เอมิลี อาร์มสตรอง : พลังเสียงบทต่อไปที่จะทำให้ Linkin Park หายใจอีกครั้ง

เอมิลี อาร์มสตรอง : พลังเสียงบทต่อไปที่จะทำให้ Linkin Park หายใจอีกครั้ง

เรื่องราวของ ‘เอมิลี อาร์มสตรอง’ (Emily Armstrong)  นักร้องนำหญิงคนใหม่ล่าสุดจากวงร็อก Dead Sara ที่กำลังมุ่งหน้าพา Linkin Park ไปสู่เรื่องราวบทใหม่กับอัลบั้ม From Zero ที่เป็นการกลับมาอีกครั้งในรอบ 7 ปี

KEY

POINTS

  • ‘เอมิลี อาร์มสตรอง’ (Emily Armstrong) นักร้องหญิงที่มาพร้อมพลังเสียงสุดแข็งแกร่งจาก Dead Sara ผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นนักร้องนำคนต่อไปของ Linkin Park
  • จุดเริ่มต้นของวง Dead Sara วงร็อกอัลเทอร์เนทีฟจากยุค 2000s เจ้าของผลงานอย่าง Weatherman และ Lemon Scent
  • ความท้าทายและแรงกดดันจากบทบาทครั้งใหม่ในการเติมเต็มช่องว่างให้กับ Linkin Park 

การจากไปของ ‘เชสเตอร์ เบนนิงตัน’ (Chester Bennington) ในปี 2017 ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของ Linkin Park ไปอย่างใหญ่หลวง เพราะนับจากปล่อยสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 7 อย่าง ‘One More Light’ มาในปีเดียวกัน สองเดือนก่อนหน้าเชสเตอร์จากโลกนี้ไป พวกเขาก็ยังไม่มีผลงานชุดใหม่เต็ม ๆ ออกมาอีกเลย

สมาชิกแต่ละคนต่างแยกย้ายไปคนละทิศละทาง มีเพียง ‘ไมค์ ชิโนดะ’ (Mike Shinoda) อีกหนึ่งนักร้องนำและโปรดิวเซอร์หลักของวงที่ยังคงเดินหน้าปล่อยผลงานเดี่ยวของตัวเองอยู่ จนกระทั่ง 7 ปีต่อมา Linkin Park ก็ได้ปล่อยเพลงใหม่ล่าสุดอย่าง ‘The Emptiness Machine’ หนึ่งในแทร็คจากอัลบั้มใหม่ล่าสุดในรอบ 7 ปีอย่าง ‘From Zero’ ร่วมขบวนชวนคอดนตรีมากมายต้องขนลุกกันไปตาม ๆ กัน ไม่แพ้กับการประกาศรวมตัวกันอีกครั้งของสองพี่น้อง ‘เลียม’ (Liam) และ ‘โนล’ (Noel) จาก Oasis หรือแม้แต่การปล่อยอัลบั้มใหม่อย่าง ‘Luck and Strange’ จาก ‘เดวิด กิลมัวร์’ (David Gilmour) 

แน่นอนว่าการกลับมาของ Linkin Park ทำให้แฟน ๆ ที่เติบโตมาพร้อม ๆ กับยุครุ่งเรืองของดนตรี Nu Metal ในช่วงยุคต้น 2000s ต้องพากันตื่นเต้นจนอยู่เฉยไม่ได้ ทว่าสิ่งสำคัญของการกลับมาในครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่ผลงานใหม่ที่เรากำลังจะได้ฟัง แต่รวมถึง ‘เสียงใหม่’ จาก ‘นักร้องนำคนใหม่’ ที่จะมาสานต่อช่องว่างของ Linkin Park ตั้งแต่การจากไปของเชสเตอร์ 

และบุคคลที่จะพา Linkin Park เข้าสู่การเดินทางบทใหม่ เธอมีนามว่า ‘เอมิลี อาร์มสตรอง’ (Emily Armstrong) 

บ้างอาจรู้จักเธอ แต่บ้างก็อาจไม่รู้ บ้างอาจมองว่าเธอเหมาะสม แต่บ้างอาจจะยังไม่แน่ใจ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามในบทความนี้ The People ขอร่วมเฉลิมฉลองการกลับมาของวงดนตรีอันเป็นที่รักในความทรงจำของใครหลายคน พร้อมชวนผู้อ่านไปรู้จักกับลมหายใจเฮือกใหม่ของ Linkin Park ว่าเธอคือใครกัน

