07 ต.ค. 2567 | 19:04 น.
‘การเลิกรา’ เป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดมากที่สุดสำหรับคู่รัก เพราะเมื่อแผนต่าง ๆ ที่วางไว้ร่วมกัน พังทลายหายวับไปกับตา คู่รักที่เหลือสถานะเพียง ‘อดีต’ ไม่ใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่ ก็ต้องหาวิธีจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทั้งความเศร้า และความทุกข์ ซึ่งถือเป็นภาระทางจิตใจที่หนักหนาสาหัสเอาเรื่อง
อย่างไรก็ตาม มีอดีตคู่รักจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะมูฟออนเป็นวงกลม โดยหันกลับไปหาอดีตคู่รักของตน พูดง่าย ๆ คือ “กลับไปคบแฟนเก่าอีกครั้ง” หลังจากแยกย้ายกันไปเติบโตได้เพียงไม่กี่เดือน หรือบางคู่ก็ห่างกันไปนานหลายปี ก่อนจะกลับมาคบกันอีกครั้ง (เช่นคู่ของ ‘เจนนิเฟอร์ โลเปซ’ กับ ‘เบน แอฟเฟล็ก’ ที่เลิกรากันไปเมื่อปี 2004 ต่างคนต่างแยกย้ายไปคบคนอื่นและแต่งงานกับคนอื่นแล้ว แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็กลับมาคบกันอีกครั้งในปี 2021 แต่สุดท้ายก็เลิกกันในปี 2024)
แม้การกลับมาคบกับแฟนเก่าจะดูเป็นเรื่อง ‘ต้องห้าม’ สำหรับใครหลายคน แต่เชื่อหรือไม่ว่า การกลับไปซบอกอดีตคู่รักนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป โดยมีการประมาณการว่ามีคน 30 – 40% กลับไปหาคนรักเก่าเพื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่
คำถามก็คือ การกลับไปหาแฟนเก่าเป็นความคิดที่เข้าท่าไหม? และเราควรกลับไปคืนดีกับแฟนเก่าหรือไม่? ลองพิจารณาจากมุมมองนักจิตวิทยากัน
‘เทเรซา ไดโดเนโต’ นักจิตวิทยาสังคมและศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัย Loyola รัฐแมรีแลนด์ เผยว่า มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า คู่รักที่วนกลับมาหากันอีกครั้งก็แอบมีความกังวลอยู่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า การกลับมาสร้างตำนานรักครั้งใหม่มักมีคุณภาพที่แตกต่างจากคู่รักที่ไม่เคยเลิกรากัน
โดยคู่รักที่เคยเหินห่างเลิกรากันไปนั้น มีรายงานว่าพวกเขามีความพึงพอใจลดลง, การยอมรับลดลง, ความรักน้อยลง, ความพึงพอใจทางเพศลดลง และความต้องการบรรลุเป้าหมายน้อยลง
การกลับมากินน้ำพริกถ้วยเก่า ยังมีรายงานด้วยว่า ยิ่งคู่รักเลิกรากันบ่อยเท่าไร พวกเขายิ่งมีแนวโน้มที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ของตนเองในแง่ลบมากขึ้นเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็จะกลับมาคบกันอีกอยู่ดี แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
คนหวนกลับไปหาแฟนเก่าหรือคู่รักกันด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกัน แต่เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ ‘ความรู้สึก’ ที่ยังคงอยู่ ซึ่งสะท้อนชัดเจนว่า “แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ความรักไม่เคยหมดลง”
ส่วนเหตุผลอื่น ๆ ได้แก่
ความคุ้นเคย: ความคุ้นเคยเป็นแรงดึงดูดที่มีพลังมหาศาล และอาจเป็นเหตุผลที่ดูเหมือนจะ ‘เข้าท่า’ ในการที่คู่รักบางคู่จะกลับมาคบกันอีกครั้ง หากเทียบกับการหมดเวลาไปกับการตามหาคนใหม่ ๆ
ความเป็นเพื่อน: ความเหงาถือเป็นภาระหนักอึ้งสำหรับผู้ที่เลิกรากับคนรัก และหากความเหงานั้นไม่ยอมจางหายไปสักที การกลับมาคบกันอีกครั้งอาจช่วยบรรเทาความเหงาที่เกิดขึ้นได้ และการกลับมาคบกันอีกครั้งยังช่วยปลุก ‘ความเป็นเพื่อน’ ของคนทั้งคู่ขึ้นมาได้ ซึ่งข้อดีข้อนี้อาจมีน้ำหนักมากกว่าเหตุผลที่คู่รักเลิกรากัน
ความเข้าใจ: คนเราเมื่อเลิกรากันไปแล้ว อาจตระหนักได้ว่าอดีตคนรักของตนคือ ‘คนที่ใช่’ เมื่อเวลาที่ห่างไกลกัน อดีตคู่รักอาจมีโอกาสได้มองเห็นมุมอื่น ๆ ของกันและกันเมื่อเวลาผ่านไป บางทีอาจเป็นเพราะทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หรือมีประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้ทั้งคู่เหมาะสมกันมากขึ้น
