K-Pop ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต คุยกับ 3 ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังวงการเพลงเกาหลี

K-Pop ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต คุยกับ 3 ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังวงการเพลงเกาหลี

ตอนนี้เพลง K-Pop กลายเป็นเพลงที่คนทั่วโลกรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นคนชอบฟังเพลง ชอบศิลปิน หรือฟังผ่านๆ คุยกับ 3 ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังวงการเพลงเกาหลีถึงความเป็นK-Popในอดีต ปัจจุบัน อนาคตและมุมมองของพวกเขาต่อวงการเพลงไทย

  • ตอนนี้ K-Pop กำลังตีตลาดวงการเพลงทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
  • สมัยก่อนจุดเด่นของ K-Pop อาจเป็นเรื่องของการเต้นและการแสดงที่มีเสน่ห์ แต่เสียงจากคนทำเพลงเกาหลีบอกว่า เพลง K-Pop ต้องฟังง่ายและเข้าได้ดีกับ TikTok
  • 3 ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังวงการเพลงเกาหลีเล่าถึงวิธีการทำงานและถอดรหัสความเป็น K-Pop และก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้วงการ K-Pop ถือเป็นอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น BTS, BLACKPINK, Straykids, NCT และศิลปินวงอื่น ๆ ที่เดินขึ้นรับรางวัลในฝั่งเอเชียและสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง

อาจเป็นเพราะทำนองเพลงที่ติดหู ท่าเต้นที่แข็งแรง เสียงร้องอันทรงพลัง รวมถึงการแสดงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือทำให้เพลง K-Pop เข้าไปครองใจผู้ฟังทั่วโลกโดยไม่รู้ตัว

ถ้าใครเป็นติ่งเกาหลีจะรู้เลยว่า วงการ K-Pop เกาหลีผ่านมาแล้วหลากหลายเจเนอเรชัน ทั้งยุคเริ่มต้น ยุคทอง ยุคที่เงียบเหงา และการกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

ความนิยมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในเอเชีย แต่เราจะเห็นได้เลยว่า เกาหลีใต้เลือกที่จะบุกตลาดอเมริกาโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเด็กไปเทรนที่เกาหลี หรือการเปิดตัวเพลงใหม่บนเวทีใหญ่ของสหรัฐอเมริกามากขึ้น

(ใส่รูปรวม 3 คน)

ครั้งนี้ The People สัมภาษณ์พิเศษ 3 ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังวงการเพลงเกาหลี คือ HAE ผู้ก่อตั้ง SOUND JUNGLES คนที่อยู่เบื้องหลังเพลง DADARI ของ TREASURE, Sonny นักเขียนเพลงที่อยู่เบื้องหลังเพลงของ Babymonster รวมถึง ikon และ Bongwon Mixing and recording engineer ที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปี ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงของ IU, Straykids, Seventeen และศิลปินอีกมากมาย

ชวนทั้ง 3 คนพูดคุยความเป็น K-Pop ในอดีต ปัจจุบัน อนาคตและมุมมองของพวกเขาต่อวงการเพลงไทยได้จากบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้

 

The People: เทรนด์ของวงการ K-Pop ในปัจจุบันเป็นอย่างไร

Hae : เทรนด์มันเปลี่ยนทุกนาที ผมคิดว่าตอนนี้ K-Pop กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ว่าตอนนี้ผมนึกถึงเทรนด์ Y2K ที่มีการพูดถึงผ่านโซเชียลมีเดียตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้

Sonny : ส่วนผมคิดถึง TikTok เพลงที่ออกมาต้องเป็นไวรัลใน TikTok ฟังง่าย ฟังได้ทั้งวัน และมีคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจ เหมาะกับท่าเต้นง่าย ๆ 

Bungwon : ผมก็คิดว่ามันจำเป็นต้องเป็นไวรัลใน TikTok ก่อนเหมือนกัน ในฐานะคนทำเพลง เราต้องคิดตั้งแต่วินาทีแรกเลยว่า ทำนองหรือเพลงประมาณนี้มันจะเป็นเพลงที่สนุกหรือเปล่า

The People: ในฐานะคนทำงานเบื้องหลัง เหตุผลอะไรที่ทำให้ K-Pop ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง 

