลใจให้หนูทำ short cover ของ Hype Boy นั้นออกไป กลายเป็นว่าแมส หนูได้รับโอกาสมากมาย ได้ไปเกาหลี ได้ไปเจอพี่แทยอนที่ Queendom ทำงานร่วมกับศิลปินเกาหลีมากมาย กลายเป็นว่าแค่ cover สั้น ๆ ประมาณ 50 วิ ที่เราไม่ได้หยุดทำตอนนั้น ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลย

“ทำให้คิดว่า ห้ามหยุด ถ้าหยุด มันจะไม่มีโอกาสเลย บางทีสมมติโอกาส 5 เปอร์เซ็นต์ 2 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี ดีกว่าศูนย์เปอร์เซ็นต์ ใช่ไหมคะ”

การเป็นหญิงไทยคนเดียวในรายการ Queendom รายการที่สมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่จากเกาหลีใต้ที่ฝ้ายบอกว่า เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า และคิดว่าไปสนุก ถึงจะไม่ชนะก็ไม่เป็นไร

“เอาจริง ๆ แค่ได้ไปก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มแล้ว ก่อนไป คิดหนักเหมือนกันว่าจะไปหรือไม่ไป เพราะไม่ชอบการแข่งขัน เหนื่อยทางใจมากพอแล้ว ไม่อยากเอา Mental Health ไปเสี่ยงอีก แต่ก็คิดว่า โอกาสนี้มันไม่ได้มาง่าย ก็เลยคว้าโอกาสนั้นมา แล้วก็คิดกับตัวเองว่า ไม่ต้องคิดว่าไปแข่ง คิดว่าไปเอนจอย ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ได้ประสบการณ์ก็พอแล้ว”

มากกว่านั้น ยังเป็นโอกาสที่ทำให้เธอได้เจอกับ ‘แทยอน’ ศิลปิน สมาชิกวง Girl’s Generation ที่เธอชื่นชอบตั้งแต่มัธยม

“สมัยมัธยมก็เป็นติ่ง ติ่งพี่แทยอนนี่แหละ ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งเราจะได้เจอพี่แทยอนตัวจริงอยู่ข้างหน้าเรา ฟังเสียงเรา เรียกชื่อเรา ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนกรี๊ดพี่เขาอยู่หน้าคอมพ์ แล้ววันนี้ได้มาเจอพี่เขาตัวจริง “

นอกจากนี้ในรายการเธอยังพูดทิ้งท้ายการแนะนำตัวไว้ว่า “Fyeqoodgurl can make anything possible” (Fyeqoodgurl จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้)

เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของคติประจำใจนี้ ฝ้ายบอกว่า เพราะเธอเชื่อมั่นในตัวเองมาเสมอว่า เธอทำได้

“ปกติหนูมี motto คือ nothing is impossible เราก็เลยใช้ประโยคนั้นบอกว่า ฝ้ายจะทำให้ everything possible ทำให้ทุกอย่างมันเป็นไปได้ อาจจะเพราะเมื่อก่อน พอมีเป้าหมาย เราก็ Go for it แล้วมันก็ Success ตามในสิ่งที่เราคิด 

“ความคิดเรา ถ้าบอกว่าไม่ได้มันก็จะไม่ได้ แต่ถ้าเกิดเราบอกว่าได้ มันก็จะได้ อันนี้คือเป็น Mindset ที่เรามีมาตลอด”

วันนี้ฝ้ายก็ยังทำสิ่งที่เธอรักต่อไปและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้วันหนึ่งที่เป็นของเธอ วันที่ผู้คนตอบรับ ‘Fyeqoodgurl’ จนมีเวิลด์ทัวร์ของตัวเองแบบที่ฝันไว้

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

เพื่อนที่สนิทของตัวเรา คือตัวเราเอง

สำหรับฝ้าย สิ่งที่ยากที่สุดของการเป็นศิลปิน คือ การดูแลและประคับประคองใจตัวเอง

“เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับว่า ถ้าเกิดอยากจะมาอยู่ในจุดนี้ คือต้องจัดการกับ Mental Health ได้ดีมาก เพราะคนคิดว่า อยู่ตรงนี้ เขาสามารถพูดอะไรกับเราก็ได้ เพราะว่าคุณเป็น public figure”

