22 ก.พ. 2562 | 17:16 น.
“ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะประสบความสำเร็จ” คำพูดนี้อาจใช้อธิบายเส้นทางชีวิตของ “โจ้-ชยวัสส์ ปัญจภักดี” ผู้ที่เคยล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ยอมทิ้งความฝันและสิ่งที่เขาหลงรัก ต่อสู้พยายามจนเปิดบริษัท Rainforest the Wedding ที่มีผลงานการออกแบบดอกไม้โดดเด่นได้รับการยอมรับ จนได้ขึ้นทำเนียบนักจัดดอกไม้มือวางอันดับต้น ๆ ของไทย พ่วงตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้ดอกไม้ ในตอนที่เขาอายุ 40 ปี “ตอนเด็ก ๆ เวลาเขาถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร อาชีพที่เราสนใจมันไม่ได้เป็นอาชีพอย่างพวก หมอ ทหาร ครู ผมเคยอยากเป็นกัปตันห้องอาหาร คนอาจคิดว่าตอแหล แต่เราไม่ใช่คนรวยไง ตอนนั้นคิดว่าการใส่สูทบริการคนอื่นมันก็ดูดีนะ เอาจริงเราเป็นคนชอบงานศิลปะชอบงานจัดดอกไม้ แต่จนถึงทุกวันนี้ในประเทศไทยก็ยังไม่มีโรงเรียนสอนอย่างเป็นทางการ มันเป็นเรื่องที่ครูพักลักจำเอาเอง” อาจเพราะความชอบการบริการทำให้ ชยวัสส์ ปัญจภักดี มีโอกาสเรียนที่ คณะวิทยาการจัดการท่องเที่ยวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้วยความเป็นคนชอบทำกิจกรรมทำให้เขาลงสมัครสภานักศึกษา ฯ ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ และเข้าร่วมกิจกรรมของทางคณะอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่หลังจากเรียนได้เพียงปีเดียว เขาได้ตัดสินใจลาออกมาเรียนที่ สถาบันไอทิม (I-Tim) สถาบันสอนการโรงแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ โดยใช้พยายามสอบเข้าอยู่ถึงสองรอบ
ผมอยากมีที่จัดงานสวย ๆ ไว้จัดงาน อยากให้ลูกค้ามาถึงแล้วพูดว่ามันเจ๋งนะ อยากให้คนมาเห็นแล้วหลงไหลงานของเราอย่างที่เราหลงไหล ชื่นชมในสิ่งที่เราทำขึ้นมา
เคล็ดลับอย่างหนึ่งของเขาคือ การทำให้ดีที่สุด โดยนักจัดดอกไม้เจ้าของตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้ดอกไม้ ปี 2018 บอกว่า ความสมบูรณ์แบบไม่มีจริง มีแค่ทำให้ได้มากที่สุด ที่ต่อให้คนอื่นมาทำก็ทำไม่ได้ แต่เขาบอกว่าไม่อยากให้ยึดติดกับคำว่าเพอร์เฟค เพราะมันจะทำให้เกิดความเครียด นอกจากนี้เขายังบอกทีมงานอยู่ตลอดว่า ห้ามรับคำชมเมื่อมีคนมาบอกว่าเป็นที่หนึ่งของประเทศแล้ว เพราะส่วนตัวเขาไม่เคยรู้สึกว่าโลกนี้มีที่หนึ่งจริง
เราควรคิดว่าธุรกิจของเราทำประโยชน์อะไรให้กับคนอื่น ดีกว่าไปคิดว่าทำอันนี้รวย ทำแล้วมีกำไร
ตอนนี้เขาเล่าว่าแพชชันของเขาคือการทำรายการเกี่ยวกับดอกไม้ชื่อรายการ รักดอก เพื่อให้คนจดจำเขาได้เวลาที่คิดถึงดอกไม้ ว่าเขาเป็นหัวแถวของประเทศในเรื่องดอกไม้ รวมถึงการเก็บเงินสักก้อนเพื่อซื้อที่ดินปลูกต้นไม้ “ผมตั้งใจเอาเงินที่มีไปซื้อที่ดินปลูกป่า แล้วเอาสัตว์มาปล่อยให้อยู่ตรงนั้น เพื่อคืนอะไรให้โลกบ้าง ปลูกต้นไม้เยอะ ๆ พอตายไปยังได้สร้างออกซิเจนให้กับโลกบ้าง เราไม่อยากเกิดมาเพื่อเอาประโยชน์แล้วก็จากไป อย่างน้อยได้ทิ้งอะไรไว้ให้โลกบ้างก็ยังดี”