ภูริต ภิรมย์ภักดี กับ ปรัชญาการทำธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่มีสิ้นสุด

ภูริต ภิรมย์ภักดี กับ ปรัชญาการทำธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่มีสิ้นสุด

"เรียนรู้ ปรับตัว ให้โอกาส" ปรัชญาการทำธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่มีสิ้นสุดของ ภูริต ภิรมย์ภักดี เด็กล้างถังเบียร์ นักร้อง นักแข่งรถ นักธุรกิจ และประธานบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย

หากเป็นภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งก็ถือได้ว่าครบถ้วนทุกรสชาติ สำหรับเส้นทางการทำงานของ เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี ทายาทคนโตจากบ้านภิรมย์ภักดี  ผู้ก่อตั้ง บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด บริษัทผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์รายใหญ่ของไทย 

แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม และเตรียมปูเส้นทางในการเป็นผู้บริหารไว้เป็นอย่างดี แต่ ภูริต เชื่อว่าชีวิตและการทำงานที่ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคือ การเรียนรู้และเข้าใจในทุกภาคส่วนของกระบวนการ เป็นเหตุให้ในทุกช่วงชีวิตของเขามักจะวนเวียนอยู่กับการค้นหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และต่อยอดเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ 

ถ้าใครไปดูประวัติผม ก็จะเห็นว่าเป็นมาหลายอย่างมาก เป็นตั้งแต่นักเรียนที่อยู่หลังห้อง นักร้อง นักแข่งรถ คือประสบการณ์พวกนี้ มันทำให้ผมเห็นภาพที่ไม่เหมือนกับคนอื่น เป็นภาพที่มันกว้างขึ้น เป็นภาพที่ได้สอนให้ผมเรียนรู้หลายๆ อย่าง ทำให้เรามองคนหลากหลายมากขึ้น เข้าใจว่าพวกเขาคิดอย่างไร และสามารถปรับตัวเข้าหาได้กับทุกคน

เวลาเข้าหาคน ผมจะไปศึกษา ไปดู ไปฟังสิ่งที่เขาคิดอ่านมากกว่า เพราะสำหรับผมการพูดไม่ได้ทำให้ผมฉลาดขึ้นมา

วิธีคิดแบบนี้ของภูริต มาออกดอกผลในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และกลายเป็นนักธุรกิจที่บริหารบุคลากรได้อย่างมีคุณภาพ สร้างองค์กรที่พนักงานมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ตรงกับบริษัทได้อย่างชัดเจน

จุดเด่นของผมอาจเป็นเรื่องของการบริหารคน เพราะการบริหารคนหมู่มากโดยเฉพาะในหลายช่วงอายุเป็นงานที่ยากมาก จะทำอย่างไรให้เขามีความสุข ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ของแบบนี้ต้องใช้จิตวิทยา ใช้ความรู้ ใช้ประสบการณ์ ใช้หลายๆ อย่าง ผมเชื่อว่าในตำแหน่ง CEO บางทีเราอาจไม่ต้องรู้รายละเอียดเชิงลึกทุกอย่าง แต่จำเป็นต้องเข้าใจในทุกกระบวนการ ต้องรู้ว่าเรื่องมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในโลกนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง 

โดยวิธีที่ผมใช้บริหารคนคือ ต้องทำให้ทุกคนเห็นเป้าหมายขององค์กรแบบเดียวกันก่อน แน่นอนว่าความเป็นจริงไม่ใช่ว่าภาพนั้นทุกคนจะเห็นด้วยไปทั้งหมด ดังนั้นการที่จะทำให้คนเห็นภาพเดียวกันได้ ก็ต้องมีการคุย การสื่อสาร การทำงานร่วมกันเป็นทีม ของพวกนี้มันใช้ความละเอียดอ่อน คุณต้องดูเอาเองว่าพนักงานแต่ละคนเป็นอย่างไร นิสัยเป็นอย่างไร ความรับผิดชอบคืออะไร มีวิธีการทำงานแบบไหน แล้วก็ต้องพยายามต่อจิ๊กซอว์ ให้กลายเป็นภาพที่เราต้องการและคิดว่าสมบูรณ์ที่สุด"

