An Enchanted Evening with Three Young Pianists คืนแห่งดนตรีของนักเปียโน Gen Z

An Enchanted Evening with Three Young Pianists คืนแห่งดนตรีของนักเปียโน Gen Z

ค่ำคืนแห่งมนต์เสน่ห์จากดนตรีของนักเปียโน Gen Z ในคอนเสิร์ต An Enchanted Evening with Three Young Pianists กับการบรรเลงเปียโนโดยคนรุ่นใหม่ เมล็ดพันธุ์ดนตรีที่ตอกย้ำว่า วงการดนตรีคลาสสิกในไทยจะเฟื่องฟูและมีมาตรฐานระดับนานาชาติได้

แสงสปอตไลท์สาดกระทบแผ่นไม้เคลือบเงาสีดำสะท้อนเป็นประกาย ตัดกับฉากหลังสีขาวทรงเหลี่ยมมุมสไตล์โมเดิร์น แกรนเปียโนสีดำหลังหนึ่งถูกตั้งอย่างสง่างามไว้ตรงกลางเวทีดั่งรถสปอร์ตคลาสสิกในโชว์รูม

ปลายนิ้วทั้งสิบร่ายรำและพลิ้วไหวบนคีย์บอร์ดผลักหัวค้อนให้กระทบสายเปียโน เกิดเป็นเสียงดนตรีสะท้อนพื้นปาเก้ ผนังและเพดานทรงจั่ว อบอวลไปทั่วห้องแสดงคอนเสิร์ตเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในย่านสาทร กลางกรุงเทพฯ

นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุนทรีในเวลาค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาให้ชาวกรุงเทพได้ชาร์จพลังก่อนเริ่มสัปดาห์ใหม่

คอนเสิร์ต “An Enchanted Evening with Three Young Pianists”  นี้ จัดขึ้นโดย Cornerstone Music และได้การตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากผู้ชมที่มากันจนเต็มหอแสดงดนตรีของสถาบันเกอเธ่ (ถนนสาทรซอย 1) ที่พร้อมใจกันต้อนรับการเปิดเมืองอย่างเต็มรูปแบบด้วยการแสดงของนักเปียโน Gen Z สายคลาสสิกรุ่นใหม่ 3 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่และกำลังจะไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยดนตรีชั้นนำระดับโลกอย่าง Yong Siew Toh Conservatory of Music แห่งมหาวิทยาลัย National University of Singapore

โดยปัญญากรและปภัทร์เพิ่งจบการศึกษาชั้นปี 1 ในระดับปริญญาตรีจากสถาบันดังกล่าว โดยเรียนเปียโนกับ Prof. Albert Tiu และชาคริตกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อที่นี่ในปีการศึกษาใหม่นี้

ในคอนเสิร์ตนี้ นักเปียโนทั้งสามคนได้สลับกันออกมาบรรเลงบทเพลงคลาสสิกที่คุ้นหูอย่างดื่มด่ำให้ผู้ชมได้ฟังกันอย่างจุใจ

เริ่มต้นด้วยการบรรเลงเปียโนของปภัทร์ เลิศชาญวิทย์ กับบทเพลง Etude Op.25 No.1 และ Op.10 No.11 ประพันธ์โดย Frederic Chopin ที่บรรเลงออกมาได้อย่างละมุนละไมและอ่อนหวาน แสดงถึงความเข้าใจในสไตล์ดนตรีของคีตกวีชาวโปแลนด์ที่ใช้เวลาราวครึ่งชีวิตในกรุงปารีส แม้ว่าการนำเสนอท่วงทำนอง (Melodic Projection) และการ ‘ยืดหยุ่นจังหวะ’ (tempo rubato) ยังฟังดูขัด ๆ อยู่บ้าง ต่อด้วยบทเพลง Pathetique Sonata อันลือชื่อของ L.van Beethoven ที่บรรเลงโดยปัญญากร เลิศนิมิตพันธ์