Sonny : อย่างแรก คือ การสื่อสาร ศิลปินเกาหลีสื่อสารกับแฟนคลับเยอะมากผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ  ทั้งวีเวิร์ส (weverse - แอปพลิเคชันที่เป็นสื่อกลางระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ) YouTube และ Instagram อย่างที่สอง คือ การแสดงที่มีเสน่ห์ ทำให้มีแฟน ๆ อัดคลิปเต้นโคเวอร์หรือเต้นเปิดหมวก ผมคิดว่าสองสิ่งนี้ทำให้วงการK-Popได้รับความนิยม

Bungwon : ผมมองว่าเป็นเรื่องของระบบและการวางแผนตั้งแต่การวางคอนเซปต์อัลบั้ม แนวเพลง การแต่งตัว การถ่ายมิวสิกวิดิโอ ทุกอย่างเลยมีแผนที่ชัดเจน ทำให้แต่ละอัลบั้มใช้เวลาทำงานอย่างน้องหนึ่งปีหรืออาจจะมากกว่านั้น

 

The People: แล้วถ้ามองกลับไป วันแรกที่คุณเข้ามาทำงานในวงการ K-Pop ตอนนั้นเป็นอย่างไร

Hae :  สมัยก่อน จุดแข็งของ K-Pop คือ การเต้นหรือการแสดงที่มีเสน่ห์ แต่ตอนนี้เพลงส่วนใหญ่จะเน้นฟังง่าย ดูเรื่องภาพลักษณ์โดยรวมของวงมากขึ้น ความนิยมก็เปลี่ยน จากที่คนชอบบอยกรุ๊ปก็หันมาเป็นแฟนคลับของวงเกิร์ลกรุ๊ปมากขึ้น 

Bungwon : ก่อนหน้านี้เราอาจจะทำเพลงคล้ายกับเพลงอเมริกา เพลงอังกฤษหรือญี่ปุ่น แต่ผมคิดว่าตอนนี้ K-Pop มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แล้วไม่ได้รับความนิยมแค่ในเกาหลี  แต่เติบโตไปทั่วโลก

Sonny : ผมก็คิดคล้าย ๆ กัน เมื่อ 15-20 ปีก่อน เพลงเกาหลีอาจสินค้าที่มีแค่คนเกาหลีรู้จัก แต่ตอนนี้ศิลปินเกาหลีไปไกลระดับโลก เช่น BTS หรือ Blackpink หมายความว่า K-Pop กำลังเข้าไปอยู่ในตลาดโลกมากขึ้นด้วยเหมือนกัน 

 

The People: การทำงานเปลี่ยนด้วยไหม

Hae : ผมกับ Sonny เคยทำงานอยู่ตึกแยกของค่ายวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในสตูดิโอเพื่อพัฒนาทักษะของตัวเอง ตอนนี้เราก็ยังเรียนรู้ต่อไปเพื่อเปิดมุมมองที่หลากหลายมุมมองที่จะนำไปต่อยอดการทำงาน เพื่อสุดท้ายจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ 

Bungwon : ผมเริ่มทำงานที่เจวายพี เอนเตอร์เทนเทนต์ (JYP Entertainment) แล้วค่ายก็มีสำนักงานย่อยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ถึงจะมีตึก แต่การเจอศิลปินชื่อดังเป็นเรื่องยากมาก ถ้าอยากเจอจริง ๆ ก็ต้องจ่ายเงิน เพราะเขาไม่มีเวลาให้ หรือถ้าบอกว่าศิลปินเกาหลีจะไปแสดงที่อเมริกาก็ขอวีซ่ายาก แต่ตอนนี้มีการทำงานร่วมกันมากขึ้น แล้วแนวคิดของคนก็เปลี่ยนไปด้วย 

 

The People: บางครั้งเพลงของ K-Pop ก็คล้ายกับสหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือญี่ปุ่น แล้วจุดเด่นของเพลง K-Pop คืออะไร 

Hae :  ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา อังกฤษ หรือญี่ปุ่น เรารับวัฒนธรรมของพวกเขามาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ในสไตล์ของเราเอง ถ้าฟังเพลงเกาหลีจะเห็นว่ามันมีความร่วมสมัยซึ่งส่งผลให้ต้องเปลี่ยนวิธีร้องด้วยเหมือนกัน 

Sonny : K-Pop ได้รับแรงบันดาลใจมากจากแนวเพลงหลายประเภท เพลงK-Popจึงเป็นการรวมจุดเด่นและจุดแข็งของแต่ละเพลงไว้ด้วยกัน ทำให้เพลงของเราติดหูและเข้าถึงง่าย 

