26 พ.ย. 2561 | 16:30 น.
โจแอน คอเนลลา (Joan Cornella) เป็นศิลปินชาวสเปนที่สร้างชื่อตัวเองในโซเชียลมีเดียจนโด่งดัง ด้วยผลงานสร้างสรรค์แบบตลกร้าย (Dark Humor) เสียดสีสังคมผ่านตัวละครใบหน้ายิ้มแย้ม ลายเส้นเรียบง่าย และสีสันสวยงาม แม้ผลงานภายนอกจะดูน่ารักสดใส แต่หากพิจารณาจริงๆ แล้วเนื้อหาภายในกลับเต็มไปด้วยประเด็นโหดร้ายอยู่เสมอ ทั้งอาชญากรรม ยาเสพติด ความรุนแรงทางเพศ หรือการเหยียดสีผิว กลายเป็นรอยยิ้มตลกๆ ที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ จนบางครั้งเรารู้สึกผิดบาปที่ยิ้มหัวเราะไปกับสถานการณ์นั้นๆ ในภาพ วันที่สัมภาษณ์โจแอนแทบไม่ได้ยิ้มใดๆ เขานั่งตอบคำถามเราด้วยสายตาจริงจัง ไร้ซึ่งท่าทางยียวนกวนประสาทเหมือนในผลงาน และนี่คือคำตอบของเขาในวันนั้น
โจแอน: ผมไม่ได้ตั้งใจจะเลือกผลงานให้เข้ากับประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะอยากให้นิทรรศการมีความเป็นสากล และเข้าถึงคนส่วนใหญ่มากกว่า แต่ก็มีบางงานที่วาดขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่นครั้งนี้มีภาพที่ผู้ชมในประเทศไทยดูแล้วจะรู้สึกเชื่อมโยงไปกับมัน
โจแอน: ที่จริงตอนนี้ผมกำลังพยายามเรียนรู้พฤติกรรมของคนไทยอยู่เหมือนกันนะ ปีที่แล้วผมยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก แต่ตอนนี้พอจะรู้แล้วว่าเมืองไทยมีความไม่มั่นคงทางการเมืองมาหลายสิบปี และผมก็อยากจะใช้เวลาทำความเข้าใจประเด็นนี้อีกสักหน่อย ก่อนจะตัดสินใจมองว่าอะไรเป็นอะไร
โจแอน: ครั้งก่อนที่มาผมได้เสียงตอบรับดีมาก ตอนนั้นรู้สึกผ่อนคลายดี ที่นี่มีความชิลล์และมีอะไรให้ทำอยู่ตลอดเวลา ผู้คนก็ใจดีกับผมมาก ผมเลยคิดว่าอยากจะมาลองอยู่กรุงเทพฯ สักปีหรือสามเดือนดูด้วย ซึ่งครั้งนี้ผมเดินทางมาอยู่ได้หนึ่งเดือนแล้ว
โจแอน: ก็ไม่รู้สิ ผมว่ามันคงคล้ายกับยิ้มปลอมๆ อย่างในโฆษณาล่ะมั้ง เหมือนคนที่กำลังพยายามเอาชนะสถานการณ์เลวร้ายนั่น ซึ่งจริงๆ แล้วเขาอาจกำลังไม่ไหวอยู่ก็ได้ แต่ก็ต้องยิ้มโชว์ไว้ก่อน มันเป็นเรื่องปกติที่เราพบเห็นได้ทั่วไปอยู่แล้ว
โจแอน: ผมคงเลือกที่จะร้องไห้มากกว่า บางทีคนเรามักจะหัวเราะในสถานการณ์ที่เลวร้ายนะ เหมือนเป็นตลกร้าย เพราะมันเหนือความคาดหมายและเราก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ อย่างในสถานการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ เช่น เหงาหรือเสียใจ เราก็มักจะหัวเราะไม่ก็ร้องไห้ไปเลย เพราะเราไม่รู้ว่าจะแสดงออกมายังไง บางทีการยิ้มมันเป็นวิธีเดียวที่จะแสดงออกไปได้ แต่ส่วนตัวก็คงเลือกร้องไห้แหละ
โจแอน: รู้ไหม ตอนผมมาครั้งแรกผมก็คิดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจมาก ถ้าเทียบกับเมืองอื่นอย่างลอสแอนเจลิสที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มปลอมๆ และมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจจนอยากกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง แต่ก็มีคนบอกผมนะว่า มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เขาอาจจะยิ้ม แต่จริงๆ กำลังคิดอย่างอื่นอยู่ก็ได้ ซึ่งผมคิดว่ามันคงไม่มีอะไรที่เป็น “ขาว” กับ “ดำ” ล้วนๆ หรอกเนอะ
