01 พ.ย. 2565 | 12:04 น.
สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เผยแพร่ถ้อยแถลงจาก เพนนี หว่อง สมาชิกวุฒิสภาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ถึงแผนการเดินทางเยือนบรูไน และไทยในสัปดาห์นี้ ระบุ
"ในสัปดาห์นี้ดิฉันจะเดินทางเยือนประเทศบรูไนดารุสซาลามและประเทศไทยเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ประเทศออสเตรเลียและประเทศบรูไนดารุสซาลามมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรมาอย่างยาวนาน เรามุ่งทำงานร่วมกันในด้านการทหาร การค้า และความร่วมมือในระดับภูมิภาค
ดิฉันจะเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลามและเข้าประชุมกับ ดาโต๊ะ เอรีวัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบรูไนดารุสซาลามคนที่สอง และคณะรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ เพื่อหารือประเด็นความสนใจร่วมในด้านสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและความมั่นคง
ในปีนี้ประเทศออสเตรเลียเฉลิมฉลองครบครอบ 70 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย ดิฉันจะเข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยเพื่อหารือความร่วมมือเพื่อจัดการประเด็นความท้าทายในระดับภูมิภาคที่เรามีร่วมกัน ทั้งในด้านการดำเนินการเพื่อสภาพภูมิอากาศและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด
ดิฉันจะลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างออสเตรเลียและไทย (Joint Plan of Action under Australia-Thailand Strategic Partnership) กับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย
นอกจากนี้ ดิฉันและนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของไทยจะร่วมลงนามในความตกลงหุ้นส่วนฉบับใหม่เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (Centre of Excellence for Countering Trafficking in Persons)
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศออสเตรเลียและประเทศไทยมีความเชื่อมโยงในระดับบุคคลถึงบุคคลของทั้งสองชาติอย่างแน่นแฟ้น ทั้งในแวดวงธุรกิจ การศึกษาและการท่องเที่ยว
ประเทศบรูไน ประเทศไทย และประเทศออสเตรเลียยึดมั่นในหลักความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN Centrality) และจะทำงานร่วมกับนานาประเทศในภูมิภาคของเรา เพื่อฟื้นฟูให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมีความมั่นคงและมั่งคั่ง เป็นภูมิภาคที่อำนาจอธิปไตยได้รับความเคารพ"