สองเส้นทางหนึ่งความฝันร่วมกันพา AmphawaCheeses ชีสออแกร์นิกสัญชาติไทยลุยตลาดโลก

อาหารนอกจากเป็นปัจจัยสี่ของมนุษย์ที่มอบพลังงานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ยังเป็นสุนทรียภาพในการกินที่หล่อเลี้ยงร่างกายและจิตวิญญาณ 

ลองนึกถึงวันที่ฝนตกรถติด กลับถึงบ้านมาแล้วได้กินเมนูโปรด มื้อเย็นในวันนั้นเสมือนชาร์จพลังให้กับเรา แล้วถ้าวันหนึ่งเมนูโปรดหรือของชอบของคุณกลายเป็นสิ่งที่ต้องห้ามของร่างกาย ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากปัญหาด้านสุขภาพหรือเป้าหมายที่จะมีหุ่นในฝันคอยขวางไว้อยู่ จึงจำใจบอกลามื้ออร่อยที่เคยเป็น comfort food ที่ทำให้มีความสุขไปตลอดกาล นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยใช่ไหม? 

Food Science หรือวิทยาศาสตร์ด้านอาหารจึงเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องนี้ นอกจากนั้นยังสามารถช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางด้านอาหาร เดินขึ้นสู่แถวหน้า ก้าวสู่การเป็นครัวของโลก แต่ความอุดมสมบูรณ์อย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องอาศัยคนที่มีความฝันและความกล้าหรืออาจจะมีลูกบ้าบิ่นที่มองเห็นโอกาสและไม่รอให้หลุดมือ อย่างเช่นเจ้าของธุรกิจผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ วี - สืบศักดิ์ ลิ่วลักษณ์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผู้มีความรักในการค้นคว้าสูตรลับใหม่ ๆ ในการทำอาหาร บั๊ค - รัฐวิทย์ อมรชัยชาญ ที่โลกหมุนให้ทั้งคู่มาพบกันและช่วยเติมเต็มความฝันนี้จนออกมาเป็นโปรดักต์ในชื่อ AmphawaCheeses

10 ปี Vcommerce กับการตั้งรับโจทย์ใหม่
เดิมทีนั้นหมวดหมู่ที่ Vcommerce รับเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดแบ่งออกเป็น 5 หมวดหลัก ดังนี้ หมวดธุรกิจสุขภาพและความงาม, หมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, หมวดอาหารและเครื่องดื่ม, หมวดสินค้าแฟชั่น และหมวดสินค้าแกดเจ็ต ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าเหล่านี้เลือกเข้ามาหา วี - สืบศักดิ์ นั่นเป็นเพราะการทำให้ครบวงจร ตั้งแต่วิเคราะห์ตลาด หาโรงงาน ทำแบรนด์ ออกแบบสินค้า ทำคอนเทนต์ ยิงแอดฯ ทำการตลาด แพ็กของ ส่งของ สร้างระบบตัวแทน ส่งออก ถือว่าครบวงจรจริง ๆ 

“จุดเด่นของเราคือทำยอดขายก้าวกระโดดได้กว่า 10x โดยใช้งบเท่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิม”

นอกเหนือไปจากนั้น การที่ Vcommerce สามารถบริหารงบประมาณได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของเขาอยู่ในธุรกิจที่กําลังเริ่มหรือพร้อมจะกระโดด ยังรวมไปถึงสินค้าและธุรกิจเกือบจะตาย เกือบแต่ยังไม่ตาย เลยเข้ามาปรึกษากับเขาจำนวนมาก 

จนเมื่อเขาจับกระแสความเคลื่อนไหวของหมวดอาหารและเครื่องดื่มประเภทเฉพาะทางอย่างเช่น Plant-based ที่มีลูกค้าเข้ามารับคำปรึกษาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังมีการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จึงเริ่มเห็นน่านน้ำใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและอยากลงมาเล่นในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน 

