เคล็ดลับของ ‘แองเจลา บาสเซตต์’ ในบทราชินี-แม่ของ Black Panther สู่ผลงานชั้นยอดจนได้รางวัล

• แองเจลา บาสเซตต์ นักแสดงหญิงเจ้าของบทราชินีรามอนดา ในหนังซูเปอร์ฮีโร่คว้ารางวัลนักแสดงสมทบรางวัลใหญ่มาต่อเนื่อง
• แองเจลา ใช้ความรู้สึกและความทรงจำส่วนตัวเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันในการแสดงด้วย

‘แองเจลา บาสเซตต์’ (Angela Bassett) ขึ้นรับรางวัล นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ (Golden Globes) ครั้งที่ 80 ปี 2023 ด้วยบทบาท ‘ราชินิรามอนดา’ แห่งวาคานด้า ในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ Black Panther และกลายมาเป็นนักแสดงคนแรกที่ชนะรางวัลในสาขาการแสดงด้วยบทบาทจากภาพยนต์ของ Marvel และไม่กี่วันต่อมา เธอยังได้รับรางวัล Critics’ Choice Awards อีกรางวัล 

นักแสดงชาวอเมริกันรายนี้คืออีกหนึ่งต้นแบบของผู้หญิงผิวดำที่ชาญฉลาด ทรงพลัง และผ่านความสำเร็จ ที่ยังคงพยายามทำงานหนักเพื่อลบล้างปัญหาการรับบทเดิมแบบจำเจในหมู่นักแสดงหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน 

แองเจลา เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน เกิดวันที่ 16 สิงหาคม ปี 1958 ในนิวยอร์ก ปัจจุบัน (2023) เธออายุ 64 ปี แองเจลา เติบโตมากับแม่ คือ เบ็ตตี้ (Betty) และน้องสาว ‘D'nette’ แค่ 3 คน ขณะที่ด้านหัวใจ แองเจลา แต่งงานกับนักแสดงนาม คอร์ทนีย์ บี แวนซ์ (Courtney B. Vance) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี 1997 พวกเขามีลูกแฝดด้วยกันในปี 2006 

สมัยเรียน high school เมื่อได้ไปออกทริปทัศนศึกษากับทางโรงเรียน เธอมีโอกาสได้เห็นกองถ่ายของสถาบันศิปะและการแสดง Kennedy Center เรื่อง ‘Of Mice and Men’ ที่มีเจมส์ เอิร์ล โจนส์ (James Earl Jones) เป็นหนึ่งในนักแสดง เธอจึงได้รับแรงบันดาลใจเรื่องการแสดง และด้วยแรงผลักดันจากคุณครู แองเจลา ได้รับทุนการศึกษาให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเยล (Yale) จนจบปริญญาตรีในสาขาแอฟโร-อเมริกันศึกษา (Afro-American Studies) และจบปริญญาเอกในด้านการละคร 

บทบาทแรกที่เธอได้รับเป็นบทเล็ก ๆ จากเรื่อง F/X (1986) แต่ถัดมาในปี 1991 บทที่เธอได้รับเริ่มมีความน่าสนใจและโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ จนในปี 1993 บทเป็น ‘ทีนา เทอร์เนอร์’ (Tina Turner) ในหนังชีวประวัติของตำนานนักร้องหญิงเรื่อง ‘What’s Love Got To Do With It?’ ทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์มาแล้วครั้งหนึ่งด้วย

แองเจลา ยังเคยมีโอกาสแสดงร่วมกับนักร้องดังชื่อก้องโลกอย่าง วิทนีย์ ฮุสตัน (Whitney Houston) ในหนังเรื่องที่ถือได้ว่าโด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งของเธอ เรื่อง ‘Waiting to Exhale’ (1995) ผลงานจากผู้กำกับฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์ (Forest Whitaker) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 82 ล้านเหรียญ

ช่วงเวลา 35 ปีบนเส้นทางอาชีพ เธอได้ผ่านผลงานมาแล้วแทบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นละครเวที ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ทั้งแนวดราม่า คอมเมดี้ ไซ-ไฟ สารคดี แอนิเมชั่น บทบาทที่ได้รับก็หลากหลายตามไปด้วย ถือได้ว่าแองเจลา มากทั้งประสบการณ์และความสามารถอย่างแท้จริง  

ก่อนที่จะได้มามีส่วนร่วมในจักวาลมาร์เวล (Marvel) เธอเคยเป็นส่วนหนึ่งของหนังซูเปอร์ฮีโร่มาก่อนแล้วกับฝั่งดีซี (DC comics) ในเรื่อง ‘Green Lantern’ (2011) ซึ่งตัวภาพยนตร์ดูจะไม่ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องรายได้และคำวิจารณ์

