Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี

ทำความรู้จัก Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินแห่งรัฐเคนทักกีที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งหลังจากหายไปนานกว่าร้อยปี

เบอร์เบินแท้ต้องมีรสชาติแบบไหน คอเมรัยสายอเมริกันอาจตอบคำถามนี้ได้อย่างไม่ยาก แต่หากถามว่ารสชาติที่แท้จริงของ Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบิน แห่งรัฐเคนทักกีที่สูญหายไปเกือบศตวรรษเป็นอย่างไร เชื่อว่าน้อยคนที่จะตอบได้ 

โชคดีที่ในปี 2014 มีผู้ปลุกวิญญาณของ Kentucky Owl ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง โดย ดิกซอน เดดแมน ทายาทตระกูลเดดแมน ผู้ผลิต Kentucky Owl และก่อนจะไปสัมผัสรสชาติเบอร์เบินแท้ที่หายไปนาน เรามาทำความรู้จักแบรนด์ Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินเจ้าของสัญลักษณ์นกฮูกแห่งรัฐเคนทักกีที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังจากหยุดผลิตนานกว่าร้อยปีไปพร้อมกัน 

และนี่คือเรื่องราวของ Kentucky Owl 
Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี

เบอร์เบิน ไม่ใช่วิสกี้

Kentucky Owl (เคนทักกี อาวล์) มีจุดเริ่มต้นในปี 1879 แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เราอยากพาย้อนไปถึงที่มาของเบอร์เบิน ว่าทำไมเครื่องดื่มชนิดนี้ถึงแตกต่างจากวิสกี้ ทั้งที่เจ้าเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้ต่างมีความคล้ายคลึงกันมากจนเหมือนกับพี่น้องกันเลยทีเดียว

อย่างที่หลายคนรู้ว่าวิสกี้ ได้จากการกลั่นธัญพืชอย่างเช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวมอลต์ ข้าวไรย์ ข้าวสาลี แล้วนำไปหมักไว้ในถังไม้โอ๊กนานหลายปีจนได้ของเหลวที่มีสีสันและกลิ่นรสอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งชาวสก๊อต และไอริช ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในการผลิตวิสกี้อย่างหาตัวจับยาก 

เมื่อชาวสก๊อต - ไอริช ทยอยย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากในดินแดนใหม่ที่เรียกว่าอเมริกา พวกเขาได้นำวิสกี้ติดตัวมาด้วย แต่นั่นไม่เพียงพอกับความต้องการ เลยมีความพยายามในการผลิตวิสกี้ขึ้นเองในดินแดนแห่งนี้ โดยในช่วงแรกข้าวไรย์ยังให้ผลผลิตได้ไม่เพียงพอ พวกเขาเลยลองใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลัก เนื่องจากข้าวโพดเป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอเมริกาที่มีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลาย 

รัฐเคนทักกีได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตสุรากลั่นจากข้าวโพดชั้นดี และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง จากการใช้แหล่งน้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ที่ไหลผ่านหินปูน ทำให้เหล้ากลั่นที่ได้มีความหวานนุ่มชุ่มคอเป็นพิเศษ ต่อมาเหล้าชนิดนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่าเบอร์เบิน (Bourbon) ที่มาของชื่อนี้มีผู้สันนิษฐานว่าอาจมาจากชื่อราชวงศ์บูร์บงของฝรั่งเศส ชื่อเมือง Bourbon County ในรัฐเคนทักกีที่ขึ้นชื่อเรื่องเบอร์เบินคุณภาพดี หรืออาจมาจากชื่อท่าเรือที่ใช้ในการขนส่งเบอร์เบิน แต่ทั้งนี้ยังไม่มีผู้ที่ทราบแน่ชัดถึงที่มาของชื่อเบอร์เบิน 

ในปี 1964 สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้เบอร์เบิน เป็นเครื่องดื่มของอเมริกันอย่างเป็นทางการ โดยการผลิตทั้งหมดต้องทำในสหรัฐอเมริกา ใช้ข้าวโพดเป็นส่วนผสมหลักไม่ต่ำกว่า 51% บ่มไม่ต่ำกว่า 2 ปีในถังไม้โอ๊กใหม่ที่เผาไฟ 