สนามแข่งขันด้านอาหารที่ยังมีช่องว่าง 
วี - สืบศักดิ์ ได้ให้ข้อมูลกับเราว่าตลาดชีสในไทยมีมูลค่าสูงถึง 4 พันล้านบาทต่อปี ส่วนมูลค่าการตลาดของทั้งโลกสูงถึง 3.3 ล้านล้านต่อปีเลยทีเดียว (อ้างอิงจาก Statista)  ซึ่งก่อนที่จะมาเจอกันกับเจ้าของแบรนด์ชีส Plant-based บั๊ค - รัฐวิทย์ ทาง Vcommerce ก็ได้วางลู่ทางการสื่อการตลาดออนไลน์ในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์และช่องทางการขายไว้กับโปรดักต์อื่น ๆ ที่เข้ามาเหมือนรอจังหวะให้ AmphawaCheeses มาพบกัน จึงทำให้สามารถใช้เครื่องมือในด้านการสื่อสารพร้อมเป็นป๋าดันให้กับแบรนด์นี้ที่มีเบื้องหลังเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผู้รักในวิทยาศาสตร์แบบ บั๊ค - รัฐวิทย์ ได้อย่างเต็มตัว

จากนักพัฒนาซอฟต์แวร์สู่ความหลงใหลในการทำครัว
บั๊ค - รัฐวิทย์ เริ่มต้นความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเองก่อนที่จะจริงจังลงลึกในศาสตร์แขนงนี้ จนพัฒนาเกมและโซเชียลมีเดียของตัวเองออกมาเปิดตัวเป็นผลสำเร็จ มีผู้ใช้งานกว่าหนึ่งแสนคน 

ความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่บนหลักการการตั้งสมมติฐานและหาคำตอบ ขยายขอบเขตมาสู่วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการทำอาหารที่คิดค้นพัฒนาเมนูที่ชูรสชาติและสัมผัสที่ช่วยทำให้การลิ้มรสอร่อยขึ้นกว่าเดิม จากเมนูแรก โมจิ แตกยอดเป็นเค้ก บราวนี่ คุกกี้และขนมอื่น ๆ อีกหลายชนิด ซึ่งความรู้ที่เขาได้จากการทดลองส่วนตัวนี้นำมาแบ่งปันเปิดสอนให้กับคนอื่นเพื่อสร้างอาชีพต่อไปบนเพจที่ชื่อว่า ‘ไม่ต้องไปญี่ปุ่นก็ทำกินเองได้’ โดยไม่หวงสูตรที่พัฒนามาอย่างเหน็ดเหนื่อยเก็บไว้กินคนเดียว แชร์ให้กับผู้ติดตามเกือบสองแสนคนได้เอนจอยกับการปรุงเมนูสูตรใหม่ของเขาไปด้วยกัน 

จากความชอบส่วนตัวสู่ธุรกิจขนมญี่ปุ่นโฮมเมดขึ้นห้าง
หลังจากที่ค้นพบสูตรลับเมนูอร่อยกันในครอบครัว บั๊ค - รัฐวิทย์ ไม่หยุดที่จะต่อยอดสู่ธุรกิจคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น นำเมนูขนมและอาหารที่ได้รับความนิยมเสิร์ฟให้กับลูกค้าบนศูนย์การค้า 

“อาหารมีความน่าค้นหาและเป็นวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผลที่ทำให้ผมอยากพัฒนารสชาติและประสบการณ์การกินให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

จากเมนูโมจิในสไตล์ของตัวเองที่เป็นสารตั้งต้นให้กับ AmphawaCheeses ต่อยอดจากหลักการทำที่คล้ายกันกับที่เขาเคยมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งโมจิถือเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวที่ลูกค้าได้ลองแล้วติดใจจนเกิดการซื้อซ้ำ ทั้งยอดขาย คำชื่นชม และกำลังใจที่ได้รับจากผู้ติดตาม ทำให้เขาเชื่อมั่นในการทำอาหารของตัวเองจนมองการณ์ไกลสู่การเปิดโรงงานขนาดเล็กในรั้วบ้าน 

จุดกำเนิดชีส AmphawaCheeses แบบผงออร์แกนิก 100% แห่งแรก 
เมื่อก้าวมาเป็นคนทำเพจแบ่งปันเรื่องราวด้านวิทยาศาสตร์อาหาร ทำให้ บั๊ค - รัฐวิทย์ ต้องศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอ จนเขาเริ่มสนใจอาหารจากพืช (Plant-based food) ที่ในต่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในตลาดนี้ยังมีช่องว่างให้กับนักทดลองแบบเขาไล่ล่าความฝันในด้านการทำอาหาร

