วิธีสอนลูกของ ‘เมย์ มัสก์’ ถ่ายทอดนิสัยหลายอย่างจนเป็นตัวพ่ออย่าง ‘อีลอน มัสก์’

วิธีสอนลูกของ ‘เมย์ มัสก์’ ถ่ายทอดนิสัยหลายอย่างจนเป็นตัวพ่ออย่าง ‘อีลอน มัสก์’

เปิดแนวคิด และการถ่ายทอดความคิดของ ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) ตัวพ่อที่ได้ DNA จากผู้เป็นแม่ ‘เมย์ มัสก์’ (Maye Musk) ไปแบบเต็ม ๆ

  • ‘เมย์ มัสก์’ (Maye Musk) แม่ของเจ้าพ่อนักประดิษฐ์ อีลอน มัสก์ ที่ชอบทำงานเป็นชีวิตจิตใจ ถอดสูตรความสำเร็จจากผู้เป็นแม่
  • วิธีการคิด และความกล้าของ เมย์ มัสก์ จนเป็นอีลอน มัสก์ ตัวพ่อแห่งวงการเทคโนโลยี
  • ชีวิตและเรื่องราวของ เมย์ มัสก์ วัยเด็ก จนเข้าสู่วงการเดินแบบครั้งแรกตอนอายุ 15

พอพูดถึงชื่อนักประดิษฐ์คนนี้ ‘อีลอน มัสก์’ (Elon Musk) คงไม่มีใครไม่รู้จัก หรือคงน้อยมาก ๆ ที่ไม่รู้จัก เพราะทั้งผลงานและนิสัยส่วนตัวที่ปั่นในโลกโซเชียลฯ ได้แทบทุกวัน มีส่วนทำให้ อีลอน มัสก์ เป็นบุคคลที่มีคนพูดถึงอยู่บ่อยมากในปัจจุบัน แต่บทความนี้จะมาบอกเล่าถึงบุคคลต้นแบบว่านิสัยหลาย ๆ อย่างของเขาได้มาจากใคร?

มีหลายคนที่ไม่รู้ว่า ‘เมย์ มัสก์’ (Maye Musk) คือแม่แท้ ๆ ของ อีลอน มัสก์ เธอคือนางแบบวัย 75 ที่ทุกวันนี้ยังรับงานเดินแบบบนรันเวย์อยู่บ่อย ๆ นอกจากนี้เธอยังมีอาชีพอื่นที่ทำควบคู่กันไปด้วย อย่างอาชีพที่ปรึกษาด้านโภชนาการ ซึ่งค่อนข้างเชี่ยวชาญทีเดียว

มีหลายคนที่ยกให้ ‘ความบ้างาน’ ของ อีลอน มัสก์ ว่ามีความคล้ายกับ เมย์ มัสก์ ไม่มีผิด นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงความกล้าแบบสุดโต่ง กล้าคิด กล้าลองในสิ่งใหม่ ๆ ล้วนมาจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก ซึ่งเราอยากพาไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของ เมย์ มัสก์ เพราะเป็นส่วนประกอบสำคัญของที่มาความเป็นตัวตนของ อีลอน มัสก์ นั่นเอง

ครอบครัวนักผจญภัย

‘เมย์ มัสก์’ เกิดวันที่ 19 เมษายน ปี 1948 ที่เมืองเรจินา รัฐซัสแคตเชวัน ประเทศแคนาดา มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน แต่ชีวิตการเติบโตของ เมย์ มัสก์ กลับเติบโตที่เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ หลังจากพ่อแม่เธอย้ายบ้านตอนที่เธออายุได้เพียง 2 ขวบ

ด้วยความที่ตอนนั้นพ่อแม่ของ เมย์ มัสก์ ได้เปิดกิจการบำบัดโรคด้วยศาสตร์ไคโรแพรกติก หรือการนวดจัดกระดูกสันหลัง ซึ่งเมย์ มัสก์ เติบโตขึ้นด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี พ่อแม่มีเวลาให้กับลูก ๆ และชอบที่จะพาลูก ๆ ออกไปผจญภัยข้างนอก

เมย์ มัสก์ เคยให้สัมภาษณ์กับรายการหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเธอว่า เป็นคนชอบท่องเที่ยวและไม่อยู่กับที่ น่าจะเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ พ่อแม่มักจะชวนไปเล่นและทำกิจกรรมนอกบ้านอยู่บ่อย ๆ

อย่างเช่น ช่วยกันตามหาเมืองสูญหายที่ทะเลทรายคาลาฮารี หรือเป็นการนั่งเครื่องบินทัวร์รอบโลกกับพ่อแม่ (เพราะว่าพวกเขาต้องทำงานในหลายเมือง หลายประเทศด้วย)

วิธีสอนลูกของ ‘เมย์ มัสก์’ ถ่ายทอดนิสัยหลายอย่างจนเป็นตัวพ่ออย่าง ‘อีลอน มัสก์’