วิธีการดูแลใจของฝ้ายอย่างหนึ่งคือการนั่งสมาธิ เปลี่ยนจุดโฟกัส ตัดปัจจัยภายนอก แล้วกลับมาโฟกัสที่ตัวเองให้มากที่สุด ไม่กดดันตัวเองจนมากเกินไป

“เราไม่สามารถไปเปลี่ยนความคิดของคนอื่นได้ แต่เราเปลี่ยนชีวิตเราให้มันดีขึ้นได้”

ฝ้ายบอกว่า ช่วงหนึ่งเธอเคยเป็นคนที่คิดอะไรก็พูด โพสต์ทุกอย่าง แต่วันนี้ เธอเรียนรู้แล้วว่า เสียงจากภายนอกอาจไม่สำคัญเท่าเสียงในใจตัวเอง เพื่อมอบความรักให้ตัวเองให้ได้มากที่สุด

“ให้ความรักกับตัวเองแล้วก็ให้ความรักกับคนรอบข้างเราให้มากขึ้น มี Circle ให้เล็กลง รักตัวเองให้มากขึ้น กล้าที่จะปฏิเสธมากขึ้น คนแบบไหนที่เรารู้สึกว่าเขาไม่ Respect เรา ไม่ให้เกียรติเรา เราก็กล้าที่จะตัดเขาทิ้งออกจากชีวิต ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องผิด ต้องคิดว่า ถ้าเราไม่ตัดเขาวันนี้ ในอนาคตชีวิตเราก็จะแย่กว่านี้”

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต บทเรียนต่าง ๆ ในชีวิตที่ฝ้ายถอดออกมาจากประสบการณ์ตลอด 27 ปีมาจากการทบทวนและพูดคุยกับตัวเองอยู่บ่อย ๆ 

บางครั้งก็รู้สึกขอบคุณผู้คนรอบตัว บางครั้งก็เขียนลงกระดาษ บางครั้งก็นั่งสมาธิ บางครั้งก็ปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้ 

“เป็นคนที่ใช้ชีวิตและใช้เวลากับตัวเองเยอะมาก พยายาม Heal พยายามเข้าใจตัวเอง เป็นเพื่อนรักของตัวเองให้ได้มากที่สุด

ถ้าถามว่าแบบ best friends ของเราคือใคร ก็ต้องบอกว่าตัวเอง เพราะเราอยู่กับเขามากที่สุด แล้วเราก็ต้องรักเขาให้มากที่สุด ยอมรับเรื่องดีและไม่ดี 

“ฝ้ายมีรอยสักที่เขียนว่า Perfectly perfect ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ว่าเธอก็สมบูรณ์แบบในตัวของเธอแล้ว”

จดหมายถึง ‘ฝ้าย’ ในอดีต และอนาคต

อย่างที่รู้ ฝ้ายเคยมีเพื่อนร่วมทางที่เดินไปด้วยกัน แต่วันนี้เธอคือศิลปินเดี่ยวที่เชื่อในตัวเอง และรักตัวเองมากกว่าใคร ๆ 

ด้วยบรรยากาศที่รายล้อมด้วยเมือง เงิน หรือแพสชัน สิ่งที่ฝ้ายต้องการ คือ ทำทุกทางไม่ให้ตัวเองหลงทาง 

“กอดตัวเองไว้ให้แน่น อยากทำอะไร ทำเลย ไม่ต้องมาสนใจว่ามันจะดังไม่ดัง เอาที่ชอบก่อน ถ้าเราชอบคนอื่นเขาก็จะชอบเหมือนกัน แต่ถ้าเกิดเรายังไม่ชอบงานตัวเอง แล้วคนอื่นเขาจะชอบงานเราได้อย่างไร”

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต

ณ วันนี้ ฝ้ายทำเพลงมาทั้งหมด 5 เพลง ส่วนใหญ่เธอแต่งเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง บรรยายห้วงอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงผ่านเสียงเพลงมาตลอด

“ส่วนใหญ่จะเขียนเพลงจากชีวิตจริง เพราะมันง่ายที่สุดในการสื่อสารออกมา เคยพยายามแต่งจากชีวิตคนอื่น แล้วรู้สึกไม่ค่อยอิน รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจริงใจ”

