แอนดรูว์ ควาน : นักปราบผีฮ่องกงที่ไม่ได้ขับไล่ แต่ทำงานกับความรู้สึกและตัวตนของวิญญาณ

• ในสายตาของคนบางกลุ่ม วิญญาณคือตัวแทนของความชั่วร้าย
• ด้วยความเชื่อส่วนบุคคลของคนแต่ละกลุ่ม ทำให้คนล่าผีหรือนักปราบผีกลายเป็นอาชีพสำคัญในการรับหน้าที่ขจัดความโชคร้ายให้
• แอนดรูว์ ควาน ไม่ได้ไล่ผี แต่ใช้วิธีประนีประนอม ทำงานกับความรู้สึกและตัวตนของวิญญาณเพื่อคลายความทุกข์ ความกังวล ของผู้คนให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

/บทความนี้มีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน/

ในแถบทวีปเอเชีย ไม่ได้มีเพียงแค่คนที่นับถือศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม หรือพราหมณ์-ฮินดู แต่บางคนเลือกที่จะนับถือผี หรือลัทธิที่เกิดขึ้นจากตัวบุคคล

จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าหลาย ๆ ประเทศจะเชื่อเรื่องไสยศาสตร์หรือสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ขณะเดียวกันก็มีคนบางกลุ่มที่มองว่า ผีหรือวิญญาณคือสิ่งชั่วร้าย แล้วคนที่จะช่วยปัดเป่าความโชคร้ายเหล่านี้ออกไปจากชีวิตได้ คือ คนล่าผี หรือ นักปราบผี ซึ่งมีอาชีพเหล่านี้อยู่ในทั่วโลก

ถ้าประเทศไทยมีหมอผีชื่อดังหลายคนที่ทำงานเพื่อขจัดความโชคร้าย เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คอยดูฮวงจุ้ย หรือแม้แต่งานประเภทที่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลอย่างการปราบวิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ในคนใกล้ตัว

ในฮ่องกงก็มี ‘แอนดรูว์ ควาน’ (Andrew Kwan) ซินแส หมอดู และมือปราบผี

แอนดรูว์ ให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post เนื้อหาในรายงานมีส่วนที่เขากล่าวอ้างว่า มักจะสัมผัสถึงวิญญาณหรือสิ่งที่มองไม่เห็นจากการที่หลอดไฟติด ๆ ดับ ๆ เสียงชักโครกที่ดังขึ้นเอง หรือโทรทัศน์ที่เปิดเองกลางดึก 

แต่ถ้าย้อนดูชีวิตวัยเด็กแล้ว เขาเชื่อว่าประสาทสัมผัสที่ 6 ของเขาได้รับอิทธิพลมาจากครอบครัว โดยเฉพาะคุณตาที่เป็นหมอดูในวัดแห่งหนึ่งของฮ่องกง

วิธีล่าผีของแอนดรูว์ ไม่ใช่การสวดมนต์เพื่อขับไล่วิญญาณหรือใช้วิธีการรุนแรง แต่เขาเลือกที่จะทำงานและสร้างความสนิทสนมกับวิญญาณเหล่านั้นผ่านหลักคิดของนิกายลิ่วเหริน (六壬) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิเต๋าที่เชื่อมั่นในการควบคุมความคิดวิญญาณให้สงบ ไม่ว้าวุ่น

“ศาสนาอื่นบอกว่า วิญญาณหรือผีไม่ควรมีอยู่ เลยจำเป็นต้องขับไล่หรือทำลาย แต่ผมใช้ลิ่วเหรินเซียนชือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิเต๋า และยังเป็นวิธีการที่เราเลือกจะประนีประนอมกับสิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านั้น” แอนดรูว์ อธิบายวิธีทำงาน

“ผมเคยมีลูกค้าที่ได้ยินเสียงและเหมือนถูกมอง พอเขาโทรฯ หาผม ผมเห็นชายจีนคนหนึ่งที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ และกำลังขอความช่วยเหลือจากเธอที่อยู่ปลายสาย ผมจึงให้ลูกค้าหลับตา เธอบอกว่าเห็นชายชรายิ้ม ขอบคุณ แล้วจากไป”