Passion ผู้ประกอบการ Shark Tank Thailand Season 3

ด้วยทักษะและความสามารถในด้านมนุษย์และธุรกิจ จึงเป็นเหตุให้เขาได้รับการเชิญชวนจาก Shark Tank Thailand รายการเรียลิตี้โชว์เชิงธุรกิจ มารับตำแหน่ง ‘ชาร์ค’ ในการคัดเลือกผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ต้องการขยายธุรกิจ ต่อยอดความสำเร็จให้เติบโตยิ่งขึ้น

ภูริต ภิรมย์ภักดี กับ ปรัชญาการทำธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่มีสิ้นสุด

สำหรับรายการ Shark Tank Thailand ได้รับลิขสิทธิ์มาจากบริษัท โซนี่พิคเจอร์สเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยให้ บริษัท มีเดีย แท็งก์ ผลิตและเผยแพร่ออกอากาศ ปัจจุบันอยู่ในการเผยแพร่ซีซั่นที่ 3 ซึ่งมีชาร์คทั้งหมด 5 ราย คือ ชาร์คกฤษน์ ศรีชวาลา ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Fico Group, ชาร์คหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นชื่อดัง Ookbee, ชาร์คจิง-ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด, ชาร์ค ประพล มิลินทจินดา ประธานคอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช และ ชาร์คเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด

ในรายการผู้ประกอบการหน้าใหม่จะต้องมานำเสนอโมเดลธุรกิจ เป้าหมาย และตัวเลขเงินลงทุนที่ต้องการเพื่อแลกกับสัดส่วนหุ้นในบริษัทหรือโครงการแก่เหล่าชาร์ค โดยระหว่างการดีลนั้น จะเกิดการเจรจา ต่อรอง ทางธุรกิจที่ลุ้นระทึกในแต่ละธุรกิจ อีกทั้งยังได้ไอเดียและแรงบันดาลใจจากผู้ประกอบการหน้าใหม่เป็นจำนวนมาก 

ส่วนทางด้านชาร์คเอง ภูริต เปิดเผยว่าบทบาทส่วนนี้ ทำให้ตนเห็นถึงอนาคตในเชิงธุรกิจในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวเขาจะขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้ประกอบการและธุรกิจในประเทศไทยเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมีคุณภาพ

ในการจะเลือกลงทุนกับผู้เข้าแข่งขัน ผมจะมองจากผู้ประกอบการเป็นหลัก ธุรกิจเป็นรอง เพราะเราต้องอยู่กับตัวเจ้าของก่อน คือ Shark Tank Thailand เป็นรายการที่เรามีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวที่เราจะตัดสินใจเลือกลงทุน หรือไม่ลงทุนกับผู้ประกอบการคนนั้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของผู้ประกอบการคือต้องแสดงให้เห็นถึงแพชชั่นในธุรกิจ มีความจริงใจ เวลาคุณมีอยู่แค่นี้ นำเสนอให้ดีที่สุด แสดงให้เห็นว่าคุณรัก คุณตั้งใจในสิ่งที่กำลังทำ

ส่วนบทบาทในฐานะชาร์ค ผมมองว่าเรากำลังเป็นสะพานที่ทำให้ SME ไทย สามารถเติบโตและก้าวไกลในเมืองไทยและทั่วโลกได้ ดังนั้นแม้ธุรกิจที่นำเสนอมาในตอนนี้ยังไม่มีกำไร แต่ถ้ามันมีอนาคต เห็นการเติบโต เห็นแพชชั่นในผู้ประกอบการ มันก็ทำให้เราร่วมลงทุนไปกับเขาได้

ภูริต ภิรมย์ภักดี กับ ปรัชญาการทำธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่มีสิ้นสุด

โดยในซีซั่น 3 นี้ ธุรกิจที่ชาร์คเต้ กำลังให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอนาคต เพราะตัวเขานั้นเชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยสามารถเติบโตตามทิศทางโลกที่กำลังเข้าสู่ยุค Digital Transformation ได้อย่างแน่นอน ซึ่งชาร์คเต้ จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้ธุรกิจส่วนนี้เติบโตร่วมกันได้อย่างถ้วนหน้า 