อดีตคนรักมีดีกว่าคนใหม่: บางครั้งคนเราก็กลับมาคบกับอดีตคนรักได้เพราะพวกเขาค้นพบว่า คนใหม่ไม่น่าดึงดูดใจเท่าคนเก่า
ความเสียใจ: การเลิกราอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือค่อย ๆ เกิดขึ้น อาจจะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ก็เป็นการตัดสินใจชั่ววูบ อดีตคู่รักบางคู่กลับมาคบกันอีกครั้งเพราะพวกเขาเชื่อว่าไม่ควรเลิกกันตั้งแต่แรก และพวกเขามองว่าการเลิกรากันครั้งนี้เป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่น่าเสียดาย
เห็นแก่สิ่งดี ๆ: ไม่ใช่ว่าคู่รักทั้งสองฝ่ายจะอยากรีเทิร์นพอ ๆ กัน แต่มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า บางคู่กลับมาคบกันอีกครั้งไม่ใช่เพราะอยากจะกลับมา แต่เพราะ ‘รู้สึกผิด’ หรือ ‘ติดหนี้บุญคุณ’ อดีตคนรัก พวกเขาอาจมองว่าการกลับมาคบกันอีกครั้งเป็นหนทางหนึ่งในการจัดการกับความทุกข์ให้กับอีกฝ่ายได้
อดีตคู่รักที่กลับมาคบกันอีกครั้งอาจได้รักกันยืนยาวมั่นคง พวกเขาอาจเริ่มต้นปลูกต้นรักกันใหม่ด้วยความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม พวกเขาอาจพร้อมจะอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าครั้งก่อน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกซาบซึ้งกับการช่วยกันจุดถ่านไฟเก่าให้ปะทุอีกครั้ง ซึ่งล้วนแต่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกยกระดับไปอีกขั้น
อย่างไรก็ตาม คู่รักหลายคู่ที่กลับมาคบกันอีกครั้งมักเผชิญปัญหาเมื่อกลับมาครองคู่กัน นอกจากความรู้สึกขึ้น ๆ ลง ๆ จากการที่ต้องแยกทางกันแล้วกลับมาคบกันใหม่แล้ว หลายคนยังสังเกตว่า พวกเขาอาจคาดหวังว่า ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะแตกต่างไปจากเดิม แต่กลายเป็นว่าพวกเขาต้องพบกับความ ‘ผิดหวัง’ และ ‘เสียใจ’ เมื่อตัวเองก็ยังต้องเจอกับปัญหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ หลังจากวนกลับมาคบกันใหม่ นอกจากนี้ พวกเขาอาจสัมผัสได้ถึงความกังวลจากคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อน และอาจตั้งคำถามว่า พวกเขาสามารถไว้วางใจคู่ครองของตนได้อย่างแท้จริงหรือไม่?
โปรดจำเอาไว้ว่า เหตุผลในการเลิกราของคนเรานั้นแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น การเลิกราเพราะนิสัยหรือเป้าหมายที่ไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่แตกต่างจากการเลิกราเพราะพ่อแม่ไม่เห็นด้วย หรือการย้ายที่อยู่ที่ทำให้ความสัมพันธ์ต้องห่างไกลกัน ในทำนองเดียวกัน คนที่กลับมาคบกันอีกครั้งเพราะเหงาหรือรู้สึกแย่กับอดีตคนรัก อาจมีความสุขน้อยลงในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ เมื่อเทียบกับคนที่ได้รู้เรื่องราวใหม่ ๆ หรือมีมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับตนเองและคู่ครอง
อย่างไรก็ตาม จุดจบที่เจ็บปวดนั้นไม่ได้สามารถเยียวยาได้ด้วยการแกล้งทำเป็นลืมทุกอย่างเพื่อพยายามเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง สิ่งที่คู่รักถ่านไฟเก่าควรตกผลึกร่วมกันให้ได้ก็คือ “เหตุใดความสัมพันธ์ครั้งแรกจึงจบลง” หลังจากนั้นควรไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนว่า การกลับมาคืนดีกันอีกครั้งเกิดขึ้นจากเหตุผลที่ ‘ถูกต้อง’ หรือไม่ สุดท้ายคือ “อย่าคาดหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะออกมาเพอร์เฟ็กต์” และ “อย่านำเรื่องดรามาในอดีตมาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของพวกคุณ”
เรียบเรียง: พาฝัน ศรีเริงหล้า
อ้างอิง:
7 Reasons Exes Get Back Together
WHY “TRYING AGAIN” WITH YOUR EX DOESN’T WORK