ในระหว่างที่เริ่มต้นจริงจังจนวางแผนทำแบรนด์นิ่งนี้เองที่ บั๊ค - รัฐวิทย์ และ วี - สืบศักดิ์ ได้โคจรมาเจอกัน ตั้งหลักเปิดธุรกิจอย่างเป็นทางการ กระจายสินค้าสู่หน้าร้าน ด้วยการปรับแพ็กเกจจิ้งกันใหม่ให้สื่อถึงผลิตภัณฑ์เพื่อคนรักสุขภาพ มีความเป็นสากล แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไทย ที่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ โดยที่มาของชื่อ AmphawaCheeses เกิดมาจากการที่ต้องการให้เป็นที่จดจำและเรียกขานได้ง่ายสำหรับทั้งผู้บริโภคในไทยและต่างประเทศ ซึ่งอัมพวาเป็นดินแดนที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย 

นอกจากนี้ก็มีการปรับปรุงพัฒนาการตลาดกับทาง Vcommerce เพิ่มเติมด้วย สินค้าจะมีแบบชีสผงที่ไม่มีน้ำตาลและไขมัน สามารถคุมไขมันได้ด้วยส่วนผสมน้ำที่ใส่ ใช้ได้ทั้งนมสด นมอัลมอนด์ กะทิ และนมอื่น ๆ จึงสามารถดีไซน์ค่าไขมันเอง ค่าโภชนาการเองได้เหมาะสำหรับคนที่มีความซีเรียสเรื่องค่าโภชนาการและความเป็นออร์แกนิกปลอดสาร และในส่วนของชีสสำเร็จรูป จะเน้นกินง่าย แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของสุขภาพ ลดน้ำหนักกินได้ ด้วยค่าแคล ไขมัน และน้ำตาลที่ต่ำ

ในส่วนของช่องทางออนไลน์ มีการปรับคอนเทนต์ใหม่ อธิบายใหม่ว่ากินแล้วมีสุขภาพดี กินแล้วไม่อ้วน มีคอนเทนต์ วิธีทำเมนูต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความง่ายที่เพียงให้ความร้อนและคนผสม ให้ทำดูง่ายและใคร ๆ ก็ทำได้ โดยเมนูคอนเทนต์ให้เข้าถึงได้ง่ายทั้งเมนูยอดนิยมที่ใช้ชีส พวกพิซซ่า ขนมปังชีส ผักโขมอบชีส และเมนูที่กินง่ายทั้งมาม่า หมูปิ้ง โจ๊ก และไข่ ที่สามารถกินคู่กับชีสได้  

และเราก็ทำให้ดูสนุกมากขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์โกอินเตอร์ง่าย ๆ ด้วยชีสสำเร็จรูปซึ่งเราจะทำกับเมนูอาหารไทยยอดนิยม ที่คนกินง่าย ๆ เป็นประจำ เช่น หมูปิ้ง กะเพรา และโจ๊ก 

ในส่วนของการยิงแอดฯ เราก็ปรับแอดฯ ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของความมีส่วนร่วม และรายได้จากแอดฯ ทำให้คอนเทนต์ แบรนด์ และการได้ลองชิมของจริงได้เข้าถึงคนที่กว้างและตรงกลุ่มมากขึ้น

ส่วนในช่องทางออฟไลน์มีลงขายในร้านค้าสายสุขภาพ ทั้งร้าน Nubkcal และออร์แกนิกรูม ซึ่งเราเน้นในเรื่องของการตรงสายก่อนกระจายไปในร้านที่แมสมากขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางการขาย และก็มีแพลนจะไปต่อช่องทางที่ Modern Trade รวมถึงตลาดต่างประเทศในอนาคต

ทาง Vcommerce นอกจากจะเป็นที่ปรึกษาทางการตลาดแล้ว ยังปรึกษาทางการพัฒนาสินค้าได้ด้วย สินค้าจะพัฒนาโดยนักวิจัยที่มีความรู้ ประสบการณ์โดยตรงในธุรกิจอาหาร และเจาะลึกไปถึงอาหารแพลนต์เบสต่าง ๆ ทั้งรูปแบบเนื้อ ไส้กรอก หรือชีส ซึ่งมีประสบการณ์ในการพัฒนาสินค้าชื่อดังแล้วในประเทศไทย ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทั้งตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ

ล้มก่อนลุกจนมาเจอสูตรที่เหมาะกับตลาดออร์แกนิก
ขึ้นชื่อว่าเป็นวิทยาศาสตร์ย่อมต้องผ่านกระบวนการทดลองที่ไม่เป็นตามที่คาดหวัง ถึงแม้จะทำการบ้านอย่างหนักในการค้นคว้าศึกษางานวิจัย แต่สุดท้ายแล้วการลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองนั่นแหละที่จะทำให้ช่วยหาคำตอบให้กับ บั๊ค - รัฐวิทย์  

“ตอนแรกในการพัฒนาสูตรขึ้นมาก็มีช่วงที่ทำให้ท้อเหมือนกันครับ แต่ก็ปรับเปลี่ยนสูตรให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นำคำติชมของลูกค้าบางคนที่บอกว่ายังเค็มเกินไปกลับมาลดรสชาติให้มีความกลมกล่อมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุมากขึ้น”

จากเดิมที่เคยให้ความสำคัญกับรสชาติเป็นพระเอก แต่ฟีดแบ็กที่เขาได้รับจากลูกค้าที่มองหาชีสที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ จึงทำให้ บั๊ค - รัฐวิทย์ ได้ค้นพบอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้มาก่อน 

“ลูกค้าหลายคนโดนคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้กินชีส แต่ AmphawaCheeses สูตรปัจจุบันแบบผงไม่มีน้ำตาล คุมไขมันได้ นำเครื่องหมาย อย. และผลแล็บไปยืนยันกับหมอได้ว่าชีสของเรานั้นสามารถกินได้นะ ทำให้ได้ลูกค้าประจำในกลุ่มคนที่ต้องปรับวิถีการกินใหม่เนื่องจากสุขภาพมาเพิ่มเติม”

ปัจจุบันหลังจากที่คลอด AmphawaCheeses แบบผงสูตรออร์แกนิก 100% ที่ทำจากยีสต์ แป้งมันสำปะหลัง และเครื่องเทศทั้งหมดเป็นเกรดออร์แกนิก ที่การันตีได้ว่าไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมัน แคลต่ำ เหมาะกับคนที่เคร่งครัดเรื่องสุขภาพ ไม่มีสารเสริมสารเคมีที่เป็นอันตรายในระยะยาว ออกมาวางขายในตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งบั๊ค - รัฐวิทย์ และ วี - สืบศักดิ์ ได้พัฒนาชีสสำเร็จรูปเสร็จสิ้นพร้อมขายในเร็ว ๆ นี้ ในส่วนของชีสสำเร็จรูป ก็จะทำจากยีสต์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์และข้าวโอ๊ต ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของสายสุขภาพ และลดน้ำหนักกินได้ ด้วยค่าแคลอรี น้ำตาลและไขมันที่ต่ำมาก ๆ แต่จะเพิ่มเติมมาด้วยความสะดวกเพียงเปิดประปุกก็กินได้เลย

โดยนอกจากจะเป็นผู้ประกอบการในตลาด Plant-based ทั้งคู่ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้บริโภคสินค้าในหมวดหมู่นี้ด้วยเช่นกัน เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีเลือกกินอาหารในแต่ละวันให้สอดคล้องกับเส้นทางธุรกิจที่พวกเขาตั้งใจพาไปสู่ตลาดสากล นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยลดการผลิตสินค้าจากการปศุสัตว์ โดยเฉพาะวัวที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วยทางอ้อม 

“สำหรับผม (วี - สืบศักดิ์) เป็นเรื่องของประสบการณ์มากกว่าไลฟ์สไตล์ ประกอบกับลูกค้ามีความสนใจในตลาด Plant-based เข้ามาเรื่อยๆ จึงต้องทำความเข้าใจและศึกษาธุรกิจด้านนี้เพิ่มขึ้น” 

รู้ว่ายากแต่ก็ใจขอลอง
“ผมเสพติดชัยชนะครับ”

