มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ 'จงรัก จารุพันธุ์งาม' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน

มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ 'จงรัก จารุพันธุ์งาม' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน

มีกินฟาร์ม คือแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ Creative & Gastronomy Tourism ของจังหวัดขอนแก่น โดยมี 'ปู - จงรัก จารุพันธุ์งาม' และครอบครัวช่วยกันปลุกปั้นจนกลายเป็นสถานที่ที่ใครมาอีสานจะต้องมาเยือน

  • 'มีกินฟาร์ม' คือแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบ Creative & Gastronomy Tourism จังหวัดขอนแก่น ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของสองพี่น้องครอบครัวจารุพันธุ์งาม เปลี่ยนผืนดินแห้งแล้งเป็นระบบนิเวศที่สมบูรณ์บนพื้นที่ 4 ไร่
  • หลังจากทุ่มความพยายามลงไปจนหมดหน้าตัก 'มีกินฟาร์ม' ก็สามารถยืนหยัดเป็นต้นแบบของชาวอีสานมานานกว่า 7 ปี อีกทั้งยังได้รับการคัดเลือกจาก ‘มิชลิน ไกด์’ ให้เป็นร้านอาหารคุณภาพดีของภาคอีสาน โดยได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ประจำปี 2566 มาครอง

“กลับบ้านเถอะ เธอทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว”

‘ปู - จงรัก จารุพันธุ์งาม’ ผู้ก่อตั้งมีกินฟาร์ม เล่าให้เราฟังถึงเหตุผลของการกลับบ้าน บ้านที่เธอจากไปเกือบ 20 ปี ทำให้ความทรงจำที่มีต่อขอนแก่นจึงเลือนลางจนแทบจะจางหาย การหวนกลับสู่จุดเริ่มต้นของเธอจึงไม่ต่างจาก ‘คนนอก’ ที่ทั้งแปลกแยกและแตกต่าง

แต่เพราะคำพูดสั้น ๆ ของ ‘ยิ้ม-ปราณีต จารุพันธุ์งาม’ น้องสาวคนเล็กผู้ช่วยคนสำคัญในการถางเส้นทางความฝัน เข้ามาช่วยปลอบประโลมในวันที่หญิงแกร่งคนนี้อ่อนแอที่สุด จากความทรงจำที่เคยพร่าเลือนก็เริ่มปรากฏชัด และมองเห็นว่าขอนแก่นยังคงเป็นบ้านอันอบอุ่นสำหรับเธอเสมอ

‘มีกินฟาร์ม’ จึงถือกำเนิดขึ้นจากผืนดินแห้งแล้ง สองพี่น้องค่อย ๆ หย่อนเมล็ดพันธุ์แห่งความมุ่งมั่นและตั้งใจลงไปทีละน้อย จากดินที่เคยแตกระแหง วันเวลาล่วงเข้ามาปีที่ 7 ความทุ่มเทของทั้งคู่ก็งอกงามขึ้นกลางหัวใจชาวอีสาน จนกลายเป็นต้นแบบของแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ได้สำเร็จ มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ \'จงรัก จารุพันธุ์งาม\' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน

แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะดูไม่ต่างจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป แต่อย่าลืมว่าเมื่อ 7 ปีก่อนสถานที่ท่องเที่ยวลักษณะนี้คงมีให้เห็นไม่มากนัก และสิ่งหนึ่งที่ทำให้สวนเกษตรของจงรักแตกต่างคือ เธอพยายามสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นบนพื้นที่ 4 ไร่ 83 ตารางวา หลักการพื้นฐานที่สองพี่น้องพยายามยึดถือมาตลอดนับตั้งแต่ขวบปีแรกของการทำสวนเกษตร ทุกคนที่เข้ามาเหยียบย่ำฟาร์มจะได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีสถานะทางสังคมแบบใดก็ตาม

