เดวิด โรเจียร์ ปั้น MasterClass รวมคนดังระดับโลกมาสอนออนไลน์
อยากทำอาหาร? ลองดูเชฟมิชลิน กอร์ดอน แรมซีย์ มาถ่ายทอดเคล็ดลับจานเด็ด
อยากเขียนหนังสือ? งั้นให้ แดน บราวน์ เจ้าของผลงาน The Da Vinci Code มาแนะนำดีไหม
อยากรู้ภาพรวมเศรษฐกิจ? ไหนลองฟัง พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลหน่อยเป็นไง
อยากเรียนทักษะการแสดง? เฮเลน เมียร์เรน, ซามูเอล แอล. แจ็กสัน และ นาตาลี พอร์ตแมน สามนักแสดงดังกำลังรออยู่
อยากเปลี่ยนไปสายกีฬา? โอเค...เซเรนา วิลเลียมส์ อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลก พร้อมเสมอ
เมื่อการทำงานที่บ้านกลายเป็นนิวนอร์มัลในยุคโควิด-19 หลายคนจึงมองหาคลาสเรียนออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มเติมความรู้และทักษะต่าง ๆ แล้วอะไรจะดีไปกว่าการได้เรียนกับบรรดาคนดังระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์และเคล็ดลับให้ดูกันถึงที่ MasterClass คลาสเรียนออนไลน์แห่งเดียวที่รวบรวมตัวท็อปเกือบทุกวงการมาไว้ด้วยกัน จึงกลายเป็นคำตอบ
แต่กว่าจะได้รับความนิยมจากคนดู และได้รับความไว้วางใจจากเหล่าคนดังทั้งหลายที่มาสอน เดวิด โรเจียร์ (David Rogier) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ MasterClass ก็ต้องเผชิญกับคำเยาะเย้ยถางถางมาไม่น้อยเหมือนกันว่า คลาสออนไลน์แบบนี้จะไปรอดหรือไม่
“ผมรักการเรียนรู้” โรเจียร์บอก “แต่ตั้งแต่เรียนเกรด 1 ผมก็มีปัญหาในชั้นเรียนซะแล้ว เพราะผมมักจะชอบสงสัยในสิ่งที่ครูพูดเสมอ” แม้โรเจียร์จะชอบเรียนรู้มากแค่ไหน แต่การเป็นคนพูดตะกุกตะกักก็สร้างปัญหาให้เขาในโรงเรียนอยู่ไม่น้อย และเมื่อกลับบ้าน เขาก็มักจะเล่าปัญหาที่เจอที่โรงเรียนให้ย่าของเขาฟังเสมอ วันหนึ่งเมื่อโรเจียร์เล่าปัญหาวิชาคณิตศาสตร์ให้ย่าฟัง สิ่งที่ย่าทำคือการเล่าเรื่องสมัยยังสาวให้เขาฟังแทน
เธอเล่าว่า ตอนอายุ 16 ปี สมัยยังใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองคราเคาในโปแลนด์ เธอและแม่ไปพักผ่อนวันหยุด ส่วนพ่อไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องทำงาน แต่ระหว่างที่พวกเธอไม่อยู่ กองทัพนาซีบุกยึดเมืองและฆ่าชาวเมืองตายเป็นเบือ ไม่เว้นแม้แต่พ่อของเธอ เธอจึงหลบหนีเอาตัวรอดมายังนิวยอร์ก ซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้งานทำในโรงงานแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเธอฝันอยากเป็นหมอ จึงสมัครเข้าเรียนโรงเรียนแพทย์
“คุณย่าของผมสมัครไป 50 แห่ง แต่ทุกแห่งปฏิเสธหมด ปีถัดมาเธอสมัครเข้าเรียนอีกครั้ง แต่ก็ถูกทุกแห่งปฏิเสธเหมือนเดิม ในที่สุดคุณย่าก็โทรไปถามคณบดีแต่ละแห่งว่าทำไมถึงไม่รับเธอเข้าเรียน ทุกคนวางสายไม่ยอมคุย เว้นคนหนึ่งที่ตอบว่า ‘เพราะเธอเป็นผู้หญิง เธอเป็นชาวต่าวชาติ และเธอเป็นยิว’ จากนั้นเขาก็วางสายไป ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรมาหยุดความใฝ่รู้ของคุณย่า เพราะท้ายสุดเธอก็สอบเข้าโรงเรียนแพทย์ได้อย่างที่ตั้งใจ จบออกมาเป็นหมอ และเป็นหมอที่ประสบความสำเร็จ