วี - สืบศักดิ์ ตอบสวนกลับมาทันทีเมื่อเราถามถึงการร่วมเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจ AmphawaCheese ร่วมกับ บั๊ค - รัฐวิทย์ จากลูกค้ากลายเป็นพาร์ตเนอร์ที่ต้องการผลักดันให้ชีสไทยแท้แบรนด์นี้ออกสู่สายตาชาวต่างชาติ 

“แค่โจทย์ตั้งต้นก็แปลกแล้วที่ผลิตภัณฑ์ของคนไทยซึ่งกล้าทำวัตถุดิบอาหารที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงตลาด Plant-based ยังเป็นตลาดใหม่ โดยตั้งเป้าจะขายกับคนไทยและเปิดตลาดต่างประเทศ ด้วยปัจจัยที่กล่าวมานี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่เราจะทำให้เป็นไปได้ มูลค่าตลาด 3 ล้านล้านบาท (อ้างอิงจาก Statista) ถ้าแบรนด์เราได้ส่วนแบ่งมา 1% ก็เอาไปปล่อยกู้ให้โครงการดิจิทัลวอลเลตส่วนเล็ก ๆ เลยได้นะ

“สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจนำเสนอคือความเป็นไทยในมุมที่คนคาดไม่ถึง จากผลผลิต เช่น ข้าวหรือผลไม้แปรรูปเป็นโปรดักต์ที่เราคุ้นเคย คิดกลับกันว่าเราจะผลิตสินค้าที่เท่กว่านี้ได้บ้างไหม ผมมองว่าส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องการทำแบรนด์ดิ้ง เป็นโปรเจกต์ที่ได้ทดลองการทำการตลาดที่ผมมองเห็นโอกาสที่จะทำรายได้จำนวนมากกลับเข้าประเทศ”

จุดแข็งในตลาดที่ไม่คุ้นเคย 
แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตชีส แต่ในมุมมองของ วี - สืบศักดิ์ เห็นว่าสิ่งสำคัญที่ทั้งสองคนตั้งมาตรฐานไว้คือการทำ R&D (Research and Development) ให้เทียบเท่าแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องในเรื่องรสชาติและยอดขายทั้งตลาดไทยและต่างประเทศ ด้วยความเป็น Plant-based จึงทำให้ต้องใช้เวลาในการพัฒนาและวิจัยนานขึ้น เพื่อประสบการณ์การกินที่ดีทั้งรสชาติและสัมผัสที่คนส่วนใหญ่ถูกใจ รวมถึงการถนอมอาหารที่น่าพึงพอใจ ซึ่งลองผิดลองถูกและทดลองกันอย่างเข้มข้น

“เราจะไม่บอกนะว่าชีสของเราดีที่สุดในโลก แต่ถ้าคุณกินชีสของเราแล้วคุณจะไม่ผิดหวัง เหมือนที่คุณดื่มเครื่องดื่ม 0% ที่รสเดิมแต่ไม่มีแคลอรี สิ่งที่เราเน้นคือการตลาดและช่องทางที่เรามีความพร้อมซึ่งเป็นจุดแข็งอยู่แล้ว เป็นเครื่องทุ่นแรงให้ธุรกิจของเราเติบโต”

บทเรียนในการทำธุรกิจในมุมมองนักการตลาด
ถึงแม้ว่าหลายประเทศในยุโรปและอเมริกาจะมีธุรกิจการรีดนมและผลิตภัณฑ์นมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มลูกค้าที่แพ้กลูเตน (โปรตีนที่พบได้ในธัญพืช) หรือคนที่แพ้นมวัวจำนวนไม่น้อยที่มีความต้องการอาหารทดแทน นั่นทำให้เป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยซึ่งได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกในเรื่องอาหารสามารถเติมเต็มในตลาดนี้ได้

“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำแบรนด์ของผมคือ ความรู้สึกของลูกค้าต่อข้อมูลที่เราถ่ายทอดไปจำนวนมาก ผ่านบุคคลที่หนึ่ง สอง สาม หรือจะแปลง่าย ๆ คือ ทั้งตัวสินค้า คนชิม คนเชียร์ คนไม่เชียร์ มันมีผลต่อความอยากได้ของสินค้าผมทั้งหมด ที่เราพร้อมจะปรับแผนได้เร็วกว่าคู่แข่ง เพราะเรามีทีมมือดีด้านนี้จำนวนมากใน Vcommerce"