จากเด็กคนหนึ่งที่รักในเสียงเพลง เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่หยุดทำ ทำให้เธอได้รับโอกาสมากมาย ต่อยอดการเป็นศิลปินมาถึงวันที่เธอได้ร่วมงานกับศิลปินต่างชาติ

รวมถึงเพลงใหม่ล่าสุด ‘Now or Never’ ซิงเกิลล่าสุดที่ฝ้ายทำงานร่วมกับ ‘Xydo’ K- R&B Artists พูดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับสิ่งที่ต้องเลือกว่า “เธอจะเลือกฉันตอนนี้ หรือไม่ต้องมีฉันอีก”

ฝ้ายถือว่าเป็นศิลปินคนหนึ่งที่ผ่านเรื่องราวมากมาย แม้จะอายุเพียง 28 ปี เราจึงชวนเธอมองย้อนกลับไปถึงฝ้ายตัวน้อย เด็กสาวที่ดูบาร์บี้ รู้สึกไม่ปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา 

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต และนี่คือสิ่งที่เธออยากบอกกับตัวเองในอดีต 

“เมื่อก่อนเป็นคนที่มีแพสชันมาก เป็นคนที่มีพลังเยอะมาก เป็นคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ในการวิ่งไล่ตามอะไรบางอย่าง พอโตขึ้นโลกมันก็โบยตีเรา ให้ความใสซื่อมันหายไป บางทีก็ Burnout ก็อยาก remind ไว้ว่า อย่าเพิ่ง Burnout แพสชันวัยเด็กที่เคยมีมันแรงกล้ามาก ก็อยากให้เก็บมันไว้”

บางครั้งการเป็นคนที่ใสซื่อไม่ช่วยอะไร ทำให้เธอมองว่า เราไม่จำเป็นต้องใสซื่อ แต่ลุกขึ้นสู้บ้างก็ได้ เธอเคยรู้สึกว่าโลกไม่ยุติธรรม และต้องเผชิญความจริงทำให้ความใสซื่อและแพสชันหายไป 

“บางทีเราก็ต้องสู้บ้าง ถ้าเราไม่สู้ในโลกที่โหดร้าย เราก็จะกลายเป็นเหยื่อ”

เมื่อมองไปถึงอนาคต ฝ้ายอยากบอกตัวเองใน 5 - 10 ปีข้างหน้าว่า “รอก่อนนะ เดี๋ยวจะได้ไป World Tour เดี๋ยวจะซื้อรถในฝัน เดี๋ยวจะซื้อบ้านในฝัน”

Fyeqoodgurl : ศิลปินหญิงที่มีตัวเองเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญในชีวิต คีย์เวิร์ดสำคัญของฝ้ายตลอดการสัมภาษณ์ คือ ‘ตัวเอง’

ดังนั้น เมื่อถามถึงสิ่งที่เธอทำได้ดีและภูมิใจ คำตอบของเธอก็ยังเป็นคำตอบเดิม คือ การที่เธอได้พึ่งและทำหลาย ๆ อย่างด้วยตัวเอง

“เมื่อก่อน เราร้องให้คนอื่นมาช่วย จนรู้สึกว่า บางทีการรอ ไม่รู้ต้องรอไปอีกเมื่อไหร่ ทำไมเราไม่ลงมือทำเอง ตอนนั้นทำทุกอย่างเอง mix master เอง อัดเสียงเอง edit เสียงเอง แต่งเพลงเอง คือถ่ายวิดีโอ ตัดต่อทุกอย่างเอง ทำเองหมด 

“พอเราทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เราก็เลยไม่ได้ต้องการการสปอยล์จากคนอื่นขนาดนั้น เพราะเรายืนด้วยตัวเองได้  ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่า”

ทั้งหมดนี้ ทั้งเรื่องราว ประสบการณ์ และบทเรียนต่าง ๆ ทำให้เธอนิยามตัวเองว่าเป็น ‘นักสู้’ ที่ไม่หยุดสู้

“ไฟท์เตอร์ค่ะ ไม่หยุดสู้ เหมือนเราสู้อะไรมาเยอะ แล้วก็คิดว่าจะสู้ต่อไป”

 

เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ภาพ : กัลยารัตน์ วิชาชัย