จนวันหนึ่งเธอได้มีโอกาสเข้าสู่วงการ ‘นางแบบ’ ตอนอายุ 15 ปี และนั่นคือเส้นทางสายอาชีพแรกของ เมย์ มัสก์ ขณะเดียวกัน เธอก็ไม่ได้ละทิ้งการเรียนแต่อย่างไร เพราะเธอเลือกรับงานเฉพาะช่วงเสาร์ - อาทิตย์ ซึ่งช่วงมัธยมฯ นี้เองเป็นครั้งแรกที่ทำให้ เมย์ มัสก์ ได้รู้จักกับ ‘เออร์โรล มัสก์’ (Errol Musk) พ่อของอีลอน มัสก์ ซึ่งเขาเป็นวิศวกรที่เก่งกาจคนหนึ่ง และเป็นที่รู้จักอย่างดีในวงการ

เมย์ มัสก์ เคยเข้าประกวด Miss South Africa ในปี 1969 ก่อนที่เธอจะเข้าสู่พิธีแต่งงานกับ เออร์โรล มัสก์ ในปี 1970 และมีลูกด้วยกัน 3 คน อีลอน มัสก์ เป็นพี่ชายคนโต คนกลางคือ คิมบาล มัสก์ และลูกสาวคนเล็กคือ ทอสกา มัสก์ แต่แล้วชีวิตรักระหว่างเมย์ มัสก์ กับ เออร์โรล มัสก์ ก็ต้องจบลงหลังแต่งงานกันได้ไม่ถึง 10 ปี

 

ให้อิสระเต็มที่

เมย์ มัสก์ ตัดสินใจรับเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนด้วยตัวเอง เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตอนอายุ 31 ปี บทความใน The Economist Natasha Loder เรื่อง How to Raise Entrepreneurial Kids ได้สัมภาษณ์เมย์ มัสก์ และวิธีการเลี้ยงลูกของเธอ ซึ่งค่อนข้างน่าสนใจ เพราะว่าเป็นการผสมผสานทั้งนิสัยและความเชื่อของเธอไว้ด้วยกัน

เมย์ มัสก์ พูดว่า “ฉันค่อนข้างให้อิสระกับลูก ๆ ไม่เข้าไปยุ่งหรือจัดตารางชีวิตให้กับพวกเขามากนัก และฉันมีเวลาโฟกัสกับงานของฉันได้เต็มที่ บางครั้งฉันก็ปล่อยให้ลูก ๆ เรียนรู้ชีวิตจริง ให้พวกเขาเข้ารับการฝึกอบรมการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่

วิธีสอนลูกของ ‘เมย์ มัสก์’ ถ่ายทอดนิสัยหลายอย่างจนเป็นตัวพ่ออย่าง ‘อีลอน มัสก์’

“อาจเป็นเพราะพวกเด็ก ๆ อาศัยอยู่ในแอฟริกา ซึ่งอยู่ในยุคที่แตกต่างจากตอนนี้ พวกเขาชอบที่จะเล่นกันเองและเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่างเช่น อีลอน มัสก์ เคยนำน้อง ๆ ช่วยกันสร้างจรวดที่บ้าน และก็ทำวัตถุระเบิดขึ้นมาเองที่บ้าน พวกเขายังเดินไปตามบ้านผู้นำเพื่อขายไข่อีสเตอร์ช่วงกลางคืน ซึ่งแอฟริกาเป็นประเทศที่ค่อนข้างอันตราย

“ฉันปฏิบัติต่อลูก ๆ ราวกับพวกเขาไม่ใช่เด็ก ไม่ดุ ไม่เตือน”

ในบทความดังกล่าวได้วิเคราะห์ด้วยว่า วิธีการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเมย์ มัสก์ ค่อนข้างให้อิสระ ไม่ตีกรอบ เป็นอิสรภาพในระดับที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะว่าเธอพร้อมจะรับความเสี่ยงนั้น เธอเลือกที่จะควบคุมให้น้อยที่สุด และพยายามไม่กำหนดความสนใจหรือกำหนดอนาคตของพวกเขา

นอกจากนี้ในบทความ How to Raise Entrepreneurial Kids ยังได้พูดถึงเรื่องราวของ อีลอน มัสก์ ช่วงวัยเด็กที่เขายังอยู่ในแอฟริกาใต้ เขาคือนักอ่านตัวยง ชอบอ่านทุกอย่าง ตั้งแต่การ์ตูน ไปถึงนวนิยาย Foundation (1951) ของไอแซก อาซิมอฟ ซึ่งจากหนังสือเล่มนี้ เขาได้เรียนรู้ว่า

“ต้องพยายามดำเนินการตามแนวทางที่มีแนวโน้มว่าจะยืดอายุอารยธรรม ลดโอกาสที่จะเกิดยุคมืด และลดระยะเวลาของยุคมืดให้ได้”

