17 ต.ค. 2565 | 12:21 น.
การประชุมฯ ที่อาคารมหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง มีหลายประเด็นที่น่าจับตาซึ่งก่อนหน้านี้มีสื่อรายงานมาบ้างแล้วเกี่ยวกับวาระต่าง ๆ โดยเฉพาะ 4 เรื่องสำคัญ ก็คือ คนที่จะนั่งเป็นประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3, นโยบายเศรษฐกิจของจีน, การผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และประเด็นอ่อนไหวระหว่างจีน-ไต้หวัน ซึ่งจะเป็นวาระของประเทศในระยะ 5 ปีข้างหน้า
เน้นร่วมมือกับรัสเซีย-ปกป้องศักดิ์ศรี
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดเปิดการประชุมด้วยความยาว 2 ชั่วโมง โดยประเด็นแรกเขาได้พูดถึง ‘นโยบายต่างประเทศ’ โดยประธานาธิบดีสี พูดว่า “อิทธิพลระหว่างประเทศของจีน, การร้องเรียน และพลังในการสร้างโลกที่เพิ่มขึ้น คือสิ่งสำคัญสำหรับนโยบายของจีน”
“เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิทัศน์ระหว่างประเทศ เรายังคงเลือกที่จะแก้ปัญหาในเชิงกลยุทธ์ที่แน่วแน่ และตั้งใจแสดงเจตนารมณ์ในการต่อสู้ และความพยายามของเรา เราพยายามปกป้องศักดิ์ศรีและผลประโยชน์ของประเทศ พยายามทำให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการพัฒนาและเรื่องความปลอดภัย”
“เราจะยืนหยัดและมั่นคงในชาติตะวันออก ในการประชุมฯ เมื่อปี 2017 จีนเป็นชาติที่ดำเนินนโยบายด้วยกลยุทธ์ซ่อน-รอจังหวะ (hide and bide) ของอดีตผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง” ดังนั้นจีนเลือกที่จะให้ความร่วมมือกับรัสเซีย เพื่อต่อต้านท่าทีที่แข็งกร้าวของไต้หวัน และทะเลจีนใต้ ซึ่งยังเป็นประเด็นกับชาติตะวันตก
ในกรณีของไต้หวัน ประธานาธิบดีสี พูดว่า “เรายังคงมุ่งมั่นเพื่อการรวมชาติอย่างสันติด้วยความจริงใจและความพยายามอย่างสูงสุด แต่เราจะไม่สัญญาว่าจะเลิกใช้กำลัง เพียงแต่เราจะใช้มาตรการทั้งหมดเท่าที่จำเป็น”
ส่วนกรณีของฮ่องกง เขายืนยันว่า “ฮ่องกงจะถูกปกครองโดยผู้รักชาติ ระเบียบจะได้รับการฟื้นฟูในฮ่องกงซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับสิ่งที่ดีกว่าในภูมิภาคนี้”
สำหรับในแง่ของ ‘การพัฒนาประเทศ’ ประธานาธิบดีสี พูดว่า “จีนเลือกความทันสมัย ซึ่งเป็นการเสนอทางเลือกใหม่ให้กับมนุษยชาติในการบรรลุความทันสมัย” ซึ่งในบริบทนี้เขาพยายามแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาของจีน การพัฒนาอย่างมีเอกลักษณ์ของจีน ซึ่งไม่ปฏิบัติตามแนวทางแบบตะวันตกที่มีพื้นฐานมาจากระบบทุนนิยม
“โมเดลของจีนมีความสงบสุขและขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำของพรรค ซึ่งจะตระหนักถึงการเติบโตอย่างมีคุณภาพสูง และเพื่อบรรลุความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”
ความเจริญร่วมกับต้องได้รับการปรับปรุง
“เราจะผลักดันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงให้กับจีน ปรับปรุงระบบการกระจายรายได้ เราจะรับประกันการจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับงานที่มากขึ้น และสนับสนุนผู้คนให้ประสบความสำเร็จผ่านการทำงานหนัก”
ประธานาธิบดีสี ยังพูดถึง ‘ความเท่าเทียม’ ว่าจะส่งเสริมความเท่าเทียมในเรื่องของโอกาส เพิ่มรายได้ของผู้มีรายได้น้อย และขยายกลุ่มคนรายได้ปานกลางในจีนให้มากขึ้น ทั้งยังพูดถึงวิธีการสะสมความมั่งคั่งที่มีการควบคุมอย่างดีจากรัฐบาลจีนด้วย”
นโยบายโควิดเป็นศูนย์
ประธานาธิบดีสี พูดถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ว่า “การตอบสนองต่อโควิด-19 อย่างกระทันหันกระทบหลายอย่าง ซึ่งเราให้ความสำคัญกับผู้คนและชีวิตของพวกเขาเหนือสิ่งอื่นใด ดังนั้น นโยบาย Zero Covid จึงเป็นเรื่องจำเป็น เราพยายามปรับเปลี่ยนแนวทางแบบไดนามิกมีความยืดหยุ่นได้”
“นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ถือเป็นสงครามของประชาชนที่ต้องระงับการแพร่ระบาดให้ได้ ซึ่งนโยบายนี้ได้ช่วยชีวิตผู้คนมากมาย แต่ก็ส่งผลร้ายต่อประชาชนและเศรษฐกิจจีนเช่นกัน”
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีการประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างหนัก ซึ่งประธานาธิบดีสี ได้พูดถึงประเด็นในสังคมตอนนี้ว่า “เรายังเชื่อในกลยุทธ์การไม่อดทนอดกลั้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ดังนั้น แม้ว่าการยอมรับของสาธารณชนต่อเรื่องนี้ดูเหมือนจะแตกสลายแต่เรายังยืนยันจะเดินหน้าต่อไป”
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้เราจะได้ทราบว่าใครนั่งเป็นประธานาธิบดีแห่งชาติจีน ซึ่งก้ไม่น่าจะผิดคาดอะไรจากที่วิเคราะห์กันมา แต่ที่ต้องติดตามอีกหนึ่งประเด็นคือ ใครที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ‘หลี่ เค่อเฉียง’ ซึ่งจะหมดวาระอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมปี 2023
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง:
https://www.reuters.com/world/china/chinas-xi-open-20th-communist-party-congress-2022-10-15/
https://www.theguardian.com/world/2022/oct/16/xi-jinping-speech-opens-china-communist-party-congress