ขณะเดียวกัน แอนดรูว์ ก็บอกเหตุผลถึงการเลือกเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นตอนศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ยว่า สำหรับเขา สิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของงานล่าผี

“ตอนที่ผมเริ่มเรียนฮวงจุ้ย ผมมีโอกาสไปดูบ้านหลายหลัง หลาย ๆ คนจะบ่นว่า บางส่วนของบ้านทำให้พวกเขารู้สึกแย่หรือไม่สบายใจ แต่ถ้าสิ่งนั้นมีตัวตนขึ้นมา ผมจะต้องรู้วิธีในการจัดการมัน”

คนล่าผีชาวฮ่องกงยกตัวอย่างการทำงานที่ผ่านมาของเขา โดยเล่าเรื่องประสบการณ์ที่เขาอ้างว่าถูกวิญญาณจากไทยเข้าร่างจนแสดงออกผ่านการกระทำและแผลตามร่างกาย

“ผมเคยมีลูกค้าที่เคยไปร้านนวดในประเทศไทย พอกลับมาถึงฮ่องกง เขารู้สึกไม่สบาย หมอก็ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เขาเริ่มแกะผิวตัวเอง แล้วมาให้ผมช่วย ผมเห็นว่าอาจถูกคำสาปที่รุนแรงจากประเทศไทย หลังจากถอนคำสาปออก แผลตามร่างกายก็เริ่มจางไป แต่ลูกค้ายังรู้สึกไม่สบายอยู่ดี อาจเป็นเพราะเขาโดนคนรักจากชาติที่แล้วตามหลอกหลอน”

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน ตำนานนักปราบผี สามีภรรยาผู้เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาลภาพยนตร์ The Conjuring

ถ้าเปรียบเทียบกับลูกค้าผู้หญิงคนก่อนหน้าที่จะเจอชายชรา เคสนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่แอนดรูว์รับมือยากกว่า แต่เขาก็ขอให้ลูกค้าสวดภาวนาทุกวัน พอผ่านไประยะหนึ่งทุกอย่างก็ดีขึ้น

“ผมคิดว่าสองกรณีของชายชรากับอดีตคนรักจากชาติที่แล้วในบ้านที่ถูกใครบางคนจับตามองไม่เหมือนกัน เพราะเราคงนึกไม่ออกว่าวิญญาณเหล่านั้นกำลังเจออะไร สำหรับผม บ้านอาจไม่ได้หมายถึงสถานที่ แต่หมายถึงบุคคลที่เชื่อมโยงกันได้ บางครั้งการสวมวิญญาณไปยังบุคคลหรือสถานที่ใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ยากกว่าการจะไปหลอกคนอื่น”

ถึงจะล่าผีมาแล้วนักต่อนัก แต่แอนดรูว์ มองว่าหน้าที่ของนักล่าผีทำงานไม่ต่างจากพระหรือนักจิตวิทยาที่เป็นเหมือนที่ปรึกษาแล้วช่วยคลายความกังวลให้กับคนได้

“ปกติแล้วถ้าใครบอกว่ากำลังคุยกับพระพุทธเจ้าหรือเจ้าแม่กวนอิม เราก็จะเข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่การหลอกหลอน แต่หลายคนก็ไม่กล้าบอก เหมือนกับจิตเวชศาสตร์ เราจะทำตามแค่สิ่งที่ลูกค้าบอกเท่านั้น เพราะหน้าที่ของเราคือการช่วยคลายความกังวลให้ได้”

“เหตุผลที่ลูกค้าเลือกเรา เพราะเขาลองใช้วิธีเดิม ๆ ทุกอย่างแล้ว แต่เขายังถูกหลอกอยู่ดี สิ่งที่เราทำอย่างน้อยเขาก็จะมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น”

แม้จะเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้ แต่บางครั้งท่ามกลางความกังวลในจิตใจ เราแค่ต้องการใครสักคนที่รับฟังและช่วยเราแก้ปัญหาให้ทุกอย่างดีขึ้น ถึงสิ่งนั้นจะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ก็ตาม

 

เรื่อง: ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ภาพ: ภาพประกอบเนื้อหา ไฟล์จาก Getty Images

อ้างอิง:

South China Morning Post

tinyatdragon