ไม่มีอภิสิทธิ์ชน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ มีเพียงแค่กลุ่มคนที่มีใจรักในพื้นที่สีเขียว ชื่นชอบการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน และหวังจะเรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างกลมกลืนเท่านั้น

และนี่คือเบื้องหลังความสำเร็จของ จงรัก จารุพันธุ์งาม ผู้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง ณ แดนอีสานมานานนับสิบปี

 

คนนอกผู้กลับบ้านมาสานฝัน

ปี 2556 จงรัก จารุพันธุ์งาม ตัดสินใจเก็บกระเป๋ากลับบ้านที่จังหวัดขอนแก่น หลังจากบินลัดฟ้าไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนและพนักงานร้านอาหารไทยที่อังกฤษ 6 ปี ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ ‘ความเหงา’ ประจวบกับได้คำพูดของน้องสาวเข้ามาฉุดให้เธอหลุดออกจากภวังค์ความเศร้า

“พี่ปูเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองเรื่องความสุข ถึงเราจะหาเงินจากการทำงานที่อังกฤษได้เยอะ แต่มันเหมือนไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงเราคิดเรื่องนี้ตลอด อาจจะเป็นเพราะเราเหงา โทรฯ หาเพื่อนก็ยังไม่หายเหงา พอเริ่มเบื่อ ๆ เลยใช้เงินแก้ปัญหาลองซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมของใช้แพง ๆ มาดู แต่เราก็ไม่ได้ใช้มัน จนมาวันนึงเอากระเป๋ามาเช็ดแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมา ร้องไห้เลย เราไม่มีความสุข มันเหงามันเคว้งไปหมด”

เสียงของ จงรัก จารุพันธุ์งาม ที่ส่งมาตามสายโทรศัพท์ทำให้เรานิ่งเงียบไปชั่วขณะ แม้ไม่เห็นสีหน้าท่าทางของเธอโดยตรง แต่น้ำเสียงของเธอกลับสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะย้ำว่าคงถึงเวลากลับบ้านแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ความสุขตามที่เธอเคยวาดฝันไว้

ทันทีที่จงรักกลับมาถึงบ้าน ความเป็นอื่นก็ปะทะเข้าอย่างจัง เธอรู้สึกเคว้งไม่ต่างจากตอนอยู่ต่างแดน เพื่อขจัดความรู้สึกแปลกแยกออกไป เธอจึงต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง และหนึ่งในนั้นคือการเริ่มทำธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง แต่หลังจากผ่านไป 2 ปีความสุขในการทำงานก็หายไป

จงรักเริ่มเดินทางออกตามหาความสุขอีกครั้ง และเธอก็ได้ค้นพบว่าความสุขที่หล่นหายไปกว่า 2 ปีกลับอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด “พี่ปูรู้สึกว่าทุกครั้งที่เราเดินเข้ามาในสวนมันสงบมากเลย เราก็เลยคิดว่า เราน่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับพื้นที่ตรงนี้ดู พอเราบอกที่บ้านเขาก็นึกไม่ออกว่าความฝันที่เราอยากจะทำมันจะออกมาเป็นรูปแบบไหน พ่อก็คิดว่าจะเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้คนมาศึกษาดูงานทีละ 100 - 200 คน

“ส่วนแม่ก็มาช่วยทำกับข้าว มาช่วยรับแขก เขาก็รับรู้แค่นั้น พอหลังจากนั้นน้องยิ้มก็กลับมาช่วยราว ๆ ปลายปี 2560 เข้ามาช่วยเติมเต็มภาพฝันให้มันชัดขึ้น มาซัพพอร์ตในส่วนที่เรายังทำไม่ได้ พอมาทำธุรกิจกับน้องสาวก็ทำให้เห็นภาพเร็วขึ้น”