ขุมพลังแห่ง Dead Sara

ย้อนกลับไปในปี 2005 ไม่นานหลังจากที่ Linkin Park ได้ปล่อยอัลบั้มยอดฮิตอย่าง Hybrid Theory และ Meteora ก็ได้มีวงร็อกอัลเทอร์เนทีฟนามว่า ‘Dead Sara’ ถือกำเนิดขึ้นโดยการก่อตั้งของมือกีตาร์นามว่า ‘ซูซี เมดเลย์’ (Siouxsie Medley) และนักร้องนำหญิงที่มาพร้อมเสียงอันทรงพลังนามว่า ‘เอมิลี อาร์มสตรอง’ (Emily Armstrong)

ทั้งเอมิลีและซูซีได้ร่วมเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 2002 ด้วยแรงบันดาลใจจากวงร็อกรุ่นก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น Led Zepplin, Fleetwood Mac รวมถึง Nirvana จนได้ก่อตั้งวงร็อกของตัวเองในนาม ‘Epiphany’ ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อดังที่เรารู้จักกันในปัจจุบันอย่าง ‘Dead Sara’ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง ‘Sara’ ของ Fleetwood Mac โดยที่ที่เอมิลีทำหน้าที่ทั้งร้องนำและเล่นเบส

เริ่มต้นโดยการบรรเลงเพลงในไนท์คลับในแอลเอตั้งแต่ปี 2005 ก่อนที่อีกสองปีต่อมา ในปี 2007 พวกเขาก็ได้ออกทัวร์ จนก่อตั้งค่ายอินดี้ของตัวเองนามว่า ‘Pocket Kid Records’ ในปี 2010 แต่หมุดหมายสำคัญของ Dead Sara ก็คือการปล่อยสตูดิโออัลบั้มแรกในชื่อเดียวกัน ที่มีเพลงดังอย่าง Weatherman และ Lemon Scent ถือเป็นบทเพลงที่สำแดงให้เห็นถึงพลังเสียงของเธออย่างชัดเจน

ผู้ฟังมากมายที่ได้ฟังเสียงของเธอต่างก็พากันบอกว่า เสียงของเธอเปี่ยมไปด้วยพลังและความละเอียดอ่อนอยู่ภายใน เพราะแน่นอนว่าเอกลักษณ์สำคัญคือความดิบและแข็งแรงมั่นคงในน้ำเสียงของเธอ แต่ในขณะเดียวกัน ภายใต้พลังนั้น เมื่อถึงคราวที่ต้องร้องมันในโทนที่แผ่วเบาและเปราะบาง เธอก็สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างดีเยี่ยม (เพลง Lemon Scent น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี)

ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้เธอถูกจดจำในฐานะนักร้องหญิงที่ทรงพลังและมีความสามารถเฉพาะตัว บ้างก็เปรียบเธอกับ ‘แจนิส จอปลิน’ (Janis Joplin) จากทศวรรษที่ 1960 เลยทีเดียว 

และเธอนี่แหละคือผู้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเรี่ยวแรงสำคัญในการเดินหน้าต่อไปของ ‘Linkin Park

 

จิ๊กซอว์ในช่องว่าง

อันนี้มันใช่การว๊ากไหมนะ?

ดูเหมือนมันจะเป็นการแหกปากแบบแปลก ๆ เสียมากกว่า

 

คือสิ่งที่ ไมค์ ชิโนดะ บรรยายถึงความรู้สึกในตอนที่เขาลองว๊ากแทนที่อดีตนักร้องนำผู้ล่วงลับอย่างเชสเตอร์ เมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับ Billboardเดฟ ฟาร์แรล’ (Dave Farrell) มือเบสของวงเองก็มองว่าไมค์อาจจะต้องไปให้สุดกว่านี้ ไมค์เอง ที่แม้จะเป็นนักร้องนำอีกคนของวง แต่ก็ร้องไปในท่อนแร็ปเสียส่วนใหญ่ก็มองว่าเสียงของเขาไม่เหมาะที่จะร้องแบบเชสเตอร์ได้ จึงเป็นโจทย์สำคัญให้กับ Linkin Park ว่าใครจะสามารถทำหน้าที่แทนเชสเตอร์ได้บ้าง