โจแอน: ก็มีบ้างนะ แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดแบบนี้กัน มันจะมีคนที่หัวร้อนเวลาดูงานของผม โดยเฉพาะคนที่อินกับการเมืองมากๆ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงโกรธกัน เพราะผมไม่คิดว่างานของผมจะไปพูดกระทบใคร ผมโอเคถ้าใครจะแสดงความคิดเห็นอะไรกลับมา แต่จะมีบางคนที่พยายามจะบอกว่า “คุณพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ” ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่ ที่จริงเวลาเจอคอมเมนต์รุนแรง ผมก็ไม่ค่อยสนใจนะ เวลาเจอคนที่มาคอมเมนต์แรงๆ ผมจะคิดว่า คุณไม่เข้าใจ ผมไม่เคยตั้งใจให้งานของผมไปทำร้ายความรู้สึกใคร
โจแอน: ทำไมเหรอ? คุณน่าจะไปถามคนที่มาดูงานผมนะ แต่ผมคิดว่าคงจะเป็นเหตุผลเดียวกับเวลาที่ผมหัวเราะกับงานตัวเองนั่นแหละ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าบางทีเวลาเราอยู่ในสถานการณ์แย่ๆ แล้วมันไม่รู้จะแสดงออกไปยังไง ทำอะไรไม่ถูก เราก็มักจะหัวเราะออกมา อีกอย่างบางทีการยิ้มหัวเราะมันก็เป็นการซ่อนอารมณ์ที่แท้จริงของเราเอาไว้ด้วยเหมือนกัน การเสพงานผมแล้วหัวเราะ มันขึ้นอยู่กับคนดูนะ บางคนก็ได้ความขำขันแบบผิวเผิน บางคนก็ค้นพบความหมายบางอย่างที่แม้แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามี ซึ่งก็ดีเหมือนกันนะ สุดท้ายแล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ควบคุมว่าใครจะได้อะไรจากงานของผมหรอก ผู้ชมต่างหากคือคนที่ใส่ตอนจบให้กับมัน
โจแอน: ผมไม่เชื่อใน Happy Endings นะ เพราะชีวิตคนเราก็คือการผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ไป มีดีบ้าง ร้ายบ้าง แล้วเราก็ค่อยๆ แก่ลง เวลาผมเจอคนที่แก่มากๆ เขาก็พูดกันทั้งนั้นว่า “ฉันยังไม่อยากตาย” ดังนั้นผมว่ามันจึงไม่มีหรอก ไอ้ Happy Endings ไรเนี่ย ผมไม่ได้คาดหวังให้อะไรคงอยู่ตลอดไปอยู่แล้ว ทั้งเพื่อน ความรัก หรือเซ็กซ์ เพราะความสุขก็เป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
โจแอน: ใช่ ซึ่งดูงานแล้วเราขำ คุณก็ขำ พอคุณพูดผมก็ขำ มันก็ตลกดี เป็นช่วงเวลาของการช่างมัน
โจแอน: ผมมีมองประเด็นนี้หลายแบบ แต่ถ้าพูดกันง่ายๆ ก็คือมันเป็นเรื่องของประชาธิปไตย ผมอาจจะไม่ได้แชร์อุดมการณ์ร่วมกันกับพวกเขาหรือเห็นด้วยกับพวกเขา แต่มันไม่มีเหตุผลเลยที่นักการเมืองฝั่งพวกเขาจะต้องถูกจับเข้าคุก พวกเขาแค่ต่อสู้เพื่อสิทธิ์ในการมีประชาธิปไตยเท่านั้นเอง ผมไม่รู้ว่าปัญหานี้จะจบลงอย่างไร ไม่ว่าแคว้นคาตาลูญญาจะได้รับเอกราชหรือไม่ ยังไงก็ตามทั้งสองผลลัพธ์มันก็จะออกมาซับซ้อนอยู่ดี เพราะคนในแคว้นครึ่งหนึ่งก็อยากได้รับเอกราช ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็ไม่อยาก เพราะฉะนั้นไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรมันก็จะมีความขัดแย้งตามมา
โจแอน: ผมเลือกที่จะพูดผ่านทางภาพวาดของผมมากกว่านะ แต่ถ้าอยากให้พูดอะไรตรงๆ ออกมาเลยก็... มาชมนิทรรศการ ชมผลงานของผม หรืออยากทำอะไรก็ทำเลย! นิทรรศการ ‘แฮปปี้ เอนดิ้ง’ บริหารและจัดการโดย ฟาร์มกรุ๊ป เปิดให้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2561 เวลา 11.00-22.00 น. ณ WOOF PACK ศาลาแดง ซอย 1 ราคาบัตรเข้าชมนิทรรศการ 200 บาท สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/joancornella