โดยในคอนเสิร์ตนี้ ปัญญากรเลือกนำเสนอท่อนที่สองที่เป็นท่อนช้า มีทำนองไพเราะคุ้นหู และท่อนที่สามซึ่งเป็นท่อนเร็ว เขาได้บรรเลงออกมาด้วยความประณีตและสละสลวย จนในบางครั้งอาจจะฟังดู ‘ละมุนละไมมากเกินไป’ในช่วงที่ดนตรีต้องการความเร้าใจดุดันในสไตล์ “moody Beethoven”  

ก่อนที่จะปิดท้ายครึ่งแรกด้วยการแสดงของชาคริต ขนอนเวช กับบทเพลง Sonata Op.2 No.3 ของ Beethoven ท่อนแรก ที่สามารถบรรเลงออกมาได้อย่างเมามัน ยิ่งใหญ่อลังการ น้ำเสียงเปียโนมีความหนักแน่นและมั่นใจ แม้จะขาดความแตกต่างของสีสันและน้ำเสียง (Tone Color) ในการเล่าเรื่อง (Story telling) ในบางช่วง 

 

ต่อด้วย Barcarolle in F-Sharp Major ของ Chopin ที่อาจจะขาดความประณีตในน้ำเสียงและบรรเลงอย่างหนักหน่วงเกินสไตล์ของโชแปงไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นการแสดงบนเวทีที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อย

ในช่วงพักครึ่ง นักเปียโนทั้งสามได้ออกมาทักทายผู้ชมและญาติมิตรอย่างอบอุ่นและอย่างเป็นกันเอง โดยผู้ชมทุกท่านก็ยังคงร่วมกันใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นนิมิตหมายของการเข้าชมคอนเสิร์ตแบบ new normal ที่สร้างความอุ่นใจได้เป็นอย่างดี

ก่อนที่จะเปิดตัวครึ่งหลังด้วยการบรรเลงของปัญญากรกับบทเพลง 2 Nocturnes Op.27 ของ Chopin ที่บรรเลงเพลงออกมาได้อย่างละเอียดและงดงาม มีสีสันของ Harmony ที่แปรเปลี่ยนไปมาอย่างงดงาม ท่วงทำนองมีความลึกซึ้ง อ่อนช้อยและละเมียดละไม เป็น “night music” ที่น่าประทับใจในค่ำคืนนี้

An Enchanted Evening with Three Young Pianists คืนแห่งดนตรีของนักเปียโน Gen Z

คอนเสิร์ตดำเนินต่อไปด้วยการบรรเลงของปภัทร์ในบทเพลง Abegg Variaitons Op.1 ซึ่งเป็นผลงานที่ถูกตีพิมพ์เป็นชิ้นแรกของคีตกวีชาวเยอรมัน Robert Schumann ซึ่งในเพลงนี้ Schumann ได้ใช้ตัวอักษร “A-B-E-G-G” ซึ่งนำมาจากชื่อของ “เพื่อนสาว” คนที่หนึ่งที่ชื่อ Meta Abegg มาเป็นโครงสร้างหลักของทำนอง

แม้จะเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นในช่วงต้น ๆ ของชีวิตการแต่งเพลงของ Schumann แต่ตัวเพลงก็มีความยากและท้าทายทางเทคนิคอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้การบรรเลงของปภัทร์ อาจมีการติดขัดอยู่บ้างในบางจุด กระนั้นปภัทร์ ก็สามารถบรรเลงท่วงทำนองที่ไหลลื่นได้อย่างพลิ้วไหวและไพเราะละมุนละไมทำให้ผู้ชมได้เคลิบเคลิ้มตามไปจนจบ 

การแสดงดำเนินมาสู่ช่วงสุดท้ายกับการกลับมาบนเวทีของชาคริตกับท่อน Prelude จาก English Suite No.4 in A Minor ผลงานของ Johann Sebastian Bach ที่ชาคริตบรรเลงออกมาได้อย่างสนุกและน่าติดตาม หากแต่จะยังขาดความ ‘elegance’ ไปบ้าง และน้ำเสียงของบทเพลงฟังดูหนักหน่วงและเมามันเกินขอบเขตของดนตรียุคบาโรคไปสักหน่อย