ผมมองหาธุรกิจที่เป็นอนาคตของประเทศ ที่ผ่านมาประเทศไทยโตมาจากธุรกิจบริการ เลยทำให้ตอนนี้เราขาดบุคลากรที่มีความสมารถในเรื่องเทคโนโลยี รวมไปถึงหลายๆ อย่างก็ยังไม่เปิดรับให้ธุรกิจในประเทศสอดคล้องกับกระแส Digital Transformation ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถ้าหากเราดูจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นประเทศสิงคโปร์ หรือประเทศเวียดนามก็ตาม ก็จะเห็นว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นเราอาจต้องวางโครงสร้างและพื้นฐานให้แข็งแรงกว่านี้

ดังนั้นผมจึงไม่สามารถมองและเลือกจากธุรกิจแบบไหนเพียงอย่างเดียว แต่ผมกำลังมองหาช่องทางที่เราสามารถช่วยเหลือธุรกิจของคุณและพัฒนาประเทศไปพร้อมกันได้

 

Singha Ventures โอกาสและความท้าทายครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึง 

ปัจจุบัน ภูริต มีอีกหนึ่งบทบาทคือ ประธานกรรมการบริหาร สิงห์ เวนเจอร์ส หน่วยธุรกิจที่พัฒนาขึ้นเพื่อมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ซึ่ง Singha Ventures เป็นธุรกิจร่วมลงทุน หรือ CVC (Corporate Venture Capital) เน้นลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ คือ สินค้าอุปโภคบริโภค, เทคโนโลยีจัดการ Supply Chain และ Enterprise Solutions 

โดยอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ Singha Ventures เปิดตัวขึ้นมา ภูริต เผยว่านี้จะเป็นแนวทางในการปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า

Singha Ventures ตั้งขึ้นมาจากการดิสรัปชั่นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น คือต้องบอกว่าองค์กรเราก็อยู่มาตั้ง 89 ปี เป็นองค์กรที่เก่าแก่ที่ต้องมีการพัฒนา การเปลี่ยนแปลง และจำเป็นอย่างมากที่เราต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ พยายามเข้าใจว่าเทรนด์โลกเป็นอย่างไร เพราะหากมันต้องเกิดการดิสรัปชั่นจริงๆ ควรจะเป็นเราที่ดิสรัปชั่นตัวเองเพื่อพัฒนาธุรกิจให้เป็นก้าวใหม่ที่ดีกว่าเดิม"

สุดท้ายภูริตให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่คือการพยายามเข้าใจในทุกกระบวนการของบริษัท เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก อย่าถอดใจ ทำมันไปเรื่อยๆ ซ้ำไป ซ้ำไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งความสำเร็จจะออกดอกผลจากสิ่งที่คุณพยายามและกำลังทำอยู่เอง

ตำแหน่งแรกของผมคือเด็กล้างถังเบียร์ คือเราอยากจะรู้ทุกอย่างในองค์กร ก็ไปทำตั้งแต่ขับรถยกสินค้า เรียนวิธีการทำเบียร์ พอมีความรู้ก็เปิดบริษัทเล็กๆ ในเครือ เริ่มจากพนักงาน 3 คน เป็นน้องเล็กในบริษัท แต่สุดท้ายมันก็เติบโตได้ จากวิธีคิดเล็กๆ แบบนี้แหละ ดังนั้นคำแนะนำผมก็คือทำไปเรื่อยๆ อย่ายอมแพ้ สุดท้ายมันจะกลายเป็นความยิ่งใหญ่ เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากน้ำมือคุณ

สำหรับรายการ ‘Shark Tank Thailand ซีซั่น 3’ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. ช่อง 7HD เริ่ม 28 สิงหาคมนี้ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของรายการ Shark Tank Thailand ได้ที่ Website : https://www.sharktankthailand.com

ภูริต ภิรมย์ภักดี กับ ปรัชญาการทำธุรกิจสู่ความสำเร็จที่ไม่มีสิ้นสุด