แต่ในที่สุด เธอมีส่วนร่วมในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อีกครั้งจากการถ่ายทอดเรื่องราวในบทบาท ‘ราชินีรามอนดา’ พระมารดาของกษัตริย์ ‘ทีชาล่า’ แห่งวาคานด้า จากภาพยนต์เรื่อง Black Panter (2018) และในภาคต่ออย่าง Black Panther: Wakanda Forever (2022) แห่งจักรวาล MCU หรือ Marvel Cinematic Universe

แต่ก่อนที่จะได้ทำการถ่ายทำ ข่าวการจากไปของนักแสดงผู้รับบทกษัตริย์ ‘ทีชาล่า’ อย่างแชดวิก โบสแมน (Chadwick Boseman) เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เหล่านักแสดงต่างหลั่งน้ำตาและความเสียใจออกมาอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของเพื่อนร่วมงานของพวกเขาในครั้งนี้ แองเจลา เองก็เช่นกัน เธอเผยว่า บรรยากาศในกองถ่ายเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและหยาดน้ำตาในทุก ๆ วัน 

มีรายงานว่า เมื่อผู้กำกับไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) โทรศัพท์มาหาเธอแล้วบอกว่า ตัวละครราชินีรามอนดาต้องก้าวต่อไป เพราะเธอคือราชินีและต้องยืนหยัดอยู่เพื่อลูกสาวคนเล็กอีกหนึ่งคนอย่าง ‘ชูริ’ หลังจากได้ยินอย่างนั้น เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า มันน่ากลัวเหลือเกิน

การถ่ายทำฉากอารมณ์เกี่ยวกับการจากไปของกษัตริย์ทีชาล่า หยาดน้ำตาที่หลั่งไหลภายในเรื่องนั้นเป็นหยาดน้ำตาแห่งความอาลัยจากใจจริงทั้งสิ้น

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อนานมาแล้ว ลอยด์ ริชาร์ด (Lloyd Richard) หัวหน้าโรงเรียนการแสดงที่เธอเข้าศึกษา เคยแนะนำเธอในการถ่ายทำฉากสำคัญครั้งหนึ่ง ตอนที่ตัวเธอเองกำลังเผชิญปัญหาส่วนตัวในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดและร้อนรนไปหมด ริชาร์ด บอกเธอว่า “ใช้มันซะ” เขาบอกเธอเพียงแค่นั้น แล้วทุกอย่างก็เดินหน้าต่อไป มันทำให้แองเจลา รู้สึกเหมือนได้เป็นอิสระ เธอจำช่วงเวลาและคำพูดของเขาตอนนั้นได้ไม่เคยลืม 

คำพูดนั้นหวนกลับเข้ามาในใจเธออีกครั้งเมื่อต้องถ่ายทำ Black Panther ภาคต่อ ท่ามกลางความเสียใจที่เอ่อล้นอยู่ภายในอกของเธอ

คำพูดที่ว่า “ใช้มันซะ” ทำให้แองเจลลา สามารถใช้ความรู้สึกเหล่านั้นเพื่อช่วยให้เข้าถึงความโศกเศร้า ความรัก ความสูญเสีย และความดึงดันทั้งหมดของผู้เป็นแม่ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

เธอเสริมว่า

“เราทุกคนต่างก็เจอเรื่องราวมากมายในชีวิต แต่เราเป็นศิลปิน และเมื่อเรามีโอกาสที่จะได้นำความรู้สึกที่เรามีต่อเรื่องราวเหล่านั้นมาใช้ได้ เปลี่ยนความปวดร้าวให้เป็นเรื่องดี ๆ เพื่อบางสิ่ง เพื่อสร้างภาพลวงตา เพื่อผู้ชมที่จะนั่งมองมันจากมุมมืด ทั้งหมดนั่นจะสะท้อนว่าคุณกำลังเจอกับอะไรหรือพวกเขาเหล่านั้นต้องเจอกับอะไรเมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิต”

ประสบการณ์ที่ยาวนานในอาชีพนักแสดงของแองเจลา ทำให้ความสามารถและผลงานของเธอทุกชิ้นเป็นที่ยอมรับ และทุกสิ่งนั้นทำให้เธอเป็นได้ทั้งราชินีบนจอเงิน และผู้คนยังมองว่า บทบาท ความสามารถ และตัวตนของเธอทำให้แองเจลา ถูกจดจำว่าไม่ต่างจาก ‘ราชินี’ ในชีวิตจริงตามไปด้วย

 

เรื่อง: ปิยวรรณ พลพุทธ (The People Junior)

ภาพ: Getty Images / Marvel 

อ้างอิง:

Biography

CNN

Screen Dollars

Daily Mail

Hollywood Reporter