วี - สืบศักดิ์ กล่าวอย่างมั่นใจและเชื่อมั่นในเส้นทางธุรกิจที่ผ่านกระบวนการคิดค้นและการันตีคุณภาพจากเครื่องหมายยืนยันที่ชีสของพวกเขาได้รับ 

ต่อยอดจากธุรกิจโฮมเมดสู่ขั้นตอนอุตสาหกรรม
จากที่แบ่งพื้นที่บางส่วนของบ้านเป็นโรงงานสองแห่งเพื่อผลิต AmphawaCheeses แบบออร์แกนิกไม่มีสารกันเสียและคุมไขมันกินได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลเรื่องสุขภาพ บั๊ค - รัฐวิทย์ ได้วางแผนขยายการผลิตเพิ่มอีกเท่าตัว เพื่อรองรับไลน์สินค้าใหม่รูปแบบชีสสำเร็จรูป ซึ่งผ่านกระบวนการ R&D และเคาะบรรจุภัณฑ์เสร็จเรียบร้อยพร้อมเดินเครื่องผลิต โดยในอนาคตทั้งสองคนมองไว้ว่าอยากขยายโปรดักต์ออกเป็นรูปแบบอื่น ๆ เช่น บรรจุลงกระป๋องหลากหลายขนาดมากขึ้น

“ผมฝันถึงการที่จะพา AmphawaCheeses ไปสู่ครัวโลกให้ได้ ในช่วงเริ่มต้นเราเปิดตัวสินค้าด้วยขนาดที่เหมาะกับการใช้งานส่วนบุคคลก่อน” 

โดย วี - สืบศักดิ์ ต้องการให้ Plant-based ชีสรุ่นแรกของพวกเขาเป็นทางเลือกการกินที่พกพาได้สะดวก เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทั่วไปที่ไม่ได้มีเวลาเข้าครัว แต่ต้องการรสชาติที่ถูกปากและปรุงง่าย หยิบขึ้นมาฉีกซองคลุกเคล้าไปกับหลากหลายเมนู ส่วนชีสสำเร็จรูปที่กำลังปล่อยสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้จะมาเจาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก 

ระยะต่อไปของอนาคต AmphawaCheeses  
ในเป้าหมายอันใกล้นี้ วี - สืบศักดิ์ และ บั๊ค - รัฐวิทย์ ต้องการให้แบรนด์ของพวกเขาเป็นที่จดจำในหมู่ผู้บริโภครักสุขภาพ รวมถึงการมองหาช่องทางการขายทั้งร้านค้าออร์แกนิกและเข้าไปวางจำหน่ายในศูนย์การค้าให้ได้ พร้อมกับพัฒนาไลน์โปรดักต์ใหม่ ๆ ที่รออวดโฉมกันภายในปีนี้ ส่วนในระยะยาวเขาทั้งสองคนฝันไกลถึงการบุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะฝั่งอเมริกาและยุโรป ประเทศที่มีพื้นฐานการกินชีสอยู่เป็นประจำ แต่ยังไม่ใช่ประเทศเจ้าตลาดชีส รวมถึงตลาดที่มีจำนวนประชากรมหาศาลอย่างจีนก็ยังไม่ใช่เป้าหมายที่เหมาะกับแบรนด์ของพวกเขา

“ผมเป็น Digital Nomad อยู่แล้ว เดินทางตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมเลยคิดว่าทำไมเราไม่เพิ่มช่องทางหารายได้เพิ่มด้วยการทำแบรนด์ส่งออกเยอะ ๆ ล่ะ สิ่งที่น่าสนใจคือ AmphawaCheese จะเข้าไปเปลี่ยนพฤติกรรมคนในประเทศที่กินชีสเป็นประจำอยู่แล้วได้อย่างไร”

