28 ก.พ. 2565 | 14:29 น.
“ตอนฉันเจอคนแล้วเล่าว่าฉันทำอะไร พวกเขาตื่นเต้นกันมาก พวกเขาคิดว่ามันเป็นงานที่สนุกที่สุดในโลก “และมันก็ใช่จริง ๆ” แมรีลู เจโซ (Marylou Jaso) พูดถึงอาชีพของเธอ อาชีพของเธอคือเชฟทำขนมหวานที่สตูดิโอ Pixar ซึ่งตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย หนึ่งในสถานที่ที่บ่มเพาะความฝันแล้วผลิตออกมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันมากมายที่ผู้คนหลงใหลทั่วโลก ทำไมเธอจึงรักงานนี้มากในระดับเธอบอกกับทุกคนว่า ‘เป็นงานที่ดีที่สุดในโลก?’ คงต้องไปหาคำตอบใน Inside Pixar ที่เผยแพร่อยู่ที่ Disney+ Inside Pixar คือสารคดีมินิซีรีส์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนเบื้องหลังงานแอนิเมชันของสตูดิโอ Pixar ที่ไล่มาตั้งแต่เรื่องราวของผู้กำกับ คนเขียนบท คนทำเพลง ไปจนถึงคนทำขนม ก่อนที่จะมาเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องดังที่โลกรักอย่าง Toy Story, Cars, Inside Out, Finding Dory, Coco, Soul หรือ Luca แน่นอนว่ามี ‘คนเบื้องหลัง’ จำนวนมากมายที่ช่วยกันผลักดันให้งานสำเร็จ เพียงแต่ว่าชื่อของพวกเขาไม่ใช่ชื่อคนเบื้องหน้า แต่เป็นรายชื่อจำนวนมากมายที่เรียงรายกันอยู่ภายใต้ end credit ในตอนจบของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง Inside Pixar จึงเป็นสารคดีที่ช่วย ‘ขยายความ’ end credit ดังกล่าวให้เห็นว่า เบื้องหลังงานใหญ่ ๆ มีคนเล็ก ๆ จำนวนมากอยู่ตรงนั้นคอยช่วยสนับสนุนอยู่ ซึ่งช่วยเสริมอรรถรสให้เราดูหนังของ Pixar ได้สนุกขึ้น แม้ว่าโดยอาชีพของเธออาจจะไม่ใช่งานสายตรงที่จะปรากฏอยู่ใน end credit แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า...แมรีลู เจโซ คือหนึ่งในคนเบื้องหลังเหล่านี้ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทีมงานเขียนบทสักคนหนึ่ง หากคิดงานจนหิวมาก ๆ อาจจะแวบมาที่โรงอาหารของสตูดิโอเพื่อหยิบคุกกี้ชิ้นใหญ่สักชิ้นที่เธออบไว้มาประทังความหิวก็เป็นได้ ขนมที่เธออบ อาจจะจุดไอเดียบางอย่างจนกลายเป็นโปรเจกต์ดี ๆ ให้กับ Pixar หรืออย่างน้อยที่สุดก็ช่วยจุดพลังงานให้ทีมงานได้สร้างสรรค์งานดี ๆ ต่อไป งานของเจโซทำให้เธอตื่นตั้งแต่เช้ามืด... “ฉันชอบขี่จักรยานตอนเช้า เป็นบรรยากาศมหัศจรรย์สำหรับการขี่จักรยานผ่านความมืด จนมาถึง Pixar ตอนพระอาทิตย์ขึ้น จากนั้นก็เข้าไปในครัวอันอบอุ่น เป็นการเริ่มต้นวันอย่างสวยงาม…” เธอเริ่มงานอบขนมที่ร้านคาเฟ่ (โรงอาหาร) ใน Pixar ตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ต่างจากแผนกอื่นที่มีคนมากมายทำอาหารในครัว