เอมิลี อาร์มสตรอง รวมถึง ‘โคลิน บริตเทน’ (Colin Brittain) ก็เป็นเหล่าคนที่กำลังร่วมงานกับ Linkin Park ในการก่อร่างสร้างอัลบั้มใหม่ล่าสุดขึ้นมาในปี 2019 และไมค์เอง เมื่อได้เห็นศักยภาพรวมถึงพลังเสียงของเอมิลีก็เลยรู้สึกว่าเธอคนนี้น่าจะเหมาะสมในการจะเดินหน้าต่อของวง รวมถึงน่าจะทำหน้าที่ได้ดีในการเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว จากในตอนแรกที่ Linkin Park มองว่าจะให้ศิลปินหลากหลายคนมาทำหน้าที่ร้องเพลงต่าง ๆ ในอัลบั้มนี้ ทว่าเดฟก็มองว่าแบบนั้นมันครึ่ง ๆ กลาง ๆ เกินไป ถ้าจะเดินหน้าไปทางไหน จะเลือกใครมาร้อง ก็ลุยทางนั้นไปเลย แม้ผู้คนอาจไม่ชอบ แต่เราก็มีหน้าที่แสดงความมั่นใจในสิ่งที่เราจะนำเสนอ

ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งเอมิลีหรือโคลินก็ล้วนมีหน้าที่ของตัวเอง กระทั่งในปี 2023 ไม่นานก่อนที่เอมิลีกำลังจะไปพักร้อน ไมค์จึงตัดสินใจว่าจะลองถามเธอในเรื่องนี้ — เรื่องการรับบทบาทจริง ๆ จัง ๆ ในวง Linkin Park — เพื่อว่าเธอจะได้เก็บไปคิดและให้คำตอบหลังจากที่กลับมา 

เฮ้ เอม มีอะไรจะถามนิดนึงน่ะ ช่วงนี้เรากำลังจะมีโชว์และเทศกาลดนตรีมากมายที่ต้องลุยเลยล่ะ และเราก็ทำงานกันมาร่วมปีแล้วนะ พวกเราเลยคิดกันว่าเธอน่าจะมาร้องเพลงเก่า ๆ ของเราได้ดีเลยล่ะ แล้วพวกเราก็หลงรักในสิ่งที่เธอทำมาก ๆ” คือสิ่งที่วง Linkin Park บอกกับเอมิลี

ในฐานะคนที่หลงใหล Linkin Park ตั้งแต่อัลบั้ม Hybrid Theory รวมถึงเพลงอย่าง One Step Closer ที่ทำหน้าที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ขับเคลื่อนให้เธอ ‘ว๊าก’ ในสมัยเริ่มเดินเส้นทางดนตรี สติของเธอแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อเผชิญกับข้อเสนอดังกล่าว ถึงขั้นว่าตอนที่เธอกลับเข้าไปอัดในสตูดิโอ เอมิลีต้องสงบสติอารมณ์อย่างมาก เธอบรรยายว่ามันเหมือนเธอได้ไปอยู่บนดินแดนแห่งความฝัน มันทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตเธอกำลังเปลี่ยนไปตลอดกาล… 

เอมิลีได้พูดคุยกับคนรอบตัวของเธอ หรือแม้แต่วง Dead Sara ถึงเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าข้อเสนอนี้คงเป็นคำตอบใดไปไม่ได้นอกจาก ‘ตกลง’ จึงทำให้ เอมิลี อาร์มสตรอง รับหน้าที่พลังเสียงเส้นใหม่ของ Linkin Park ในอัลบั้มใหม่ล่าสุดที่กำลังจะมาถึง

นอกจากนั้นแล้ว โคลิน บริตเทน โปรดิวเซอร์จากวง G Flip, Illenium, และ One OK Rock ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่จะเข้ามาร่วมในอัลบั้มใหม่ล่าสุดนี้ด้วย ในฐานะมือกลองแทน ร็อบ บัวร์ดอน (Rob Bourdon)

 

รำลึกถึงบทก่อน มุ่งหน้าสู่บทใหม่

 

ก่อนที่เราจะเป็น Linkin Park

วงแรกของพวกเราใช้ชื่อว่า Xero

 