ก่อนที่จะปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง Rigoletto Paraphrase ประพันธ์โดย Franz Liszt คีตกวีชาวฮังการีผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเทพด้านเปียโนตลอดกาล

ในบทเพลงนี้ Liszt ได้นำท่วงทำนองและแนวคิดด้านดนตรีจากบทเพลงในโอเปร่าเรื่อง ‘Rigoletto’ ของ Verdi มา “รีมิกซ์” สร้างเป็นบทเพลงใหม่ และด้วยความเป็นปรมาจารย์ด้านเปียโน Liszt ก็ไม่ลืมที่จะใส่เทคนิคการเล่นที่มีความยากและท้าทายอย่างยิ่ง (virtuosity) ลงไปในบทเพลง

ซึ่งชาคริตก็ได้นำเสนอสิ่งนี้ออกมาอย่างดีเยี่ยมอย่างไม่ติดขัดหรือเคอะเขิน แม้สีสันของน้ำเสียงเปียโนอาจจะไม่ค่อยมีความหลากหลายเท่าที่ควร แต่ความ ‘virtuoso’ ของชาคริตก็เรียกเสียงฮือฮาโห่ร้องจากผู้ชมในตอนจบได้เป็นอย่างดี

An Enchanted Evening with Three Young Pianists คืนแห่งดนตรีของนักเปียโน Gen Z

ช่วงท้ายของคอนเสิร์ต นักเปียโนสามคนได้รับเกียรติรับช่อดอกไม้จากศาสตราจารย์ธงสรวง อิศรางกูร ก่อนที่ ผศ.ดร.นภนันท์ จันทร์อรทัยกุล ผู้เป็นอาจารย์ของนักเปียโนทั้งสามจะกล่าวขอบคุณผู้ปกครองที่เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนและการพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกให้ก้าวไกล เพราะหากปราศจากการสนับสนุนอย่างจริงจังของผู้ปกครองแล้ว คงจะเป็นเรื่องยากที่จะประเทศไทยของเราจะมีนักดนตรีคลาสสิกที่มีฝีมือทัดเทียมนานาชาติ

ดร.นภนันท์ เป็นอาจารย์สอนเปียโนแนวหน้าของเมืองไทยคนหนึ่งที่ได้ตั้งใจและทุ่มเทในการปั้นลูกศิษย์คนแล้วคนเล่าให้เป็นนักเปียโนที่มีฝีมือ และส่งเขาเหล่านั้นออกไปศึกษาต่อในสถาบันดนตรีชั้นนำของโลก ทั้งในยุโรป อเมริกาและเอเชีย

ปัจจุบ้นนี้ลูกศิษย์เหล่านั้นต่างก็ทยอยสำเร็จการศึกษาและนำความรู้อันมีค่าที่ได้มากลับมาพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกในบ้านเรา

นักเปียโนทั้งสามคนที่บรรเลงในคืนวันนี้ ซึ่งก็ยังเป็นเพียงนักศึกษาดนตรีในระดับปริญญาตรีปี 1 อยู่ในวัยกำลังจะเติบโตเป็นู้ใหญ่เต็มตัว แต่ก็สามารถสร้างสรรค์เสียงดนตรีอันไพเราะ งดงามอันน่าประทับใจให้ผู้ชมทุกคนได้ดื่มด่ำอย่างมีความสุข แสดงถึงศักยภาพของการเป็นเมล็ดพันธุ์ดนตรีชั้นดี

ตอกย้ำความมั่นใจให้กับคอเพลงคลาสสิกในประเทศไทยได้ว่า บ้านเราจะมีวงการดนตรีคลาสสิคที่เฟื่องฟูและจะมีมาตรฐานดนตรีในระดับนานาชาติได้ในไม่ช้า

เรื่อง: ยศพล คุณะวิภากร