แม้ว่าตามเงื่อนไขนี้สุรากลั่นจากข้าวโพดจากทั่วสหรัฐอเมริกาจะสามารถเรียกว่าเบอร์เบินได้ แต่ผู้คนต่างให้การยอมรับว่า เบอร์เบินที่แท้จริงต้องเป็นเบอร์เบินที่ผลิตในรัฐเคนทักกีเท่านั้น เนื่องจากรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้จากวัตถุดิบหลักคือ ‘น้ำ’ ที่เป็นตัวกำหนดรสชาติ โดยรัฐเคนทักกีมีความโดดเด่นเรื่องน้ำจากแม่น้ำเคนทักกีที่ไหลผ่านแร่หินปูนทำให้มีแร่ธาตุที่เหมาะสม รวมไปถึงความใสสะอาดเป็นพิเศษ

ประวัติย่อความเป็นมาของเบอร์เบินสั้น ๆ นี้ น่าจะช่วยตอบคำถามได้ว่าทำไมเราถึงไม่เรียกเบอร์เบิน ว่าวิสกี้

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี
ตำนานแห่งรัฐเคนทักกี

กลับมาปี 1879 อันเป็นจุดเริ่มต้นของ Kentucky Owl จากฝีมือของเภสัชกรหนุ่มนามว่า Charles Mortimer Dedman (ชาร์ล มอร์ไทมเมอร์ เดดแมน) ผู้ได้รับที่ดินผืนใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำเคนทักกีเป็นของขวัญวันแต่งงานจากพ่อบุญธรรมซึ่งเป็นผู้พิพากษาประจำเมือง 

ต่อมาที่แห่งนี้กลายมาเป็นโรงกลั่น C.M. Dedman Distillery ที่ผลิต Kentucky Owl เบอร์เบินที่มีความโดดเด่นในเรื่องกระบวนการผลิตที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีที่สุดเท่านั้น ทำให้ได้เบอร์เบินคุณภาพเยี่ยมที่ในแต่ละรอบผลิตจะมาพร้อมลักษณะเฉพาะตัวที่หลายคนหลงใหล นั่นเป็นจุดเอกลักษณ์ที่ส่งผลให้ Kentucky Owl ได้รับความนิยมต่อเนื่องนานหลายสิบปี

จุดเปลี่ยนคือช่วงปี 1916 จากการห้ามสุราในสหรัฐที่เป็นกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกินเวลานานกว่าทศวรรษ ผลของกฎหมายนี้ไม่เพียงทำให้เกิดตลาดมืดที่เป็นแหล่งเงินทุนให้องค์กรอาชญากรรมเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ยังทำให้ธุรกิจเบอร์เบินที่กำลังไปได้ดีของเดดแมนต้องหยุดชะงักลง

เขาจำเป็นต้องนำเบอร์เบิน Kentucky Owl ที่ผลิตได้ทั้งหมดจำนวนกว่า 250,000 แกลลอน ไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของรัฐที่แฟรงก์ฟอร์ต แต่แล้วในคืนหนึ่งเปลวไฟลึกลับก็ได้ประทุขึ้นในคลังสินค้าแห่งนี้ เผาผลาญทุกสิ่งจนมอดไหม้ รวมทั้งเบอร์เบินดีกรีสูงของเดดแมนที่เป็นเชื้อไฟชั้นดี เชื่อกันว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มาจากการบงการของกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลที่วางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานหลังจากได้ขนเบอร์เบิน ชั้นดีจำนวนมหาศาลออกไปแล้ว

เหตุการณ์เพลิงไหม้อย่างมีเงื่อนงำในครั้งนั้นทำให้ให้สต็อกเบอร์เบิน ของ Kentucky Owl จำนวนเกือบ 250,000 แกลลอนหายไปในชั่วข้ามคืน ทำให้เดดแมนสูญเสียเงินไปกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ และนับตั้งแต่วันนั้นมาเขาก็ไม่ได้ทำเบอร์เบินอีกเลย จวบจนลมหายใจสุดท้ายของเขา 

