10 ส.ค. 2566 | 13:00 น.
- ‘เลสลี่ ดาร์ท’ (Leslie Dart) ชาวแคนาดาจากรัฐออนแทรีโอ ใช้เวลาว่างในช่วงฤดูร้อนเข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปัจจุบันเธอปลูกต้นไม้ไปแล้วจำนวน 372,290 ต้น
- ดาร์ทเชื่อว่าการปลูกต้นไม่ช่วยหล่อหลอมจิตวิญญาณของเธอให้แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะเผชิญกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
- นอกจากดาร์ทแล้ว ในอดีต ‘เคนนี แชปลิน’ (Kenny Chaplin) ชาวแคนาดาผู้สร้างสถิติปลูกต้นไม้คนเดียวมากที่สุดในโลกยังออกมาร่วมรณรงค์ให้เด็ก ๆ ปลูกต้นไม้ เพื่อให้เด็ก ๆ เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมผ่านวิธีการปลูกต้นไม้
ขุด - หยอด - กลบ
พฤติการณ์เหล่านี้แทบจะกลายเป็นกิจวัตรของ ‘เลสลี่ ดาร์ท’ (Leslie Dart) ชาวแคนาดาวัย 29 ปี จากรัฐออนแทรีโอ หลังจากเธอเข้าร่วมปฏิบัติการ ‘ปลูกต้นไม้’ ในพื้นที่รกร้างของรัฐบริติชโคลัมเบีย ซึ่งมักมีไฟไหม้แทบทุกครั้งที่ฤดูร้อนมาเยือน
ภารกิจฟื้นฟูผืนป่าของดาร์ทเริ่มขึ้นในฤดูร้อนปี 2020 โดยเธอใช้เวลา 19 ชั่วโมง ปลูกต้นไม้ราว 4,545 ต้นต่อวัน เพื่อทดแทนป่าที่เสียหายจากคลื่นความร้อน การหว่านเมล็ดพันธุ์ของเธอเริ่มเป็นที่รู้จัก หลังจากโพสต์คลิปวิดีโอลงช่อง TikTok ของตัวเองจนมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 8.7 ล้านครั้ง และเริ่มเป็นกระแสไวรัลทั่วโลกออนไลน์ เมื่อมีคนนำเรื่องราวของเธอไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Twitter
ดาร์ทเป็นเพียงคนธรรมดา เธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่นักเคลื่อนไหว ไม่ได้เรียนจบจากคณะวนศาสตร์ แทบจะไม่มีเรื่องราวใดเกี่ยวข้องกับธรรมชาติเลย แต่ในฐานะพลเมืองของประเทศ เธอเริ่มมองเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผืนป่าเริ่มร่อยหรอลงเต็มที จนแทบจะไม่มีป่าที่เธอเคยเห็นเมื่อครั้งเป็นเด็ก ไปจนถึงอากาศที่ทวีความโหดร้ายรุนแรงมากขึ้นทุกปี
ด้วยเหตุนี้ ดาร์ทไม่รอช้า เธอคว้าจอบพร้อมคาดกระเป๋าบรรจุเมล็ดต้นไม้ไว้จนแน่น พร้อมออกกอบกู้ผืนป่า แน่นอนว่าต้นไม้ทุกต้นที่เธอฝังลงไปในดิน ล้วนผ่านการคัดกรองจากกระทรวงป่าไม้ของบริติชโคลัมเบีย เธอไม่ได้หว่านโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมา เพราะทุกการกระทำของมนุษย์อาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อธรรมชาติได้ เธอจึงให้ความสำคัญและพร้อมปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
อีกทั้งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นการใช้เวลาว่างได้ ‘คุ้มค่า’ เพราะกิจกรรมปลูกต้นไม้เป็นหนึ่งในช่องทางหารายได้สำหรับนักศึกษา (ปัจจุบันเธอทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมอวกาศ) ต้นไม้ 1 ต้นจะได้รับค่าตอบแทนระหว่าง 13 - 27 เซนต์ต่อต้น
ใช่ว่าหน่วยงานรัฐไม่มีความพยายามที่จะปลูกต้นไม้ทดแทนส่วนที่เสียหาย หรือถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ พวกเขามีกฎระเบียบกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า บริษัทใดตัดต้นไม้ จะต้องปลูกต้นไม้ทดแทนในฤดูร้อนของทุกปีโดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ทางหน่วยงานรัฐเองก็มีความพยายามในการฟื้นฟู ป้องกัน ความเสียหายจากไฟป่าที่เกิดขึ้นทุกปี
“เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแต่ละวันอากาศจะแย่มากขนาดไหน บางวันไม่มีแดดก็จริง แต่ไม่กี่นาทีต่อมาฝนตกเสียอย่างนั้น ไม่ใช่ตกธรรมดา บางวันตกหนักมาก ลูกเห็บก็ตามมาอีก บางวันก็มีหิมะตกลงมา ฉันบอกเลยว่าคุณไม่มีทางรู้ว่าเราจะเจอกับอากาศแบบไหน
“บางช่วงฉันก็ต้องทนกับอากาศที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 37 - 40 องศาเซลเซียส มันไม่ใช่แค่วันสองวัน บางครั้งฉันต้องเจออากาศแบบนี้ลากยาวเป็นอาทิตย์ และนั่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักสำหรับฉันทีเดียว”
ถึงจะยากลำบากเพียงใด แต่สิ่งที่เธอทุ่มเทลงไปได้ผลิดอกออกผลอย่างงดงาม จากข้อมูลของกระทรวงป่าไม้ รัฐบริติชโคลัมเบีย พบว่ามีการปลูกต้นไม้ไม่ต่ำกว่า 1.6 พันล้านต้นนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไม้เกิดใหม่จำนวน 200 ล้านต้นต่อปี และ 372,290 ต้น ถูกปลูกขึ้นมาด้วยผู้หญิงเพียงคนเดียว
เจ้าหน้าที่ถึงกับเรียกปรากฏการณ์ครั้งนี้ว่า ‘คลื่นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่’ ที่ถาโถมเข้ามาเปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
นอกจากสถิติที่น่าตกใจของดาร์ทแล้ว ย้อนกลับไปราว 35 ปีก่อนที่ดาร์ทจะเริ่มปลูกต้นไม้ ในอดีตเคยมีอดีตทหาร ‘เคนนี แชปลิน’ (Kenny Chaplin) ชายคนแรกที่เริ่มปลูกต้นไม้ตั้งแต่อายุ 18 ปี แชปลินทุ่มเวลาแทบทั้งวันหมดไปกับการปลูกต้นไม้ และถูกบันทึกไว้ในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดปี 2001 ว่าเป็นชายที่ปลูกต้นไม้มากที่สุดในหนึ่งวันด้วยสถิติ 15,170 ต้น เท่ากับว่าเขาต้องปลูกต้นไม้เฉลี่ย 1 ต้นทุก ๆ 4.5 วินาที เป็นเวลา 19 ชั่วโมง แชปลินจึงไม่ต่างจากผู้ริเริ่มปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าของแคนาดา
“การปลูกต้นไม้เข้ามาเปลี่ยนจิตวิญญาณของผมอย่างสมบูรณ์...
“ผมคิดว่าการปลูกต้นไม้เป็นสิ่งที่ชาวแคนาดาสมควรทำ ผมอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนในแคนาดา สนับสนุนลูก ๆ ของพวกเขาให้ออกมาปลูกต้นไม้ เพราะมันสอนให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้โลกกว้าง สอนให้พวกเขาอดทนต่อโลกใบนี้ สอนให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ และยังสอนให้พวกเขารู้จักคุณค่าของเงิน เพราะเราไม่ได้ปลูกกันฟรี ๆ อยู่แล้ว รัฐเขามีเงินค่าตอบแทนให้”
ดาร์ทเองก็มีความเห็นในเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกับแชปลิน เธอบอกว่าการปลูกต้นไม้ช่วยเปลี่ยนชีวิตและจิตวิญญาณไปอย่างน่าอัศจรรย์ “มันทำให้คุณเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นโดยเฉพาะด้านจิตใจ และกิจกรรมนี้ยังทำให้คุณพร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในโลกใบนี้”
ส่วนดาร์ทจะยังอยู่ในเส้นทางการปลูกต้นไม้ต่อไปหรือไม่นั้น อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่สิ่งที่ยืนยาวที่สุดคงหนีไม่พ้นผลผลิตกว่า 3 แสนต้นที่เธอหว่านลงผืนดิน
ภาพ : Instagram /Leslie Dart
อ้างอิง :