 

The People: คุณคิดว่าก้าวต่อไปของวงการ K-Pop จะเป็นอย่างไร 

Bungwon : ผมมองว่า วงเกิร์ลกรุ๊ปจะเน้นเพลงที่ฟังและร้องง่ายขึ้น ส่วนวงบอยกรุ๊ปน่าจะมีดนตรีที่หนัก มีท่าเต้นที่แข็งแรง การแสดงที่มีเสน่ห์ขึ้น

Sonny : ถ้าเทียบกับสื่ออื่น เช่น ภาพยนตร์ หรือคลิปวิดิโอ ดนตรีมีขีดจำกัดของตัวเอง ผมคิดว่าคอนเทนต์ของK-Popในรูปแบบอื่นๆ จะช่วยให้คนฟังหรือคนดูสนุกกับ K-Pop มากขึ้น แต่ผมก็เชื่อว่า เพลงยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คนเข้าถึงและสนุกกับ K-Pop

Hae : อย่างที่บอกว่าเทรนด์เปลี่ยนทุกวัน แต่ผมคิดว่าก้าวต่อไปของ K-Pop จะผลิตเพลงที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนมากขึ้น เช่น คนนี้ชอบเพลงคลาสสิก อีกคนหนึ่งชอบแจ๊ส มันอาจจะมีการทำเพลงที่รวมความชอบของคนสองคนไว้ในเพลงเดียว 

 

The People: วันนี้ K-Pop ประสบความสำเร็จแล้ว คุณคิดว่าวงการเพลงเกาหลียังต้องการอะไรอีกไหม เพื่อสร้างผลงานที่ดีขึ้นในอนาคต 

Bungwon : ผมคิดว่าการแข่งขันจะช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง 

Hae : ทุกอุตสาหกรรมมีการแข่งขันเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ เพราะพวกเรารักการแข่งขัน รักที่จะชนะ เราเลยต้องคิดให้มากขึ้นมากกว่าคนอื่น เรียนมากกว่าคนอื่น และหาข้อมูลมากกว่าคนอื่นที่จะทำให้ K-Pop มันมั่นคงและแข็งแกร่งขึ้น 

 

The People: ฟังเพลงไทยไหม

Hae : ฟังครับ การทำเพลงมันต้องรักและอิน ผมรู้สึกว่าเพลงไทยมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ผมเห็นถึงความตั้งใจของพวกเขาผ่านดวงตาของแฟนคลับและศิลปิน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมอยากจะร่วมงานกับศิลปินไทย แต่อีกมุมหนึ่งผมก็คิดว่าการแข่งขันจะช่วยทำให้วงการเพลงไทยพัฒนาขึ้นได้ 

Bungwon : ผมตามวงการเพลงไทยมาสักพักหนึ่ง และเหมือนว่าประเทศไทยก็มีศิลปินมากขึ้น เพลงไทยมีจุดแข็งของตัวเอง แล้วเวลาฟังเพลงไทย ผมจะคิดว่าจะมีแต่วงดนตรีแล้วก็คิดอีกว่า วันหนึ่งวงดนตรีไทยก็จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

 

The People: ตอนนี้ในวงการ K-Pop มีเด็กไทยเข้าไปเป็นศิลปินมากมาย เช่น ลิซ่า BLACKPINK แบมแบม GOT7 หรือเตนล์ NCT แล้วก็มีคนที่สนใจ K-Pop อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ คุณอยากจะบอกอะไรกับพวกเขา 

Hae : ผมอยากบอกว่ามันเป็นเรื่องดีที่คุณจะรักในเสียงดนตรี แล้วก็เป็นเรื่องดีเหมือนกันที่คุณอยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการ K-Pop แต่ในมุมผม ผมคิดว่ามันคงดีเหมือนกันถ้าคุณนำความรู้ต่าง ๆ มาใช้ในวงการเพลงไทยเพื่อให้มันแข็งแกร่งและดีขึ้น 

Sonny : ผมอยากบอกว่า คุณอาจจะไม่มีความสุข ถ้าคุณอยากเข้ามาทำงานในวงการ K-Pop เพื่อเงินหรือชื่อเสียง คุณควรที่จะอินกับมันและไม่คิดว่ามันเป็นงาน 

 

เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์