“ตอนที่คุณย่าเล่าเรื่องนี้ ผมเรียนอยู่เกรด 2 เห็นจะได้ เธอตบท้ายว่า ‘เดวิด การศึกษาคือสิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่มีใครเอาไปจากหลานได้’ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมจำไม่มีวันลืมมาถึงทุกวันนี้”
โรเจอร์รักการเรียนรู้มาก เขามีความใฝ่ฝันว่า วันหนึ่งจะต้องสร้างโรงเรียนที่ให้ทุกคนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงและเรียนรู้จากคนเก่งที่สุดในสาขานั้น ๆ ให้ได้ เขาเก็บความคิดนี้ไว้ตลอดมา กระทั่งจบ MBA จาก Stanford Graduate School of Business ซึ่งเป็นที่ที่เขาพบกับ ไมเคิล เดียริง คนที่เขาทำงานด้วยหลังเรียนจบ และเป็นนักลงทุนรายแรกของ MasterClass
จะทำอย่างไรให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงการเรียนได้หมด? คือสิ่งที่โรเจียร์คิดมาตลอด กระทั่งมาตกผลึกในปี 2014 เมื่อเขาพบกับ แอรอน ราสมุสเซน (Aaron Rasmussen) นักธุรกิจและนักประดิษฐ์ที่คิดคล้าย ๆ กัน จนเกิดเป็น MasterClass แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ก่อตั้งด้วยแนวคิดที่ว่า “เรียนรู้จากคนที่เก่งที่สุด” แต่กว่าจะเปิดตัวได้ก็ปี 2015
“ความกลัวของผมตอนนั้นคือ การพยายามโน้มน้าวให้คนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในสาขาต่าง ๆ ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำมาก่อน มันเหมือนภารกิจปีนเขาเลยล่ะ อีกอย่าง ช่วงเริ่มต้นเราต้องเจอกับคำถากถางมากมาย อย่าง ‘พวกตัวท็อปเขาไม่มาสอนหรอก เพราะถ้าไม่เวิร์กขึ้นมาแล้วจะไม่มีใครดู’”
ทั้งคู่จึงต้องหาข้อมูลอย่างหนักว่าควรจะให้ใครมาเป็นผู้สอนคนแรก และจะสร้างคลาสเรียนที่ดีได้อย่างไร โรเจียร์โทรศัพท์หาคนดังแต่ละสาขา โดยที่ปลายสายไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อโรเจียร์มาก่อนด้วยซ้ำ รายแล้วรายเล่าที่ปฏิเสธพวกเขา แต่เมื่อคิดการใหญ่ ใจต้องนิ่ง โรเจียร์และราสมุสเซนเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ท้อ ควบคู่กับการทดลองถ่ายทำคลาสการสอนว่าควรจะออกมาแบบไหน โดยใช้ครอบครัวของพวกเขาเป็นตัวแสดง “มันทั้งเครียด ทั้งตื่นเต้น และเมื่อเราได้ผู้สอนคนแรกมา มันก็คุ้มค่ากับการรอคอย” โรเจียร์บอก
หนึ่งในคนดังที่โรเจียร์ติดต่อคือ เจมส์ แพตเตอร์สัน นักเขียนชาวอเมริกัน ที่ตอนแรกเขาคิดว่าแพตเตอร์สันคงไม่สนใจ แต่แล้ววันหนึ่ง แพตเตอร์สันก็โทรศัพท์กลับมาและบอกว่าสนใจไอเดีย MasterClass “ผมช็อกไปเลย ผมคิดว่าผมตอบไปว่า ‘เดี๋ยวนะ นี่ใช่เจมส์ แพตเตอร์สัน นักเขียนคนนั้นจริงๆ ใช่มั้ย’”
จากช่วงแรกที่มีผู้สอนไม่กี่คน ตอนนี้ MasterClass รวบรวมตัวท็อประดับโลกหลากหลายวงการมาได้แล้วราว 80 คน ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน สกอร์เซซี และ โจดี ฟอสเตอร์ มาสอนการทำภาพยนตร์ รอน โฮเวิร์ด สอนการกำกับภาพยนตร์ คาร์ลอส ซานตานา สอนศิลปะและวิญญาณแห่งกีตาร์ คริสตินา อากีเลร่า สอนร้องเพลง บ็อบ ไอเกอร์ ผู้บริหารค่ายดิสนีย์มาสอนกลยุทธ์ธุรกิจและความเป็นผู้นำ ซีโมน ไบล์ส สอนหลักการยิมนาสติก รอน ฟินลีย์ สอนการปลูกผัก เป็นต้น มีช่วงหนึ่งที่ MasterClass ได้ เควิน สเปซีย์ และ ดัสติน ฮอฟฟ์แมน สองนักแสดงดังแห่งฮอลลีวูดมาเป็นผู้สอนด้านการแสดง แต่เมื่อทั้งคู่เผชิญข่าวฉาวเรื่องการคุกคามทางเพศ ท้ายสุด MasterClass จึงตัดสินใจถอดคลาสของทั้งสองออกไป
