“ฉันเกิดในเรือนจำ” ประโยคที่ทำให้อยากรู้จัก ‘ออโรร่า สกาย แคสต์เนอร์’ รวมถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

“ฉันเกิดในเรือนจำ” ประโยคที่ทำให้อยากรู้จัก ‘ออโรร่า สกาย แคสต์เนอร์’ รวมถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

‘ออโรร่า สกาย แคสต์เนอร์’ เด็กหญิงวัย 18 ปี ทีเกิดในแดนเรือนจำและมีพ่อที่เป็นโรคไบโพลาร์ เธอใฝ่ฝันอยากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เส้นทางชีวิตของเธอเปลี่ยนไปหลังพบกับ ‘โมนา แฮมบี้’ (Mona Hamby) อาสาสมัครด้านการศึกษาที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตเธอ

  • ‘ออโรร่า สกาย แคสต์เนอร์’ เด็กสาวที่มีความฝันอยากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยเปิดประโยคแนะนำตัวตอนสมัครเรียนว่า เธอเกิดในเรือนจำ
  • ‘โมนา แฮมบี้’ (Mona Hamby) อาสาสมัครด้านการศึกษา ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ชี้ทางให้กับเด็กวัย 18 ปี จนเธอสามารถขาทุนเรียนที่ฮาร์วาร์ดได้

กลายเป็นกระแสไวรัลชวนอมยิ้มหลังจากที่หลายสื่อในสหรัฐอเมริกาเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาววัย 18 ปีที่ชื่อว่า ‘ออโรร่า สกาย แคสต์เนอร์’ (Aurora Sky Castner) กับประโยคแนะนำตัว “ฉันเกิดในเรือนจำ”

เรื่องราวของแคสต์เนอร์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายคนจนถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียลมีเดีย เพราะเธอคืออีกคนหนึ่งที่พิสูจน์ตัวเองว่า สภาพแวดล้อม สถานที่เกิด หรือสถานะทางสังคม ไม่ใช่ข้ออ้างของความสำเร็จ เพราะชีวิตของเธอที่ผ่านมาตลอด 18 ปีสะท้อนให้เห็นว่า ‘ความหวังและความมุ่งมั่น’ มักจะหยิบยื่นสิ่งดี ๆ ที่ผู้คนวาดฝันไว้เสมอ

 

ฉันเกิดในเรือนจำ

แคสต์เนอร์ เด็กหญิงที่เกิดในเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัส เพราะแม่ของเธอถูกจับตั้งแต่ตอนที่ยังท้อง และนั่นก็คือสภาพแวดล้อมแรกของแคสต์เนอร์ หลังจากที่เธอลืมตาดูโลก ซึ่งเธอใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำกับแม่ได้ไม่นาน พ่อของเธอก็มารับแคสต์เนอร์ไปดูแลต่อ

อย่างไรก็ตาม ความพร้อมในการเลี้ยงดูแคสต์เนอร์ในฐานะพ่อเลี้ยงเดี่ยวไม่ดีนัก พ่อของเธอมีสภาวะทางอารมณ์ที่ไม่นิ่งไม่แน่นอนจากโรคไบโพลาร์ จึงทำให้ขาดรายได้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ทำให้ฐานะที่บ้านค่อนข้างยากจนไม่มีเงินพอที่จะดูแลเด็กแรกเกิดได้ถูกต้องอย่างที่ควร นอกจากนี้ยังต้องย้ายที่อยู่บ่อย ๆ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน

แม้ว่าแคสต์เนอร์ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับสภาพแวดล้อมที่สวยหรู แต่เธอกลับเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือมาก ๆ ตั้งแต่เด็ก และเป็นเด็กที่มุ่งมั่นมีเป้าหมายชัดเจนมากคนหนึ่ง เธอได้ฉายาเรียกว่าเป็น ‘voracious reader’ ก็คือเป็นนักอ่านตัวยง เป็นหนอนหนังสือ

