26 ก.พ. 2567 | 17:00 น.
ถ้าจะให้กล่าวถึงมือกีตาร์ยอดฝีมือบนโลกใบนี้สักคน แน่นอนว่าแต่ละคนก็ย่อมมีชื่อในดวงใจที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเราพูดถึงชื่อ ๆ หนึ่ง ใครหลายคนก็ต้องยอมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียว ว่าเขาคนนี้คือหนึ่งในตำนานเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นลวดลายการเล่นกีตาร์ในหลายบทเพลงดังกระหึ่มโลก หรือว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะที่สวมแว่นกันแดดสีดำคู่กับหมวกทรงสูง เราย่อมรู้ทันทีว่าเขาคนนั้นคืออีกหนึ่งตำนานที่ยังมีลมหายใจนามว่า ‘สแลช’ (Slash)
ไม่ว่าจะเป็น Sweet Child O' Mine, Welcome to the Jungle, November Rain หรือ Don’t Cry ก็ล้วนเป็นผลงานชั้นยอดที่ Slash มีส่วนในการสรรค์สร้างมันขึ้นมาทั้งสิ้น และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานเหล่านั้นและหมวกที่เขาสวมในบทบาทมือกีตาร์แห่งวง Guns N' Roses ก็ถือเป็นบันไดขั้นสำคัญที่พาเขามาจนถึงทุกวันนั้น
ทว่าเส้นทางและตัวตนของ Slash ก็ยังไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะนอกจาก Guns N' Roses แล้ว Slash ก็ได้ดำเนินเส้นทางของตัวเองในวงอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวงที่เขารวบรวมและก่อตั้งขึ้นมาเองอย่าง Slash’s Snakepit หรือวงอย่าง Velvet Revolver แต่เส้นทาง ๆ หนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แถมยังเป็นเส้นทางที่ได้เดินหน้ามาถึงปัจจุบันคือเส้นทางของเขาในบทบาทศิลปินเดี่ยว ที่มาพร้อมกับเพื่อนพ้องศิลปิน ในนาม ‘Slash featuring Myles Kennedy and the Conspirators’
เนื่องในโอกาสที่ Slash featuring Myles Kennedy and the Conspirators กำลังจะเดินทางมาเยือนที่ประเทศไทย The People ก็ได้มีโอกาสสนทนาสั้น ๆ กับ Slash ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศการทำงานกับ Myles Kennedy and the Conspirators รวมถึงบทเรียนที่เขากลั่นออกมาได้ หลังจากที่เดินทางอยู่บนเส้นทางดนตรีมานานกว่า 4 ทศวรรษ
“การทำงานกับไมล์สเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เขาเป็นเพื่อคู่คิดในด้านการเขียนเพลงที่ดีเลยล่ะ เป็นคนที่ผมชอบในการแสดงสดด้วยมาก ๆ แถมยังเป็นคนที่สนุกที่จะเดินทางด้วยอีกด้วยล่ะ”
Slash อธิบายถึงความรู้สึกของเขาในการทำงานกับ ‘ไมลส์ เคนเนดี’ (Myles Kennedy) เจ้าของเสียงร้องในผลงนเดี่ยวของ Slash ทั้งยังอธิบายต่ออีกว่าเสียงของไมล์สมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยพลังและจิตวิญญาณ จนทำให้ในหลาย ๆ ครั้งที่ Slash สร้างสรรค์บทเพลงขึ้นมา เสียงในหัวของเขาก็เป็นเสียงของ ไมลส์ เคนเนดี
Slash ยังอธิบายต่ออีกว่าการทำงานในโปรเจกต์เดี่ยวกับ Myles Kennedy and the Conspirators เป็นการให้พื้นที่เขาให้ทำงานในแบบที่ไม่ค่อยมีแรงกดดันมาเท่าการทำงานกับคนอื่น ๆ ไม่เพียงแค่เพื่อนร่วมทางแต่ละคนมีทิศทางในการสร้างสรรค์ทางเดียวกัน แต่พวกเขายังสามารถปรับวัตถุดิบหรือไอเดียที่พวกเขาคิดขึ้นมาได้ให้เขากับไอเดียทางดนตรีของ Slash อย่างลงตัวมาก ๆ
นอกจากนั้น เราก็ยังได้มีโอกาสถามถึง Slash เกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ หลังจากที่ดำเนินเส้นทางดนตรีมานานกว่าสี่ทศวรรษ
“ผมพูดเสมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักดนตรีคือ ‘ความอดทน’ มันน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้ในฐานะนักดนตรีนะ ไม่ว่าจะเป็นในด้านธุรกิจ ในด้านการทัวร์ หรืออะไรก็ตาม มันก็ต้องอาศัยความอดทนทั้งสิ้น มันจะทำให้คุณไปได้ไกล… มันสำคัญจริง ๆ นะ”
หากผู้อ่านในไทยท่านใดสนใจที่จะได้ลิ้มลองเสียงดนตรีจาก Slash featuring Myles Kennedy and the Conspirators หรือหากเป็นแฟนของคณะศิลปินที่ว่านี้อยู่แล้ว The People ก็เชิญชวนให้พบกับพวกเขาได้แล้วเร็ว ๆ นี้ ใน Slash featuring Myles Kennedy and the Conspirators Live in Bangkok ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม 2024 Centerpoint Studio ซอยลาซาล