ผู้สอนแต่ละคนจะออกแบบคลาสของตัวเอง งานของโรเจียร์ ราสมุสเซน และทีมงาน คือการช่วยเหลือผู้สอนด้วยการแทนตัวเองเป็นผู้เรียน หาข้อมูลว่าการสอนและบทเรียนแบบไหนที่จะดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้ตลอดรอดฝั่ง
“หลังจากหาข้อมูลแล้ว เราก็จะบอกผู้สอนว่า ‘นี่คือสิ่งที่โลกต้องการเรียนรู้จากคุณ’ แล้วเราก็จะให้ผู้สอนบอกเราว่า ‘นี่คือสิ่งที่ฉันเรียนรู้มา หรืออยากให้ผู้คนได้รู้’ จากนั้นเราก็ผสานสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน” โรเจียร์อธิบาย และเพื่อไม่ให้ผู้เรียนเบื่อหน่ายเกินไป การสอนแต่ละคลาสจะมีบทเรียนเฉลี่ย 20 บท และแต่ละบทจะมีความยาวเฉลี่ย 10 นาที ส่วนระยะเวลาในการพัฒนาแต่ละคลาสอยู่ที่ 4-6 เดือน และส่วนที่เป็นการถ่ายทำใช้เวลา 2-4 วัน
ช่วงแรก MasterClass ระดมทุนตั้งต้นมาได้ราว 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และระดมทุนได้เยอะขึ้นตามความนิยมที่เพิ่มขึ้น ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่า MasterClass ต้องการระดมทุนให้ได้อย่างน้อย 100 ล้านเหรียญ ซึ่งหากทำได้ มูลค่าบริษัทแม่ของ MasterClass (Yanka Industries Inc.) จะพุ่งไปถึงราว 800 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
ครั้งหนึ่ง โรเจียร์บอกว่าการได้ทำ MasterClass เป็นเหมือนอาชีพในฝันของเขา เพราะไม่เพียงเป็นตัวกลางในการส่งมอบความรู้ต่าง ๆ ในแง่ธุรกิจ MasterClass ก็ไปได้ดีเกินกว่าที่เคยคาดไว้ เป้าหมายต่อจากนี้ของเขาคือการเพิ่มผู้สอนให้มากขึ้นในคลาส ซึ่งคนที่เขาหมายมั่นปั้นมืออยากเชิญมาร่วมงานกันมีเช่น เจ. เค. โรว์ลิง นักเขียนเจ้าของผลงาน Harry Potter อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีใจบุญ รวมถึง มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ
“เมื่อผมเชื่อในสิ่งที่คนอื่นไม่เชื่อ นั่นคือโอกาส” โรเจียร์ทิ้งท้ายถึงสิ่งที่ทำให้เขาปั้น MasterClass ได้สำเร็จ
ที่มา
https://www.7x7.com/q-a-with-aaron-rasmussen-david-rogier-founders-of-masterclass-1843657658.html
https://news.elearninginside.com/with-outlier-masterclass-co-founder-aaron-rasmussen-brings-studio-production-to-undergrad-online-courses/
https://www.bloombergquint.com/business/masterclass-is-said-to-seek-funding-at-about-800-million-value
https://www.forbes.com/sites/jerylbrunner/2017/12/22/masterclass-ceo-david-rogier-on-the-extreme-power-of-curiosity/#401cde70574d
https://medium.com/swlh/when-you-stop-learning-youre-dead-7976d324b6b7