ซึ่งนิสัยรักการอ่านมากขนาดนี้ของแคสต์เนอร์ ถือว่ามีส่วนอย่างมากที่ทำให้เธอมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเข้าเรียนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดให้ได้ นอกจากนี้ยังมีใครอีกคนหนึ่งที่ช่วยเธอ เป็นที่ปรึกษาให้เธอในยามที่แม่หันหลังให้ และพ่อก็ไม่สามารถพึ่งพาได้ เธอชื่อว่า ‘โมนา แฮมบี้’ (Mona Hamby)

 

เข็มทิศชีวิตตั้งแต่วัย 8 ขวบ

อย่างน้อยช่วงชีวิตหนึ่งของแคสต์เนอร์ก็มีใครสักคนที่คอยสนับสนุนเธอ ช่วงเวลาที่เธอเรียนในโรงเรียน Conroe High School ทางโรงเรียนได้แนะนำให้รู้จักกับ ‘อาสาสมัครด้านการศึกษา’ และนั่นคือครั้งแรกที่แคสต์เนอร์ได้รู้จักกับ โมนา แฮมบี้

โมนา แฮมบี้ เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของแคสต์เนอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องการศึกษา แต่เป็นการใช้ชีวิต มุมมองต่าง ๆ และทัศนคติที่ดีต่อชีวิตของเธอด้วย รวมไปถึงการปลูกฝังความคิดเรื่องการเรียน ให้รู้สึกรักการเรียน อยากให้ไปโรงเรียน และชอบที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี

สำหรับ โมนา แฮมบี้ เธอเหมือนเป็นแม่คนที่ 2 ของแคสต์เนอร์ เพราะไม่ใช่แค่มุมคิดการใช้ชีวิตหรือเรื่องการศึกษา แต่เธอยังช่วยเหลือแคสต์เนอร์ พาเธอไปรู้จักกิจกรรมอื่นที่อยู่ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น การตัดผม การตัดแว่นตา หรือแม้แต่การเสริมสวยแบบสาว ๆ โมนา แฮมบี้ ก็เป็นคนพาเธอไป

ข้อคิดดี ๆ มากมายจาก โมนา แฮมบี้ ตลอด 10 ปีที่เธออยู่กับแคสต์เนอร์ ยิ่งทำให้เธอรักการเรียนมากขึ้นไปอีก ซึ่งสุดท้ายแล้วเธอสามารถเรียนจบด้วยคะแนนสูงสุดในโรงรียน และมีความฝันชัดเจนเรื่องการเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตั้งแต่เด็ก

แคสต์เนอร์ได้ยื่นจดหมายสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ด้วยคำขึ้นต้นประโยคแนะนำตัวว่า “ฉันเกิดในเรือนจำ” ถือเป็นการแสดงความจริงใจอย่างมากต่อสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ที่จะมอบโอกาสให้ทุนการศึกษาเธอจนเรียนจบ

ทั้งนี้ ในรายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยในสาขาจิตวิทยาและปรัชญา ซึ่งก็เป็นสายอาชีพที่เธอใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กเช่นกัน โมนา แฮมบี้ เคยบอกกับสื่อว่า แคสต์เนอร์อยากที่จะเรียนต่อเพิ่มปริญญาอีกใบในสาขากฎหมาย ซึ่งก็เป็นไปได้สูงที่เธอจะทำสำเร็จ

เรื่องราวน่ารัก ๆ ระหว่าง แคสต์เนอร์ กับ โมนา แฮมบี้ กับความฝันของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เคยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แย่มาก ๆ การใฝ่รู้ใฝ่เรียนและชอบอ่านหนังสืออย่างหนักของเธอ ล้วนเป็นส่วนผสมที่ทำให้วันนี้ แคสต์เนอร์ได้เดินตามความฝันสักที

 

ภาพ : dailymail

อ้างอิง:

Yourconroenews

Nypost

People

Dailymail