อีลอน มัสก์ มีความสนใจในเรื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ และมีความฝันที่อยากจะประดิษฐ์สิ่งที่เปลี่ยนโลกได้ ซึ่งช่วงนั้น อีลอน มัสก์ ได้เริ่มเขียนโปรแกรมแล้ว และตอนเขาอายุได้ 12 ปี ก็สามารถขายซอฟต์แวร์ตัวแรกได้ในราคา 500 ดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงที่พ่อแม่ของเขาหย่าร้างกัน เมื่อเขาอายุได้ 10 ขวบ มัสก์เริ่มสนใจคอมพิวเตอร์ เขามักจะฝันกลางวันเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์และเขาเรียนรู้วิธีการเขียนโปรแกรม เมื่ออายุได้ 12 ปี เขาขายซอฟต์แวร์ Blastar ตัวแรกของเขาได้สำเร็จ ในราคา 500 ดอลลาร์

เรื่องราวนี้สร้างความประทับใจและความเชื่อที่ว่า วิธีการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเมย์ มัสก์ พิสูจน์ได้ในบางครอบครัวว่าสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน หมายถึง เลี้ยงลูก ๆ ให้ได้ดีในความหมายของ เมย์ มัสก์

วิธีสอนลูกของ ‘เมย์ มัสก์’ ถ่ายทอดนิสัยหลายอย่างจนเป็นตัวพ่ออย่าง ‘อีลอน มัสก์’

 

ไอดอลทำงานหนัก

ด้วยความที่ เมย์ มัสก์ ต้องเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน เธอจึงเป็นคนที่ทำงานหนักคนหนึ่ง นอกจากงานเดินแบบที่เธออยู่ในวงการนี้มานาน เธอยังทำอาชีพอื่นควบคู่กันไปด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ที่ปรึกษาด้านโภชนาการ’ และ ‘เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยทำการวิจัยให้มหาวิทยาลัย Toronto’

“ฉันค่อนข้างชินกับการทำงานหนักอยู่แล้ว ฉันช่วยพ่อตอนเด็ก ๆ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ฉันเลยไม่รู้สึกผิดอะไรที่ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะลูก ๆ ของฉันก็เรียนรู้เกี่ยวกับงานตั้งแต่เด็กเหมือนกัน

“ฉันทำงานหนักเพื่อพวกเขา เพื่อบ้าน เพื่ออาหาร หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ฉันโชคดีที่มีลูก ๆ ดี พวกเขาช่วยทำงานพาร์ตไทม์หาเงินเข้าบ้าน จนกระทั่ง อีลอน มัสก์ เรียนจบปริญญาตรี และได้เปิดบริษัทของตัวเองชื่อว่า Zip2 ซึ่งตอนนั้นก็ถือว่าฐานะที่บ้านดีขึ้นเรื่อย ๆ”

เมย์ มัสก์ ยังพูดด้วยว่า “ฉันสอนพวกเขาถึงความสำคัญของการทำงานหนัก ฉันไม่เคยบอกพวกเขาว่าจะเรียนอะไร ฉันไม่เคยตรวจการบ้านของพวกเขา นั่นคือความรับผิดชอบของพวกเขาที่ต้องดูแลตัวเอง และเป็นคนที่ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”

ชอบประโยคหนึ่งที่ เมย์ มัสก์ พูดว่า “ตอนที่พวกเขาเข้ามหาวิทยาลัย พวกเขาอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างยากจน ที่นอนบนพื้น เพื่อนร่วมห้อง 6 คน หรือบ้านเช่าที่ค่อนข้างทรุดโทรม แต่พวกเขาก็สบายดี ถ้าคุณไม่ฝึกลูกของคุณให้ชินกับความไม่ฟุ่มเฟือย พวกเขาจะสามารถอยู่รอดกับทุกสถานการณ์ ปรับตัวได้ดี”

คำแนะนำจากเมย์ มัสก์ ถือว่าน่าสนใจทีเดียว หากดูจากความสำเร็จของลูก ๆ ของเธอ ไม่ใช่แค่ อีลอน มัสก์ แต่ลูกชายคนกลางและลูกสาวก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน คีย์หลัก ๆ เลยคือ ปล่อยให้ลูก ๆ ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง และรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ ทำให้พวกเขาคิดเองให้ได้ว่าจริงๆ แล้วต้องการอะไร

เรื่องราวแรงบันดาลใจบางทีก็มาจากคนใกล้ตัว หรือเรียนรู้จากผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนที่ประสบความสำเร็จก็ได้ เหมือนกรณีนี้ที่เราศึกษาวิธีคิดและชีวิตของ เมย์ มัสก์ ซึ่งทุกวันนี้เธอยังโลดแล่นอยู่ในวงการนางแบบแม้จะมีอายุ 75 ปีแล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน ตัวพ่ออย่าง อีลอน มัสก์ ที่เราเห็นเขาปั่นโลกโซเชียลฯ เกือบทุกวัน เชื่อเหลือเกินว่ามีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่ในความสุดโต่งนั้น และมันก็ทำงานได้ดีในโลกธุรกิจ ดูได้จากอันดับมหาเศรษฐีของโลกที่มีชื่อ อีลอน มัสก์ อยู่ทุกครั้งไป

 

ภาพ : Getty Images

อ้างอิง :

CNBC

Clevertykes

People

Khairulabubakar