ไมค์ ชิโนดะกล่าว และสำหรับอัลบั้มใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมสมาชิกใหม่ของวงอย่างเอมิลีและโคลินในชื่อ ‘From Zero’ จึงเปรียบเสมือนการสะท้อนเรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้นและเส้นทางที่ได้ดำเนินตลอดมาของ Linkin Park ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของดนตรีหรือแม้แต่ความรู้สึกที่จะถ่ายทอดไปหาผู้ฟัง ที่จะตอกย้ำเอกลักษณ์และความพิเศษของ Linkin Park ไว้ไม่เปลี่ยนไป เสมือนว่าวง ๆ นี้กลับมาหายใจอีกครั้งหลังจากหยุดไปตั้งแต่เสียเชสเตอร์  และมันจะเป็นการกลับมาในแบบฉบับที่สดใหม่กว่าเดิม เพื่อแฟน ๆ Linkin Park ที่ยังคงรอคอยเสียงเพลงจากพวกเขาให้กลับมาอีกครั้ง

The Emptiness Machine บทเพลงยาว 3 นาที จึงเป็นซิงเกิลแรกสุดจากอัลบั้มที่ถูกปล่อยออกมา ที่จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงความดุดันและทรงพลังจากการส่งไม้ต่อกันทางเสียงระหว่างไมค์ ชิโนดะ และ เอมิลี อาร์มสตรอง ที่เปรียบเสมือนสัญญาณบอกการกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ของพวกเขา ทั้งยังเป็นภาพแทนของเรื่องราวบทใหม่ที่ Linkin Park กำลังเดินหน้าไป โดยในโชว์ไลฟ์สตรีม Linkin Park และเอมิลี อาร์มสตรอง ก็ได้หยิบเพลงใหม่ล่าสุด รวมถึงเพลงฮิตมากมายจากอดีตไม่ว่าจะเป็น Numb, In the End, หรือ Papercut

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพลังเสียงของเอมิลีจะชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเธอในการร้องเพลงของ Linkin Park แต่ก็มีผู้ฟังบางคนที่อาจจะยังไม่ชินกับเสียงของเธอเท่าไหร่นัก และยังหวนคิดถึงเสียงของเชสเตอร์อยู่ และทางวงก็น่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้ดี โดยในระหว่างโชว์ ตอนเริ่มต้นของเพลง Crawling ไมค์ ชิโนดะก็ได้บอกกับผู้ชมว่า

 

สำหรับบทบาทของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน

คงต้องมอบให้พวกคุณทุกคนแล้วล่ะ

 

แน่นอนว่าการเข้ามาของเอมิลีไม่ใช่การมาแทนที่สิ่งที่เชสเตอร์ได้เคยฝากเอาไว้ แต่เป็นการสานต่อในทิศทางที่ต่างออกไป เป็นการเดินหน้าในแบบฉบับของ Linkin Park ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ถือเป็นการรับไม้ต่อและความกดดันมหาศาลในการเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการพา Linkin Park ไปในเรื่องราวบทต่อไปฃ

แม้เชสเตอร์ เบนนิงตัน จะไม่อยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เสียงและบทเพลงของเขาจะยังคงอยู่ในหัวใจของเราต่อไป เฉกเช่นเดียวกับการเดินทางไปข้างหน้าของ Linkin Park ที่แม้จะไม่มีเชสเตอร์เป็นน้ำเสียงหลักอีกต่อไป แต่พวกเขาก็ยังต้องเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานต่อไป และเอมิลี อาร์มสตรองก็จะเป็นคน ๆ นั้น ที่จะเดินหน้าพา Linkin Park ไปสู่ช่วงอายุต่อไป เป็นลมหายใจ เป็นเรื่องราวบทใหม่ และเป็นก้าวต่อไปที่จะทำให้พวกเขายังไม่เลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ดนตรี

 

อ้างอิง

Inside Linkin Park’s Secret Comeback | Billboard

Linkin Park: Rock giants set to release new album and introduce new singer - who is Emily Armstrong? | Edinburgh News

Linkin Park reveals new singer Emily Armstrong as band reunites 7 years after Chester Bennington’s death, dividing fans | New York Post

Who Is Emily Armstrong? Linkin Park’s New Vocalist / From Zero Album Announced | ALTWiRE