แผนกทำขนมมีเธอเพียงคนเดียวในมุมครัวที่ลุยอบขนม ขนมจำนวนมากมายเรียงรายมาให้เธอจัดการเรียงเข้าเตาอบ จากช่วงเช้าที่แสนวุ่นวาย เงยหน้ามาอีกทีเวลา 11.30 น. อันเป็นเวลาที่คาเฟ่เปิดเพื่อให้พนักงาน Pixar ได้เข้ามากินอาหารเที่ยงพอดี แต่ละวัน คาเฟ่แห่งนี้เสิร์ฟมื้อเที่ยงให้กับคน Pixar จำนวน 862 ที่ จะมี 1 ใน 4 คนที่สั่งขนมหวานตบท้าย นั่นเท่ากับว่าแต่ละวันเธอจะอบขนมวันละประมาณ 200 กว่าที่เพื่อทุกคน มันเป็นงานที่หนักและทำให้เธอต้องใช้สมาธิค่อนข้างมาก แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังสนุกสนานกับการทำขนมในแนวทางใหม่ ๆ อยู่เสมอ ขนมของเธอ นอกจากจะเป็นขนมทั่วไปแล้ว เธอยังพยายามผสานความเป็น Pixar ผ่านการออกแบบขนมต่าง ๆ มีขนมในวาระพิเศษต่าง ๆ ที่ช่วยตอกย้ำช่วงเวลาสำคัญ (ในขณะนั้น) ของสตูดิโอ Pixar “Pixar เต็มไปด้วยคนมีความคิดสร้างสรรค์ ถ้าฉันต้องการแรงบันดาลใจ ฉันแค่เดินผ่านห้องโถงที่นี่ ดูงานศิลปะบางชิ้น รอบข้างเต็มไปด้วยสีสัน เต็มไปด้วยความคิด” ความคิดมากมายตรงนั้น เป็นแรงบันดาลใจให้เธอออกแบบขนมรูปแบบใหม่ ๆ ไอศกรีมซันเดหลากสกู๊ปสีสันสดใสที่เป็นตัวแทนของอารมณ์ในรูปแบบต่าง ๆ กลายเป็นไอศกรีมซันเดที่ออกมาในช่วงที่สตูดิโอมีผลงานแอนิเมชันที่เจาะเข้าไปในจิตใจของมนุษย์เพื่อศึกษาอารมณ์ต่าง ๆ อย่าง Inside Out, คัพเค้กที่ออกมาเป็นบังโคลนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Cars 3, ไอศกรีมหลากสีสันที่ทำให้นึกถึงความเป็นเม็กซิกันจากภาพยนตร์ Coco, มาการองสีน้ำเงินและเหลือง ภาพแทนของ ‘ดอรี’ ปลาขี้ลืม เข้ากับมาการองสีส้มและขาว อันเป็นสัญลักษณ์แทนของ ‘นีโม’ ปลาพระเอก ออกแบบมาเพื่อเสิร์ฟในช่วงที่ Finding Dory ออกฉาย, คุกกี้รูป Pixar Ball สีเหลืองริ้วน้ำเงินที่แต้มด้วยดาวแดงอันเป็นภาพจำของสตูดิโอแห่งนี้ ไปจนถึงทำขนมปังหวานสีชมพูที่เห็นประจำในแอนิเมชันของ Pixar หลายต่อหลายเรื่อง นี่คือหนึ่งในผลงานของเธอที่ช่วยสร้างความสุขในการกินอาหารระหว่างพักเที่ยงของคน Pixar เธอคิดว่าเรื่องราวของขนมแต่ละเมนูหากตั้งใจออกแบบจะเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ได้กินมัน “คาเฟ่เป็นที่ที่ดีที่ทุกคนจะได้สนทนากัน และทุกคนจะได้อยู่ที่นี่ช่วยส่งเสริมการทำงาน และได้คุยกับคนที่คุณทำงานด้วย ซึ่งคุณไม่ค่อยเห็นในห้องโถง ไม่ใช่แค่โรงอาหารกลางวัน แต่เป็นได้มากกว่านั้น” เจโซมองว่า เธอต้องตั้งใจทำงานให้ดี เพราะงานของเธอคือการสนับสนุนช่วงเวลาพิเศษของคนเหล่านี้ และมีส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ผลิตงานดี ๆ ขึ้นมา “มันเหมือนความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน ระหว่างสตูดิโอกับร้านคาเฟ่ เมนูของเรามีแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของ Pixar และฉันเชื่อว่าเราได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ Pixar โดยจัดหาอาหารที่สนุกและน่าสนใจ ซึ่งช่วยให้พวกเขานึกถึงบางอย่างในวัยเด็กหรือกระตุ้นแรงบันดาลใจ” ก่อนที่จะมาทำงานที่นี่ แมรีลู เจโซ เติบโตมากับครอบครัวเชื้อสายสเปน เธอชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะขนมสเปน เธอจึงเลือกเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารเพื่อขนมอบโดยเฉพาะ ก่อนทำงานที่ Pixar เธอทำงานที่ร้านอาหารและร้านขนมปัง งานในตอนนั้นหนักมาก ที่ร้านมีชั่วโมงทำงานร้านอาหารยาวนานอย่างร้ายกาจจนเวลาใช้ชีวิตในบ้านตัวเองแทบจะไม่มีเลย จนได้มาเป็นเชฟขนมหวานที่ Pixar เธอบอกว่าเหมือนตัวเองโชคดี ‘สามเด้ง’ เด้งแรกคือ เธอจะยังอยู่ในเส้นทางอาชีพที่เธอชอบ และเด้งสอง เธอยังได้ทำงานในองค์กรที่เธอชื่นชอบ “ฉันไม่ได้แค่ทำขนมอบทุกวัน ซึ่งสนุกอยู่แล้ว แต่ฉันได้ทำงานในดินแดนมหัศจรรย์ซึ่งเป็นที่ทำงานของฉัน” และเด้งสุดท้าย การได้มาอบขนมที่ Pixar ทำให้เธอสามารถจัดการเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวได้อย่างสมดุล สามารถใช้ชีวิตหลังเลิกงานได้ และมีเวลาเลี้ยงเจ้า ‘โรมิโอ’ แมวที่เธอรัก “ฉันชอบความอิ่มเอมใจที่ได้ในทันทีจากขนมอบ พอฉันมีความคิดดี ๆ ก็จะลงมือทำในตอนเช้า พอฉันได้เสิร์ฟมันให้ใครสักคนและทำให้พวกเขายิ้มได้ แล้วก็ผ่านไป แล้วฉันก็ทำแบบนี้อีกครั้ง ทุกอย่างเกิดขึ้นใน 6 ชั่วโมง ฉันได้เริ่มต้นใหม่ทุกวัน ฉันเลยชอบที่เป็นแบบนั้น “มันสนุกดีที่ทำให้คนมีความสุข ส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันคืองาน “เป็นงานที่ดีที่สุดในโลกเลย” เธอสรุปส่งท้าย งานที่ดีที่สุดสำหรับเธอ คืองานที่ทำด้วยความสนุกในองค์กรที่เธอชื่นชอบ บรรยากาศที่เธอชื่นชม และงานของคนรอบข้างส่งพลังให้กับเธอ ทำให้เธอมีแรงสร้างสรรค์เพื่อส่งพลังงานคืนกลับสู่คนอื่น สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยกันผลักดัน Pixar ไปข้างหน้า งานเล็ก ๆ เบื้องหลังที่งดงามล้วนแล้วแต่ผลักดันให้งานใหญ่ไปข้างหน้าเสมอ คนที่อยู่ใน end credit เบื้องหลังจึงสำคัญและสมควรปรบมือดัง ๆ ให้ไม่ต่างจากคนเบื้องหน้า เหตุผลข้างต้นเหล่านี้เองที่ทำให้ แมรีลู เจโซ ชอบงานนี้ และยินดีที่จะตื่นมาอบขนมทุกเช้าให้เพื่อนพนักงานได้กิน อ้อ...ต้องไม่ลืมอีกเหตุผลที่ทำให้เธอรักงานที่นี่ ทำงานที่ Pixar ทำให้เธอมีเวลาเลี้ยงแมว! ข้อมูล: จากสารคดีมินิซีรีส์ Inside Pixar Season 1 EP.6 Marylou Jaso, Pastry Chef