แอมเบอร์ มิดธันเดอร์: นักแสดงอเมริกันเชื้อสายไทย-จีน โตแบบเนทีฟอเมริกัน

• 'แอมเบอร์ มิดธันเดอร์' นักแสดงเชื้อสายเนทีฟอเมริกันครึ่งไทย-จีน จากภาพยนตร์เรื่อง Prey ถือเป็นนักแสดงหญิงคนแรก ๆ ที่ได้สวมบทบาทเป็นชาวอเมริกันพื้นเมืองที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง
• พ่อของเธอเลี้ยงดูเธอแบบ 'วิถีจิตวิญญาณแบบลาโกต้าแบบดั้งเดิม' ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญให้เธอมีความรักในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
• แอมเบอร์กดดันกับบทบาทตัวละครหลักอย่าง 'นารู' จากภาพยนตร์ที่เรื่อง 'Prey' มาก เพราะเธอต้องการจะเก็บทุกรายละเอียดการอยู่อาศัยของชนเผ่าโคแมนชีให้สมจริงที่สุด

ตัวละครหญิงสุดแกร่งนามว่า ‘นารู’ (Naru) บุคคลที่มาประชันกับยอดนักล่าต่างดาวอย่าง ‘พรีเดเตอร์’ (Predator) จากภาพยนตร์เรื่อง Prey ที่ออกฉายในปี 2022 นับเป็นก้าวใหม่ที่น่าสนใจของความหลากหลายในวงการภาพยนตร์ เพราะเป็นการเล่าเรื่องที่ตีแผ่วิถีชีวิตของชนพื้นเมืองอเมริกันเป็นแกนหลัก

แต่ความสนใจของมันไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เพราะนักแสดงในบทบาทหญิงสาวที่มางัดข้อกับพรีเดเตอร์ในเรื่อง ‘แอมเบอร์ มิดธันเดอร์’ (Amber Midthunder) ในบทบาทนารู ก็มีเรื่องราวความเป็นมาของชีวิตที่น่าสนใจไม่แพ้กับภาพยนตร์ภาคพรีเควลของเอเลียนยอดนักล่าเลยแม้แต่น้อย 

เพราะเธอนั้นเป็นนักแสดงสาวชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายไทย-จีนจากฝั่งแม่ แถมยังเป็นลูกหลานและคนที่เติบโตมากับเผ่าชนพื้นเมืองอเมริกันอีกด้วย จึงไม่แปลกที่เธอจะแสดงเป็นหญิงสาวจากชนเผ่าโคแมนชี (Comanche) ในยุคต้นศตวรรษที่ 18 ได้อย่างสมบทบาท และเธอก็เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนการมีพื้นที่และตัวแทนของคนพื้นเมืองอเมริกันในสื่อและความตระหนักรู้ของผู้คน

เติบโตแบบวิถีดั้งเดิม

ไม่เพียงแต่ตัวเธอเองเท่านั้นที่ก้าวเท้าเดินในเส้นทางสายการแสดง เพราะพ่อของเธอเองที่มีนามว่า ‘เดวิด มิดธันเดอร์’ (David Midthunder) จากซีรีส์ West World ซึ่งเธอเองก็มีเชื้อสายอเมริกันพื้นเมืองมาจากพ่อของเธอ แถมยังได้อีกส่วนซึ่งเป็นไทย-จีนจากฝั่งแม่ของเธอ เรียกได้ว่าครอบครัวของเธอเต็มไปด้วยความหลากหลายอย่างมาก

แม้จะอาศัยอยู่ ณ ซานตาเฟ่ รัฐนิวเม็กซิโก แต่แอมเบอร์ก็เติบโตมาในวิถีอเมริกันพื้นเมืองแบบ ‘ดั้งเดิม’ (Traditional) พร้อม ๆ กับพ่อและแม่ของเธอ ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเผ่าอเมริกันพื้นเมืองนามว่า ‘Fort Peck Assiniboine & Sioux Tribes’ ที่ตั้งอยู่ในรัฐมอนแทนา นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอเมริกันขณะที่เติบโตมา จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมเธอจึงสามารถแสดงในบทบาทคนพื้นเมืองในภาพยนตร์หลายเรื่องได้เหมาะสมเป็นอย่างมาก

เดวิดเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเลี้ยงลูก ๆ โดยการปลูกฝังวิธีคิดแบบ ‘วิถีจิตวิญญาณแบบลาโกต้าแบบดั้งเดิม’ (Traditional Lakota Spirituality) ที่เชื่อว่าธรรมชาติที่อยู่รอบกายของเราล้วนมีจิตวิญญาณ ซึ่งทำให้แอมเบอร์เติบโตมาเป็นคนที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและธรรมชาต

“พวกเราไม่สมควรที่จะเป็นสปีชีส์แห่งความโลภ ผลกระทบที่มาจากการตัดสินใจของเรานั้นเกิดขึ้นจริงและมาถึงเร็วกว่าที่เราคิดมาก เรามีโลกเพียงใบเดียว ผืนแผ่นดินเดียวเท่านั้น และมันเป็นบ้านของ ‘ทุกคน’ ตลอดไป…เราไม่เหลือเวลามากแล้ว เราต้องดีกว่านี้ให้ได้”

หากได้ลองไปดูในอินสตาแกรมของเธอ เราจะเห็นได้ว่าเธอมักจะลงสตอรี่เกี่ยวกับการสนับสนุนการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและพยายามเชิญชวนทุกคนให้ตระหนักรู้และเริ่มเห็นความสำคัญของการดูแลโลกแบบเธอ

 

สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก

ธรรมชาติรอบกายเป็นสิ่งที่เธอสนใจแบบไม่ละเลิก เพื่อนมนุษย์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เธอไม่ละทิ้งเช่นเดียวกัน บนอินสตาแกรมของเธอ นอกจากที่มักจะแชร์ข่าวไฟป่าและสนับสนุนของใช้ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว แอมเบอร์ก็ยังสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กอย่างจริงจัง เพราะเธออยากรณรงค์ให้ผู้คนบริโภคสินค้ากันอย่างมีสติ (Concious Consumption) 

เธอมักจะลงแนะนำร้านค้าต่าง ๆ ที่เธอได้เคยไปซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร เครื่องประดับ หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอาง อาจจะต่างกับดาราคนอื่น ๆ ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์เบอร์ใหญ่ระดับโลก เพราะแบรนด์ที่แอมเบอร์แนะนำทั้งหมดจะเป็นแบรนด์จากร้านเล็ก ๆ ที่เธอชอบทั้งนั้น 

การทำแบบนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยโปรโมตธุรกิจขนาดเล็กให้มีช่องทางในการเติบโตแล้ว มันยังเป็นการสนับสนุนให้คนสามารถบริโภคสินค้าที่สมกับราคา กล่าวคือ ไม่ต้องแพงเราก็สามารถได้สิ่งที่เราต้องการมาครองได้ ซึ่งตรงกับหลักการบริโภคอย่างมีสติที่เธอเชื่อ ซึ่งวิถีแบบนี้ก็สอดคล้องไปกับแรงปณิธานที่อยากจะดูแลรักษาธรรมชาติของเธอด้วย 

 

จากพื้นเมืองสู่พรมแดง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในวงการภาพยนตร์ ชาวเนทีฟอเมริกัน หากเทียบกับสัดส่วนของเชื้อชาติอื่น ๆ มีพื้นที่น้อยกว่ามาก น้อยเรื่องนักที่เราจะเห็นตัวละครเอกเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน หรือรับบทบาทโดยเนทีฟอเมริกัน แต่การแสดงในบทบาทนารู จากภาพยนตร์ในชุดพรีเดเตอร์เรื่องใหม่ล่าสุดอย่าง Prey ของแอมเบอร์​ มิดธันเดอร์ นับเป็นหมุดหมายสำคัญของความก้าวหน้าและความหลากหลายของวงการฮอลลีวูดที่มีพื้นที่ที่เล่าเรื่องชาวเนทีฟอเมริกันได้อย่างเต็มที่ 

“ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะมันเป็นโอกาสอันดีที่จะเล่าเรื่องของคนพื้นเมืองในภาพยนตร์ย้อนยุค มันเป็นการตีแผ่ให้ผู้คนได้รู้กันว่าเมื่อก่อนนี้เราเป็นอยู่กันอย่างไร”

ถ้อยคำของแอมเบอร์ที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องใหม่ เรียกได้ว่านอกจากพรีเดเตอร์ยอดเอเลียนนักล่าที่เป็นความน่าสนใจหลักที่จูงคนมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว โบนัสพิเศษที่อิ่มคุ้มสำหรับใครหลายคนที่จะได้กลับบ้านไปคือการได้เห็นวิถีชีวิตที่สมจริงของชนพื้นเมืองโคแมนชีจริง ๆ

แอมเบอร์ยังเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การเล่นเป็นนารูในครั้งนี้เป็นบทที่สำคัญต่อเธอมาก เนื่องจากมันเป็นบทบาทที่มีความ ‘ส่วนตัว’ ต่อเธอ เพราะการได้นำเสนอวิถีชีวิตแบบอเมริกันพื้นเมืองเป็นเรื่องหนึ่งที่เธอขับเคลื่อนมาตลอด พอได้มีโอกาสได้มีพื้นที่มานำเสนอผ่านภาพยนตร์ เธอจึงมองว่าเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะได้ลงมือทำอย่างสุดความสามารถ 

นอกจากนั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เธอตื่นเต้นที่จะรับบทนี้ก็คือการได้มีโอกาสนำเสนอวิถีชีวิตของชาวโคแมนชีในสมัยก่อนให้สมจริงที่สุด นี่จึงเป็นเรื่องท้าทาย เธอยังเล่าอีกว่าตอนที่เธอได้ฉายหนังเรื่องนี้ให้ลูกหลานของชาวโคแมนชีดูเป็นครั้งแรก บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดัน เพราะเธอกลัวว่าจะมีรายละเอียดที่ผิดพลาดไป แต่ท้ายที่สุดมันก็ออกมาได้อย่างราบรื่น เพราะทุกคนแฮปปี้กับสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่อง Prey นำเสนอไม่ว่าจะในแง่ความบันเทิงหรือความถูกต้องสมจริง

เราจะเห็นได้ว่านอกจากพรีเดเตอร์เวอร์ชันใหม่ ดีไซน์ใหม่ และอาวุธใหม่นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจ แต่หากมองลึกลงไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็กลับกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่เปิดพื้นที่และโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้กว้างขึ้น

แถมเรายังได้มองลึกไปถึงเรื่องราวชีวิตของนางเอกอย่าง ‘แอมเบอร์ มิดธันเดอร์’ อีกด้วยว่าเรื่องราวนอกจอของเธอนั้นพิเศษไม่ต่างจากบทบาทในจอเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงแค่ความสามารถในการแสดงเท่านั้น แต่เป็นทัศนคติและแนวคิดของเธอที่มีต่อโลกซึ่งถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก 

แต่ความคิดเหล่านั้นไม่ได้หยุดเพียงแค่ในความคิด แต่มันกลับถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการกระทำที่แม้จะไม่ใหญ่ถึงขั้นเปลี่ยนโลก แต่มันก็เป็นคลื่นลูกเล็ก ๆ ที่สร้างผลลัพธ์ที่ดีรอบตัวของมันเมื่อเคลื่อนไป และมันอาจก่อให้เกิดคลื่นลูกต่อไปที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน

 

เรื่อง: รัฐฐกรณ์ ศิริฤกษ์

ภาพ:

IMDb

Michael Buckner / Contributor