การจากไปของ ชาร์ล มอร์ไทมเมอร์ เดดแมน ในปี 1918 และความสูญเสียในครั้งนั้นเอง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของศตวรรษที่สูญหายของ Kentucky Owl

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี
การกลับมาของจิตวิญญาณอเมริกัน

ข้ามไปในปี 2008 ดิกซอน เดดแมน (Dixon Dedman) ทายาทตระกูลเดดแทน เหลนทวดของ ชาร์ล เดดแมน ซึ่งเติบโตที่ Beaumont Inn ในรัฐเคนทักกี มีความคิดที่จะรื้อฟื้นตำนานของ Kentucky Owl กลับมาอีกครั้ง จากที่เคยได้ยินเรื่องราวชีวิตของทวดของเขาที่ผูกพันกับเบอร์เบิน ทำให้เขาฝันว่าจะต้องนำรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Kentucky Owl กลับมาให้ได้

หลังจากการทำวิจัยอย่างจริงจัง และลองผิดลองถูกในการผสมส่วนต่าง ๆ อยู่นานกว่า 6 ปี ในปี 2014 จากการผสมเบอร์เบิน ที่ดีที่สุดในรัฐเคนทักกีสุดท้าย เบอร์เบิน Kentucky Owl ก็ได้กำเนิดใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งหลังจากการเปิดตัว Batch #1 ของ Kentucky Owl ตำนานบทใหม่ของเบอร์เบิน จากเคนทักกีก็ได้เริ่มต้นอีกครั้ง

ความโดดเด่นที่ทำให้ Kentucky Owl ไม่เหมือนใคร มาจากการคัดสรรวิสกี้ชั้นดีหลากหลายชนิด ที่แต่ละถังผลิตจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด ซึ่งการผสมจะไม่มีการกำหนดโปรไฟล์รสชาติไว้ล่วงหน้า แต่จะผสานทุกอย่างออกมาเพื่อให้ได้เบอร์เบิน ที่ดีที่สุด

นอกจากเบอร์เบิน แล้วดิกซอนยังได้ขยายแบรนด์ด้วยสินค้าใหม่อีกหลายตัว อย่างเช่น 11 year old Kentucky Straight Rye Whisky วิสกี้สเตรท ไรย์อายุ 11 ปี จำนวนสองชุด ซึ่งแต่ละชุดจะผลิตแบบดั้งเดิมที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ผ่านฝีมือการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันของ ดิกซอน เดดแมน ในฐานะการเป็นมาสเตอร์เบลนเดอร์

ดิกซอน เดดแมน ได้พูดถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า "ผมแค่อยากแบ่งปันเบอร์เบิน Kentucky Owl กับเพื่อน และครอบครัว เพราะมันคือเบอร์เบิน ที่คุณทวดได้สร้างขึ้นมา และเคยแบ่งปันกับครอบครัว และเพื่อน ๆ เมื่อ 100 ปี ที่แล้ว"

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี
The Wise Man's Choice

‘ทางเลือกของคนฉลาด’ (The Wise Man's Choice) วลีที่ย้ำอยู่บนฉลากของ Kentucky Owl ตั้งแต่ยุคแรกของ ชาร์ล เดดแมน ซึ่งวันนี้จากการรังสรรค์ของ John Rhea มาสเตอร์เบลนเดอร์คนล่าสุดของ Kentucky Owl ผู้ให้กำเนิดเบอร์เบิน ตัวใหม่ของ Kentucky Owl ภายใต้ชื่อ The Wiseman

The Wiseman เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Kentucky Owl ซึ่งผ่านกระบวนการผลิต และกลั่นในพื้นที่ของ Kentucky Owl Park โรงกลั่นบนพื้นที่ 420 เอเคอร์ ในเมืองบาร์ดสทาวน์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของเบอร์เบิน ซึ่งกำลังก่อสร้างอาคารทรงพีระมิดขนาดใหญ่จำนวนสามหลัง ที่มีปรากฎบนฉลากของ The Wiseman ทุกขวด 

