กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ

กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ

จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ จากเด็กหนุ่มที่ชื่นชอบคณิตศาสตร์ หลงใหลในตัวเลข สู่บทบาทนักการตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง ที่นำศักยภาพการวิเคราะห์ การเก็บข้อมูล และวัดผลข้อมูลมาใช้

ประโยคที่ว่า “Data is a new oil” ที่ถูกกล่าวโดย ไคลฟ์ ฮัมบี (Clive Humby) นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลว่าข้อมูลถือเป็นขุมทรัพย์แห่งใหม่ที่มีมูลค่าไม่ต่างจากน้ำมัน เมื่อหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา กระทั่ง ไมเคิล พาล์มเมอร์ (Michael Palmer) รองประธานสมาคมโฆษณาแห่งชาติ จากสหรัฐอเมริกาได้ตอกย้ำว่า น้ำมันดิบจะมีค่าก็ต่อเมื่อผ่านการกลั่น เช่นเดียวกับข้อมูลจะมีค่าก็ต่อเมื่อไม่ได้รับการกลั่นกรองจนนำไปใช้ได้จริง ความจริงข้อนี้ได้กลายเป็นการพลิกโฉมหน้าการทำธุรกิจทั่วโลกกระทั่งยุคปัจจุบัน

Data is a new (Oil paint)

“เขาบอกว่า Data is a new oil คือการสื่อความหมายว่า Data มีมูลค่าเหมือนน้ำมัน แต่ต้องไม่ลืมว่าน้ำมันจะมีมูลค่า ต้องผ่านการกลั่นจากน้ำมันดิบเสียก่อน และ Data ก็ไม่ใช่แค่ New oil อย่างเดียว แต่ Data ยังเปรียบได้กับ Oil paint หรือสีน้ำมัน ที่สงวนไว้สำหรับเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดที่มีทักษะและความสามารถ ในการนำสีน้ำมันไปเพนต์บนผืนผ้าใบให้เกิดความสวยงาม เอาความคิดสร้างสรรค์เชิงครีเอทีฟเข้าไปผสมผสาน เอากลยุทธ์ไปจับทำให้ Data เหล่านั้นสร้างมูลค่าการตลาดและสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นได้อีกด้วย” 

จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ กับบทบาทนักการตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง ได้เล่าให้ฟังถึงการนำ Data มาใช้ในโลกธุรกิจ จากเด็กหนุ่มที่ชื่นชอบการเรียนคณิตศาสตร์ ตัวเลขเป็นสิ่งที่พิสูจน์และวัดผลได้ ทำให้เขาหลงใหลจนได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันความรู้ด้านนี้ในระดับประเทศ แม้จะเบนเข็มมาสู่การเรียนสายสื่อสารมวลชนในระดับอุดมศึกษา แต่เมื่อเดินเส้นทางในสายอาชีพการตลาด ก็ได้ปัดฝุ่นนำศักยภาพการวิเคราะห์ การเก็บข้อมูล และวัดผลข้อมูลมาใช้

กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ
 

การนั่งเก้าอี้ตำแหน่ง Marketing Technology Team Lead ในยุค 10 ปีก่อน ทำให้เริ่มรู้จักกับเครื่องมือการตลาดหลายชนิด ผสานกับองค์กรที่เปิดโอกาสทางความคิด ให้พื้นที่ได้ทดลอง เรียนรู้จากการผิดพลาด ทำให้ได้ความคุ้นเคยและทดลองใช้เครื่องมือต่าง ๆ จนหาอาวุธทางการตลาดที่เหมาะสมเพื่อต่อยอดธุรกิจได้

“เมื่อสิบปีที่แล้ว ผู้บริหารระดับสูง ได้มอบหมายงานให้ทํา ณ ตอนนั้นมันมีเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า MarTech เรียกว่าเป็น SaaS หรือ Software as a Service ผลิตขึ้นมา ให้เราทําการตลาดได้ง่ายขึ้น ปรับเปลี่ยนวิธีการทําการตลาด ปรับเปลี่ยนสินค้า โมเดลธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทําธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ คุณจิตติพงศ์เล่าย้อนถึงการได้เริ่มเข้าสู่วงการ MarTech กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ

ปลาเร็วเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ
ในอดีตองค์กรต้องลงทุนในเครื่องมือ Marketing Technology หรือ MarTechหลายล้านบาทต่อปี จนทำให้มีเพียงองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นที่เข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้ได้ แต่โลกาภิวัตน์ ได้ย่นย่อให้เครื่องมือเหล่านี้มีราคาต่ำลงเรื่อย ๆ ใครจะคาดคิดว่าวันนี้ผู้คนเข้าถึง AI หรือ ChatGPT ได้ฟรี หรือในราคาเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน

ปัจจัยด้านราคาจึงไม่ใช่ประเด็นหลักที่ต้องกังวลในการบริหารธุรกิจอีกต่อไป และไม่ว่าองค์กร SMEs หรือองค์กรขนาดใหญ่ก็ไม่อาจมองข้ามเรื่องนี้ได้อีกต่อไปในสมรภูมิการค้าแบบไร้พรมแดน

“ก่อนหน้านี้เราพูดกันว่า ถ้าคุณเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่าปลาใหญ่ สามารถที่จะกินปลาเล็กหรือว่าธุรกิจขนาดเล็กได้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ผมเชื่อว่าทุกวันนี้ ปลาที่เร็วเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ ปลาเร็วสามารถจะกินปลาใหญ่ได้ แต่การที่คุณจะเป็นปลาเร็วได้ ตัวเราเล็กกว่า เราก็ต้องมีข้อมูลข่าวสารในการเคลื่อนไหวในน้ำ ก็คือ มี Data ที่ช่วยหา Insight ช่วย Inform ว่าคุณจะเคลื่อนไหวอย่างไร ให้กินปลาใหญ่ได้” นักการตลาดมือเก๋ากล่าว

กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการที่องค์กรเล็งเห็นถึงคุณค่า ประโยชน์ และแนวทางการปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ องค์กรที่จะอยู่รอดและพัฒนาได้ต่อเนื่องจะต้องปรับตัวในการนำ Data และ MarTech มาใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเปรียบเทียบความต่างขององค์กรสองรูปแบบได้โดยง่าย

“องค์กรหนึ่ง สมมติว่าเป็นองค์กร A ที่เป็น Tradition Business ยังใช้กระบวนการแบบเดิม ใช้ความจำของพนักงานแต่ละคนในการดูแลลูกค้า มันไม่ได้ส่งผ่านเปลี่ยนถ่ายองค์ความรู้ หรือไม่ได้ Transfer Knowledge เรื่องการบริหารจัดการลูกค้า
ในขณะที่องค์กร B มีการนำ Data และ MarTech มาใช้ ข้อแตกต่างแรกเลยคือการวัดผลอย่างละเอียด ถ้าเรามีการใช้ Data หรือ Technology ที่เก็บมาได้จากเครื่องมือ MarTech เพื่อทำธุรกิจหรือการตลาด จะวัดผลการดำเนินงาน ตั้งรับ หรือคิดกลยุทธ์ คิดแคมเปญในการจัดการกับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ รีดประสิทธิภาพข้อมูลที่เก็บไว้เหมือนเรากลั่นน้ำมันออกมา” คุณจิตติพงศ์กล่าว
กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ

นอกจากนี้องค์กรที่มีการใช้ Data และ MarTech ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อีกว่าผลกำไรของบริษัทส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้ากลุ่มใด และกลุ่มนั้นอาจเป็น Pareto Model หรือลูกค้าเก่า 20% ที่สร้างรายได้ 80% ให้องค์กร และบริหารจัดการกิจกรรมที่จะดำเนินกับลูกค้ากลุ่มนี้ไปได้


MarTech จึงเป็นกระบวนการตั้งแต่การเก็บข้อมูลลูกค้า การทำโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การทำคอนเทนต์ วิธีการสื่อสาร การใช้เครื่องมือในการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางหรือช่องทางการตลาดต่าง ๆ นำข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เก็บมาวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อวางแผนการตลาด และมองหาช่องทางทำตลาดและน่านน้ำใหม่ ๆ ต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้

กลัดกระดุม MarTech ให้ถูกตั้งแต่เริ่มต้น

ทั้งนี้ปัญหาที่องค์กรมักเจอในการเริ่มนำ MarTech มาใช้คือ การมีเครื่องมือทำการตลาด แต่ขาดผู้เชี่ยวชาญที่ปรับแต่งวิธีใช้ได้อย่างเหมาะสม หรือการทุ่มทุนด้วยงบประมาณสูงลิ่ว แต่ไม่ได้ใช้งานเครื่องมืออย่างเต็มประสิทธิภาพ การใช้ทั้ง Data และ Technology ได้ เป็นส่วนหนึ่งของการรีดประสิทธิภาพจาก MarTech ทำให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการหาลูกค้า ลดต้นทุนในการดูแลลูกค้า