พกง่าย ปรุงอร่อย มีประโยชน์ 
AmphawaCheeses เป็น Plant-baesd ชีสที่อัดแน่นไปด้วยโปรตีน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและไขมัน สามารถเติมเป็นส่วนผสมได้ในหลากหลายเมนู กินง่าย ๆ กับขนมปังก็อร่อยและประหยัดเวลาในตอนเช้าที่ต้องเร่งรีบไปทำงาน แต่มองหาแหล่งสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นเมนูโปรดของ บั๊ค - รัฐวิทย์ ที่เขาเลือกกินเป็นประจำทุกวัน 

“สำหรับคนแบบผม (วี - สืบศักดิ์) ที่ไม่มีความสามารถในการปรุงเมนูอาหาร เมนูโปรดคือกินชีสกับราเมงเกาหลีครับ ช่วยเติมรสชาติและสัมผัสการกินในเมนูปกติให้อร่อยขึ้น”

เตรียมทุกกระบวนท่ารับมือโดนเลียนแบบ
ถึงแม้โพรไฟล์เด่น ๆ ของ วี - สืบศักดิ์ จะเป็นสินค้าในหมวดบิวตี้และความงาม แต่ก็มีแตะตลาดสินค้า Plant-based ที่รับให้คำปรึกษาอยู่ด้วยเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลที่ บั๊ค - รัฐวิทย์ เลือกให้ Vcommerce ดูแลแบรนด์ที่เขาตั้งใจปลุกปั้นขึ้นมาจากครัวเล็ก ๆ สู่ธุรกิจอาหารเพื่ออนาคต

“ยุคนี้แข่งแค่เรื่องมาร์เก็ตติ้งกับแบรนด์ดิ้งอย่างเดียวมันเทียบเท่ากับเล่นไพ่ คือที่ใช้แต่เงินกับสกิลคนใช้เงิน แต่ถ้าเกิดเราเป็นเจ้ามือโต๊ะด้วย ทำให้กีดกันคนมาเล่นได้ครับ ถ้าใครจะลอกเลียนแบบตามเรามาก็ต้องไปคิดหาท่าใหม่ที่ต้องเหนื่อยกันบ้าง เพราะพวกเราเองก็เตรียมไว้อีกหลายท่าให้เดินตามมา”

ถึงแม้เริ่มจาก บั๊ค - รัฐวิทย์ จะเดินเข้ามาว่าจ้างให้ วี - สืบศักดิ์ เป็นที่ปรึกษามานานจนไว้วางใจ และทาง วี - สืบศักดิ์ ก็เชื่อมั่นและนับถือในความตั้งใจจริงของ Developer หนุ่มคนนี้ที่ลงมือถางเส้นทางด้วยตัวเองมาแล้วก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามาให้เขาและทีมช่วยดูแลต่อในด้านที่ Vcommerce เชี่ยวชาญ

“สิ่งที่ผมทึ่งในตัวของบั๊ค คือจาก Developer ที่หลงใหลในการทำอาหาร แถมยังเป็นมนุษย์ที่เวลาจะทำอะไรเขาไม่ทำเล่น ๆ เพราะก่อนที่จะมาปรึกษากับผม เขามีโรงงานในบ้านตัวเองถึงสองที่อยู่แล้ว เริ่มผลิตสินค้าเอง โปรโมตขายเองในเพจ จนเริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเองก่อนที่จะส่งต่อให้ทีมของผมมารับไม้ช่วยดูแล”

ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ Plant-based ยังมีราคาสูงกว่าวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารอื่น ๆ ทำให้คนทั่วไปที่เริ่มตระหนักถึงสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถเลือกกินได้ในทุกมื้อที่ต้องการ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อวิทยาการด้านเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงเวลาที่สุกงอม ก็อาจจะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยที่เป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารที่หลากหลาย ถ้าจับรถไฟขบวนนี้ได้ทันก็อาจเป็นการก้าวกระโดดทางเศรษฐกิจภาพรวมให้เกิดขึ้นได้ เหล่านี้ล้วนขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และการวางนโยบายอย่างต่อเนื่องจากผู้นำของเราด้วยเช่นกัน

AmphawaCheeses 
ปัจจุบันวางจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์และร้านออร์แกนิกทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ลิงก์
https://www.facebook.com/AmphawaCheeses 
https://www.instagram.com/amphawacheeses/
https://www.tiktok.com/@amphawacheeses