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี
The Wiseman Straight Bourbon
เดอะไวซ์แมน สเทรท เบอร์เบิน หนึ่งในเบอร์เบินของ Kentucky Owl จากการผสมผสานสเตรท เบอร์เบิน 4 ชนิด ที่ใช้ข้าวโพดในการผลิตมากกว่า 74 เปอร์เซ็นต์ จนได้สุดยอดเบอร์เบินที่มีโดดเด่นด้วยกลิ่นของคาราเมลที่นุ่มนวล ตามด้วยกลิ่นที่เผ็ดร้อน กลิ่นผลไม้รสเปรี้ยวจัดจ้าน ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นไม้โอ๊ก

เดอะไวซ์แมน สเทรท เบอร์เบิน ให้รสชาติที่หวานนุ่มจากคาราเมลแอบซ่อนความเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศนานาชนิด ปิดท้ายด้วยรสเผ็ดร้อนแต่นุ่มนวลที่เหลือไว้ในลำคอ อบอวลรสคาราเมล และหอมกลิ่นไม้โอ๊ก

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี
The Wiseman Straight Rye
เดอะ ไวซ์แมน สเทรท ไรย์ จาก Kentucky Owl ที่ผลิตจากข้าวไรย์ที่ดีที่สุด การันตีด้วยปริมาณข้าวไรย์ที่มากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ กลิ่นหอมอัดแน่นด้วยขนมปังไรย์ที่ชัดเจน และมีความเผ็ดร้อน รสชาติอบอวลด้วยรสข้าวไรย์แบบเต็มสัมผัสหนักแน่น ก่อนทิ้งท้ายอย่างยาวนานเริ่มจากขนมปังข้าวไรย์ ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปสู่กลิ่นหอมของอบเชยอบ แทรกด้วยวอลนัทอย่างช้า ๆ

Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบินที่กลับมาอย่างยิ่งใหญ่หลังหายไปกว่า 100 ปี
รสชาติแท้ของเบอร์เบินที่แท้จริง

ทั้ง The Wiseman Straight Bourbon และ The Wiseman Straight Rye ต่างมีรสชาติเฉพาะตัวที่มีเอกลักษณ์สูง การเข้าถึงรสชาติที่แท้จริงของเครื่องดื่มแบรนด์ Kentucky Owl ตำนานเบอร์เบิน ที่สูญหายไปกว่าหนึ่งร้อยปี จึงมีวิธีการที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการดื่มแบบนี้ท ไม่ก็ออนเดอะร็อกที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวล หรือนำไปผสมในเมนู cocktail สุดคลาสสิกอย่าง Manhattan, Boulevardier และ Bourbon Highball ได้อย่างลงตัว

แต่อีกวิธีที่เราอยากให้ลองเปิดประสบการณ์ คือการลิ้มรสไปพร้อมกับอาหารในแบบอเมริกันสไตล์ ซึ่งการได้ลองดื่ม The Wiseman ทั้งสองตัวไปพร้อมอาหารแบบอเมริกันที่เน้นหนักในเรื่องคาร์บจากแป้ง และขนมปัง พบว่าช่วยส่งเสริมรสชาติของกันและกัน โดยเฉพาะเมนูที่มีข้าวโพดเป็นวัตถุดิบ เข้ากันเป็นอย่างดีกับการจิบ The Wiseman Straight Bourbon ตามไปด้วย

หรือจะเป็นการจิบ The Wiseman Straight Rye ระหว่างละเมียดกับเมนูอย่าง Smoked corned beef คอร์นบีฟรมควัน ที่เสิร์ฟพร้อมซอสแครอท และหอมทอด ที่ความเค็มอ่อน ๆ จากคอร์นบีฟ จะช่วยขับความหวานของ The Wiseman Straight Rye ออกมาจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน

แม้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Kentucky Owl จะเลือนหายไปจากผู้คนนานกว่าหนึ่งร้อยปี แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทายาทตระกูลเดดแมน และความพยายามของผู้คนจำนวนมากที่ไม่อยากให้มรดกอันเป็นตำนานที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์อเมริกาอย่างเบอร์เบิน Kentucky Owl ต้องสูญหายไปตามกาลเวลา ทำให้ในวันนี้เรามีโอกาสได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของเบอร์เบิน Kentucky Owl อีกครั้งหนึ่ง