ก่อนที่จงรักจะปั้นความฝันออกมาเป็นรูปเป็นร่าง เธอเล่าย้อนว่าช่วงปีแรกที่กลับมาเมืองไทย ผู้เป็นพ่อยังเช่าที่นาของคนอื่นอยู่ การไม่มีที่ทำกินเป็นของตัวเองแถมยังโดนเลือกปฏิบัติ สร้างความปวดใจให้ลูกสาวคนโตอย่างเธอไม่น้อย อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหลุดพ้นจากความยากจน

จากนั้นจงรักจึงเริ่มมองหาที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และในปี 2558 ก็ได้ที่ดินราว 4 ไร่บริเวณบ้านจระเข้ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่นมาครอบครอง หากจะบอกว่า มีกินฟาร์ม เกิดขึ้นท่ามกลางความเจ็บปวดคงไม่ผิดนัก เพราะทุกหยาดเหงื่อและคราบน้ำตาที่หลั่งลงบนผืนดินแห้งแล้งนอกจากจะทำให้จงรักท้อใจ แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัว เมล็ดพันธุ์ที่เธอเฝ้าบ่มเพาะจึงค่อย ๆ แทรกตัวลงผืนดินทีละน้อยจนผลิดอกออกผล

มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ \'จงรัก จารุพันธุ์งาม\' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ \'จงรัก จารุพันธุ์งาม\' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน

จากตู้กับข้าวของครอบครัว สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

“จริง ๆ คอนเซ็ปต์เมื่อก่อนของฟาร์มนี้มีชื่อว่าสวนเกษตรมีกิน ก็ตรงตัวเลย คือ ‘มีกิน’ เป็นสวนที่มีอาหารการกินอยู่ในนี้ครบ เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของครอบครัว เบื้องต้นก็นึกว่าเป็นตู้กับข้าวปลอดสารพิษของบ้าน แต่พอมาคิดในแง่ของธุรกิจ พี่ปูก็อยากจะทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่พักผ่อนของทุกคน ให้ทุกคนได้กลับมาอยู่กับธรรมชาติ

“มีกินฟาร์มจึงไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นพื้นที่สีเขียวที่มีกิจกรรมให้คนมาทำร่วมกัน เราไม่ได้มีแค่ร้านอาหาร ไม่ได้มีแค่โฮมสเตย์ เพราะการพักผ่อนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนการกินคือการพักผ่อน บางคนการทำกิจกรรมคือการพักผ่อน หรือบางคนนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่บ้านเฉย ๆ ก็เป็นการพักผ่อนแล้ว

“Core Value ของมีกินฟาร์มก็คืออยากให้ทุกคนได้เห็นคุณค่าของการกลับมาอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งคำว่าธรรมชาติในที่นี้ไม่ได้เหมายถึงป่าใหญ่ ภูเขา น้ำตก แต่อาจจะเป็นแค่บ้านสวนเล็ก ๆ ในแบบของเราที่มีทุกอย่างอยู่ในนี้ เป็นบ้านสวนที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์ พี่ปูอยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็น Education Tourism ซึ่งพี่ปูตั้งใจทำให้มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ”

ทุกถ้อยคำที่จงรักบอกกับเราอดทำให้ทึ่งไม่ได้ ไม่ใช่แค่พื้นที่แห้งแล้งที่เธอใช้เวลากว่า 7 ปีในเปลี่ยนมาเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของขอนแก่น หากแต่เป็นความมุ่งมั่นและความพยายามในการทำตามความฝัน

นอกจากการสู้ไม่ถอยแล้ว จงรักยังขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่อัธยาศัยดีเป็นที่หนึ่ง อาจเพราะเธอเป็นเด็กบ้านนอกที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย การเข้าไปทำความรู้จักคนอื่นจึงไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งตอนสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครองก็หล่อหลอมให้เธอ ‘กล้า’ ที่จะทำความรู้จักและใช้ชีวิตขลุกตัวกับชาวบ้านโดยไม่ขัดเขิน

มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ \'จงรัก จารุพันธุ์งาม\' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ \'จงรัก จารุพันธุ์งาม\' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน ความเป็นนักกิจกรรมตัวยงของจงรัก ทำให้เธอพอจะรู้จักคนในพื้นที่อยู่บ้าง “พี่ปูโชคดีที่เป็นเพื่อนกับนักกิจกรรมในจังหวัดขอนแก่น สมัยเราเรียนธรรมศาสตร์เราก็เป็นนักกิจกรรมอยู่แล้ว เราก็เข้าไปจอยกลุ่มนี้แล้วก็รู้สึกชอบ พี่ก็เริ่มเลยบอกว่ากำลังจะจัดกิจกรรมดำนา เขาก็มาเป็นลูกค้ากลุ่มแรก”

“เชื่อไหมว่าโต๊ะเก้าอี้ไม่มีเลยนะ” เธอเล่าพลางหัวเราะร่วน ก่อนจะบอกว่าทุกความสำเร็จต้องขอบคุณชาวบ้านที่มาช่วยกันทำให้กิจกรรมครั้งนี้ผ่านไปได้

“เราต้องมาปูเสื่อนั่งกินข้าวกันยังไม่มีโถงนาไม่มีอะไรเลย ก็กินข้าวใต้ร่มไม้ แต่ว่าพี่ปูเป็นคนที่ทำอะไรชอบจัดเต็ม เลยมีหมอมาสู่ขวัญ มีหมอพราหมณ์ มีหมอแคนมาเป่าแคน คือจินตนาการไปเองนะว่าเวลาจัดกิจกรรมมันต้องมีประมาณนี้ ๆ แล้วก็ชวนคนแถวบ้านมาช่วย ก็เลยเป็นภาพกิจกรรมออกไป”

ความเล่นใหญ่ของจงรัก ทำให้ความฝันขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว จากสถานที่ที่ไม่มีคนรู้จักก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนกระทั่งโอกาสใหญ่มาเยือน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มองเห็นว่า ‘สวนเกษตรมีกิน’ ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ‘มีกินฟาร์ม’ (MEKIN FARM) ใน 2562 เหมาะที่จะเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Creative & Gastronomy Tourism)

มีกินฟาร์มได้รับการโปรโมตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ได้รับการคัดเลือกจาก ‘มิชลิน ไกด์’ ให้เป็นร้านอาหารคุณภาพดีที่น่าลิ้มลองประจำภาคอีสาน โดยได้รับสัญลักษณ์ ‘บิบ กูร์มองด์’ (Bib Gourmand) ประจำปี 2566 มาครอง

“มันไม่ใช่แค่รางวัลที่พี่ปูได้รับ แต่มันมาจากความเพียรของเรามากกว่า มีกินฟาร์มเกิดจากความเพียรความพยายามที่เราพยายามต่อสู้กับข้อจำกัดที่มีอยู่ทุก ๆ อย่าง ทั้งการเงิน ปัญหาชีวิต มันเลยทำให้พี่ปูระมัดระวังในการบริหารด้านการเงินมาก

“ซึ่งธุรกิจตรงนี้พี่ปูมองว่ามันค่อนข้างยั่งยืน เราค่อย ๆ ทำของเรามาเรื่อย ๆ ตอนนี้มีกินฟาร์มเติบโตขึ้นมาก ที่สำคัญต้นไม้ทุกต้นในสวนมันค่อย ๆ เติบโต นี่คือระบบนิเวศที่เราสร้างในพื้นที่ 4 ไร่ มันดีขึ้นทุกวัน โดยที่เราไม่ได้ใช้สารเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลย พี่ปูเลยมองว่านี่คือความยั่งยืนในแง่ของธุรกิจและจิตใจของเราก็รู้สึกถูกเติมเต็มไปด้วย”

มีกินฟาร์ม: สวนเกษตรที่ \'จงรัก จารุพันธุ์งาม\' อยากให้ทุกคนอบอุ่นใจทุกครั้งที่มาเยือน ทุกคนคือคนสำคัญไม่ต่างกัน

