เมื่อ โนล กัลลาเกอร์ หันมาทำเพลง Cosmic Pop “ถ้าไม่ชอบเพลงที่ผมแต่ง ไสตูดกลับบ้านไปเลยนะ”

เมื่อ โนล กัลลาเกอร์ หันมาทำเพลง Cosmic Pop “ถ้าไม่ชอบเพลงที่ผมแต่ง ไสตูดกลับบ้านไปเลยนะ”

เมื่อ โนล กัลลาเกอร์ หันมาทำเพลง Cosmic Pop “ถ้าไม่ชอบเพลงที่ผมแต่ง ไสตูดกลับบ้านไปเลยนะ”

“ผมไม่แคร์หรอกว่าคนจะรักหรือเกลียดเพลงของผม เพราะผมผ่านจุดพีคมาแล้วว่ะพวก” นี่คือคำพูดของ โนล กัลลาเกอร์ (Noel Gallagher) ร็อคสตาร์วัย 52 ปี อดีตมือกีตาร์และนักแต่งเพลงวง Oasis วง Britpop ระดับตำนาน เจ้าของเพลงร็อคที่ครองใจคนฟังมาอย่างยาวนานร่วม 20 ปี (และ 25 ปีสำหรับเพลงจากอัลบั้มแรกสุดอย่าง Definitely Maybe) ไม่ว่าจะเป็น ‘Live Forever’, ‘Don’t Look Back In Anger’, ‘Wonderwall’ หรือ ‘Champagne Supernova’ ซึ่งเรียกได้ว่าเกิดขึ้นมาจากมันสมองและจินตนาการของผู้ชายคนนี้ล้วน ๆ หากย้อนกลับไปถามแฟนเพลงที่คลั่งไคล้ Oasis มาตั้งแต่ยุครุ่งเรือง ก็คงไม่มีใครจินตนาการว่าวันหนึ่งนักแต่งเพลงปากร้ายคนนี้จะหันหลังให้แนวดนตรี Britpop สุดที่รัก โนลเป็นนักดนตรีคนสุดท้ายที่เข้ามาในวง Oasis ที่ก่อตั้งโดย เลียม กัลลาเกอร์ น้องชายร่วมสายเลือดที่จับจองตำแหน่งนักร้องนำ และชักชวนให้โนลมาเป็นผู้จัดการวง แต่ตอนนั้นโนลตอบกลับไปว่า “ช่างหัวผู้จัดการวง กูจะเป็นมือกีตาร์ และจะเขียนเพลงให้มึงร้องด้วย” วงดนตรีร็อคสุดห่ามตัวจี๊ดแห่งยุค 90s จึงเกิดขึ้นนับจากนั้น ก่อนที่จะวงแตกไปในปี 2009 ด้วยเรื่องราวความแตกร้าวในครอบครัวระหว่างโนลกับเลียม โดยที่โนลเป็นฝ่ายแยกตัวออกมาตั้งวงใหม่ภายใต้ชื่อว่า Noel Gallagher’s High Flying Bird ปล่อยให้น้องชายกับสมาชิกที่เหลือทำเพลงต่อไปในในนามวง Beady Eye ที่ภายหลังก็วงแตกแยกย้ายกันไป แต่แล้ว Who Built The Moon? อัลบั้มของป๋าโนลเมื่อปี 2017 ก็ทำให้แฟน ๆ เซอร์ไพรส์ไปตาม ๆ กัน เพราะผลงานจากปลายปากกาของป๋าแกในครั้งนั้นคือส่วนผสมของดนตรีแนว Acid House และ Cosmic Pop โดยแทบไม่เหลือเค้าความเป็น Oasis อย่างที่แฟนเพลงบางส่วนอยากฟัง และตอกย้ำการเปลี่ยนแนวด้วย EP อย่าง Black Star Dancing และ This Is The Place ในปี 2019 ที่นอกจากเพลง ‘Rattling Rose’ แล้วก็แทบจะไม่มีเพลงไหนผสมด้วยกลิ่นอายความเป็นร็อคแอนด์โรลล์อีกเลย จนอดีตแฟนคลับบางคนถึงกับบ่นอุบผ่านคอมเมนต์ YouTube ว่า “เราสูญเสีย โนล กัลลาเกอร์ คนเดิมไปแล้วว่ะ” ส่วนป๋าโนลเมื่อได้ยินว่ามีคนไม่ชอบเพลงในอัลบั้มใหม่ของแกเข้า ด้วยดีกรีนักดนตรีปากกล้า ก็คงจะไม่มีคำไหนให้อดีตแฟนเหล่านั้นมากไปกว่าการด่าออกไปว่า “พวกเห_ย เอ๊ยยย!” ก่อนอธิบายว่า “เพลงพวกนี้ผมตั้งใจทำมากนะโว้ย มันเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจมากกว่าเพลงที่ทำในสตูดิโอซะอีก เพราะผมนั่งเขียนที่บ้าน ตอนที่ผมเข้าห้องอัด ถ้ามีคนมาบอกว่าไม่ชอบเพลงที่ผมแต่ง ผมก็จะบอกมันว่า อ๋อเหรอ เก็บกระเป๋าของมึงแล้วไสตูดกลับบ้านไปเลยนะ แบบนั้นแหละ” เป็นอันรู้ว่าแม้เวลาจะทำให้โนลเปลี่ยนแนวเพลงได้ แต่ความปากหาเรื่องและหยาบคายชวนขำขันอันเป็นเอกลักษณ์ก็ยังคงติดตัวร็อคสตาร์ที่ล่วงเข้าวัยกลางคนผู้นี้อยู่นั่นเอง แม้จะปากเสียสักแค่ไหน แต่โนลก็ไม่ใช่ไม่เข้าใจแฟน ๆ ที่ยังยึดติดกับความเป็น Oasis เสียทีเดียว เพราะเขาเคยเผยความในใจว่า “ผมอาจไม่มีวันแต่งเพลงได้เข้าถึงใจคนฟังอย่าง ‘Don’t Look Back in Anger’ อีก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมยอมแพ้ เพราะผมยังเชื่อว่ามันยังมีเพลงดี ๆ ที่ยังไม่ถูกแต่งเหลืออยู่” ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแนวเพลงนั้น โนลก็บอกอีกว่า “คนฟังไม่มีทางรู้หรอกว่าพวกเขาอยากฟังเพลงอะไร หน้าที่ของเราคือทำเพลงที่พวกเขาไม่รู้ตัวว่าพวกเขาจะชอบหรืออยากฟังมัน แต่ถ้าพวกเขาไม่ชอบ ก็ไม่ได้แปลว่าหน้าที่การงานของคุณจบเห่สักหน่อย ตอนที่คนพูดถึง Oasis พวกเขาหลุดประเด็นว่ะ มันไม่ใช่การตะโกนและทำตัวกร่างข้างถนนหรอกที่ทำให้เพลงของเราดัง แต่เป็นเพราะเพลงพวกนั้นทำให้พวกเขารู้สึกถึงบางอย่างต่างหาก” พูดถึงน้องชายจอมกวนประสาทอย่างเลียมที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปี โนลก็ยังคงทำตัวเป็นพี่ชายใจร้ายได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากป๋าโนลจะไม่ฟังเพลงใด ๆ ที่เลียมร้องนอกจากจะได้ยินผ่านวิทยุแล้ว เขายังไม่ดู As It Was ภาพยนตร์ชีวประวัติของ เลียม กัลลาเกอร์ หลังวงแตกเสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลที่ว่า “As It Was อะนะ แม่งหนังโปรโมทตัวเองของไอ้เลียมชัด ๆ” ทั้งยังเกทับน้องชายว่า “ถ้าผมให้ลูกชายของผมขลุกอยู่ในห้อง คนนึงเก้าขวบ อีกคนสิบเอ็ด พวกเขาจะแต่งเพลงได้เยี่ยมกว่าซิงเกิลใหม่ของไอ้เลียมซะด้วยซ้ำ” แม้โนลจะเป็นพี่ชายใจร้ายคอยปิดประตูความหวังของแฟน ๆ ที่รอให้ Oasis กลับมารวมวงอีกครั้ง แต่เมื่อนึกถึงวีรกรรมสุดแสบที่เลียมทำไว้กับพี่แต่ละอย่าง ก็ทำให้เราพอจะเข้าใจได้ว่าทำไมโนลถึงอยากให้ Oasis เป็นเพียงแค่ความทรงจำและเป็นจุดสูงสุดของชีวิตทางดนตรีของเขาอยู่เสมอ ถ้า Oasis กลับมา เราคงไม่ยิ่งใหญ่เท่าเมื่อก่อน เพราะฉะนั้นผมภูมิใจแล้วว่ะที่เราเคยไปถึงจุดนั้น”   ที่มา http://www.esquire.co.th/interview/Noel-Gallagher-Part-II/444 https://www.theguardian.com/music/2019/aug/05/noel-gallagher-i-liked-my-mum-until-she-gave-birth-to-liam?CMP=aff_1432&utm_content=The+Independent&awc=5795_1574927266_80b5f4b04478596622c2bbc257d5e1fe https://www.nme.com/reviews/noel-gallagher-high-flying-birds-this-is-the-place-ep-2551082 https://www.independent.ie/entertainment/music/im-going-straight-to-rehab-this-is-too-much-for-me-noel-gallagher-on-partying-at-bonos-his-childhood-fatherhood-and-the-secrets-of-writing-a-classic-36333803.html   เรื่อง : จิรภิญญา สมเทพ