ความท้าทายในการปรับใช้ MarTech แบ่งเป็น 3 ส่วน เรื่องที่หนึ่งคือ ‘คน’ ต้องมีคนในองค์กรที่มีความเข้าใจ MarTech เรื่องที่สอง คือองค์กรและกระบวนการทำงาน และเรื่องที่สามคือเปลี่ยนกลยุทธ์การทำธุรกิจและการตลาด

กระดุมเม็ดแรกที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ได้คือ คนที่จะเข้ามาปรับเปลี่ยนองค์กร ปรับใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสม เป็น Business Bu Champion มีสกิลการเป็นนักประสานสิบทิศที่จะดึงพลังจากหน่วยงานต่าง ๆ ในองค์กร ผนวกความร่วมมือทั้งจากฟากเทคโนโลยีและการตลาดมาทำงานสอดประสานกันให้ได้

กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ หลักสูตร CMT ปั้นนักการตลาดยุคใหม่

เพนพอยต์ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้คุณจิตติพงศ์เล็งเห็นว่าการจะใช้ MarTech ได้ ต้องการนักการตลาดเทคโนโลยีตัวจริง ซึ่งยังถือเป็นองค์ความรู้ใหม่ในประเทศไทย จึงคิดค้นหลักสูตร Chief Marketing Technologist (CMT) หลักสูตรผู้นำนักการตลาดเทคโนโลยีระดับสูงแห่งอนาคต

“จากความท้าทายทั้งหมดที่ผมเห็นมาหลายปี ผมเลยร่วมกับ FutureSkill แพลตฟอร์มพัฒนาทักษะแห่งอนาคต ในการออกแบบหลักสูตรที่จะช่วยติดอาวุธปลดล็อกศักยภาพผู้บริหารทั้งสายการตลาดที่เป็น Chief Marketing หรือ  Chief Technology ให้ทั้งสองคนมาผลิตกำลังร่วมกันมีองค์ความรู้ทั้งสองด้าน” กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ

หลักสูตรนี้ถือเป็นโปรแกรมแรกในไทยกับการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการตลาด ด้วยหลักสูตรออฟไลน์ เรียนทุกวันเสาร์ 11 สัปดาห์สุดเข้มข้น กับเนื้อหาตั้งแต่รู้จักและปรับแต่ง Modernize Technology, การใช้ SAS - Software as a Service, การดีไซน์องค์กรยุคใหม่สอดรับกับ MarTech, การใช้ Data การเก็บข้อมูลลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และนำ Data ไปใช้ให้เกิดประโยชน์

นอกจากนี้ยังมีเวิร์กชอปพิเศษ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคน เอาธุรกิจของตัวเองมาลองเวิร์กชอป พร้อม Assignment หรือการบ้านให้ผู้เรียนได้ทดลองทำ และยังมีความแข็งแกร่งของคอมมูนิตี้ศิษย์เก่าที่พร้อมจะช่วยเป็นพี่เลี้ยงและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้วย

หลักสูตร CMT จึงตอบโจทย์สำหรับเจ้าของกิจการหรือ CEO ตั้งแต่ผู้บริหารธุรกิจ SME หรือผู้บริหารใน Cooperate ตั้งแต่ระดับ Manager, Director, Vice President หรือ C Level เพื่อติดอาวุธด้านเทคโนโลยีและด้าน Data ทำให้สามารถปรับปรุงการทำงาน ปรับปรุงคน ปรับปรุงระบบขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ

“ผมรับรองว่าองค์ความรู้ที่ได้จะทำให้คุณเปิดโลกทัศน์ใหม่ เห็นมุมมองด้านการตลาด เห็นมุมมองด้านผู้บริโภค สามารถที่จะสร้างธุรกิจใหม่ ทำให้องค์กรของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วยั่งยืนและขยายออกไปได้ พาองค์กรก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงสู่ยุคเทคโนโลยีเพื่อสร้าง Innovation Business และ Transform เป็น New S-Curve ขององค์กรในทศวรรษนี้” คุณจิตติพงศ์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมคอร์สเพื่อเป็นผู้นำนักการตลาดเทคโนโลยีระดับสูงแห่งอนาคต สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://page.futureskill.co/chief-marketing-technologist
กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ กลั่น Data ด้วย MarTech ขุมทรัพย์ใหม่แห่งโลกธุรกิจ  #ThePeople #หลักสูตรCMT #CMT #FutureSkill #MarTech #การตลาดเทคโนโลยี