นอกจากมีกินฟาร์มจะเป็นโมเดลในการทำธุรกิจของชาวอีสานแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จงรักพยายามสร้างบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ให้เกิดขึ้นคือ เธออยากให้มีกินฟาร์มเป็นสถานที่แห่งความเท่าเทียม

“ด้วยความที่พี่ปูไปอยู่ที่นู่น(อังกฤษ)มา พี่ปูก็เห็นว่าทุกคนเขาก็ต้องรอคิวเหมือนกัน ใครไม่ได้จองก็ต้องรอคิวเข้าแถวกันไป ทุกคนเท่าเทียมกัน ดังนั้นลูกค้าทุกคนที่มามีกินฟาร์มก็จะได้รับการปฏิบัติเหมือนกันทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน แต่เมื่อมาสวนของเรา เราก็จะดูแลทุกคนไม่ต่างจากคนอื่น ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีการเลือกปฏิบัติ นี่คือสิ่งที่พี่ปูพยายามทำมาโดยตลอด”

ก่อนจะบอกกับเราว่ามีกินฟาร์มจะยังคงเป็นสถานที่ที่สร้างความอบอุ่นใจให้กับทุกคนเสมอ ไม่ว่าจะคว้ารางวัลมาอีกกี่ชิ้น 'ตัวตน' ของสถานที่แห่งนี้จะไม่เปลี่ยนไป

“พี่ปูเปลี่ยนไปมากเลยนะตั้งแต่กลับบ้านมาทำมีกินฟาร์ม เมื่อก่อนเรารู้สึกเคว้งก็จริง แต่มันมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้พี่ปูรู้สึกว่าขอนแก่นเป็น ‘บ้าน’ ก็ตอนที่พี่เข้าไปทำธุระที่กรุงเทพฯ แล้วรู้สึกว่ามันไม่ชินอีกแล้ว มันไม่ใช่ที่ของเรา นี่เลยเป็นสิ่งยืนยันว่าพี่ปูอยู่ในที่ที่สามารถเรียกว่าบ้านได้อย่างเต็มปากแล้วจริง ๆ”

 

สำหรับผู้สนใจแนวคิดของคุณจงรัก และอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถไปพบกับคุณจงรัก ในเวที ‘เว่าถึงแก่น’ เวทีทอล์กที่จะพาไปทะลวงถึงแก่นความเป็นอีสานในด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน 

เวทีเว่าถึงแก่น คือส่วนหนึ่งของงาน Isan BCG Expo 2022 มหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีสานและครั้งแรกในประเทศไทยภายใต้แนวคิด Collaboration : ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ จัดขึ้นในวันที่ 9-12 ธันวาคม 2565 ณ Khon Kaen Innovation Centre (KKIC) จังหวัดขอนแก่น

เวที ‘เว่าถึงแก่น’ ในงาน Isan BCG Expo 2022 จะมีขึ้น 2 วัน คือวันที่ 10-11 ธ.ค. 2565 ที่ SRICHAN Creative Stage, ตึกคอม จังหวัดขอนแก่น (Isan BCG Expo 2022 จัดระหว่าง 9-12 ธ.ค. 2565)

พบกับการบรรยายของ คุณจงรัก จารุพันธุ์งาม ได้ในงาน ISAN BCG EXPO 2022 บนเวที ‘เว่าถึงแก่น’ Session เว่าสั้น 3 ยืนเดียว เล่าลึก อย่างถึงแก่น 
ในหัวข้อ “เลาะบ้านเลาะเฮือน” : Creative Tourism กับการท่องเที่ยววิถีใหม่ในอีสาน 
วันที่ 10 ธ.ค. 2565 เวลา 16.30 - 17.30 น.
ที่ Srichan Creative Stage ตึกคอม ขอนแก่น

คลิกดูรายละเอียดงานและ Speakers ในเวที เว่าถึงแก่น เพิ่มเติมที่นี่

ภาพ: มีกินฟาร์ม (MEKIN FARM)