27 ก.ค. 2566 | 14:30 น.
การเสียสละอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย อาจเป็นภาระอันหนักอึ้งของใครหลายคน โดยเฉพาะการ ‘สละ’ ให้กับคนที่เราไม่รู้จัก มีเพียงแค่สายสัมพันธ์เล็ก ๆ ระหว่างกัน นั่นคือ การเป็นมนุษย์
แต่เพราะความเป็นมนุษย์นี่เองที่ทำให้ ‘เอ็ดดี้ แมคคาร์ธี’ (Eddie McCarthy) คุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียน Whitmer High School รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจบริจาคไตให้กับ ‘โรมัน แมคคอร์มิค’ (Roman McCormick) นักเรียนชั้นมัธยมต้นของเขาโดยไม่ลังเลใจ แถมยังไม่บอกใครให้รู้อีกต่างหาก รู้ตัวอีกที ครอบครัวแมคคอร์มิคก็ได้รับข่าวว่ามีผู้บริจาคไตที่สามารถเข้ากันได้เป็นที่เรียบร้อย
“ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ผมคิดว่าผมเห็นข่าวการขอรับบริจาคไตจากเฟซบุ๊กหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ จนเพื่อนของผมเขาส่งข้อความมาหาประมาณว่า ‘เฮ้ นี่นักเรียนโรงเรียนของนายนี่!’ วันรุ่งขึ้นผมก็เลยลองไปตรวจร่างกายดูว่าพอจะช่วยอะไรนักเรียนของผมได้มั้ย”
‘โรมัน แมคคอร์มิค’ อายุเพียง 15 ปีแต่ร่างกายของเขากลับทรุดโทรมลงทุกขณะ แม้จะรู้ตัวดีว่าตัวเองเกิดมาพร้อมโรค branchiootorenal หรือ BOR ซึ่งเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก และส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของคอ (Branchio-) หู (Oto-) และไต (Renal)
“ผมไม่สามารถกินอาหารเหมือนกับคนทั่วไปได้ ผมไม่มีแรงทำกิจกรรมเหมือนเด็กคนอื่น เพราะไตของผมนับวันมันยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ และรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลาถึงจะไม่ได้ทำอะไรหนักเท่าคนอื่น”
‘เจมี เรดด์’ (Jamie Redd) แม่ของแมคคอร์มิคอธิบายเพิ่มเติมว่า ทุกคนสามารถมี B,O หรือ R ได้ แต่สำหรับโรมันเขามีปัญหาตรง B และ R ตอนอายุหกเดือนเขาก็ผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติของหูไปแล้ว แต่ตอนนี้ไตของเขากำลังกลายเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ร่างกายลูกชายอ่อนแอลงเรื่อย ๆ และมันทำให้โรมันกลายเป็นผู้ป่วยโรคไตระยะที่ 4 แพทย์เตือนว่าเขาจะต้องเข้ารับการฟอกไต หากยังไม่สามารถหาผู้บริจาคไตได้
พ่อและแม่ของแมคคอร์มิคไม่รอช้า พวกเขาขอให้ The Monroe News สำนักข่าวท้องถิ่นในเมืองมอนโร รัฐมิชิแกน ช่วยกระจายข่าวหาผู้บริจาคไตให้กับลูกชาย โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นไตจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น
“เราหาผู้บริจาคไตให้กับโรมันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เพราะเราต้องหาผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณหมอบอกว่าไตจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตจะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าผู้บริจาคที่เสียชีวิตไปแล้ว”
และแล้ววันที่ครอบครัวแมคคอร์มิครอคอยก็มาถึง หลังจาก เอ็ดดี้ แมคคาร์ธี คุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ อ่านเจอข่าวของลูกศิษย์ในเฟซบุ๊กเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าช่วงแรกเขาจะไม่ได้คิดจะบริจาคอย่างจริงจัง และปล่อยเวลาให้ผ่านไปราวห้าเดือน กระทั่งเพื่อนของเขาส่งข่าวมาให้อ่านอีกรอบ เช้าวันต่อมาแมคคาร์ธี ในฐานะคุณครูและคุณพ่อลูกสอง จึงตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลตรวจสุขภาพเพื่อหาความเข้ากันได้ของไต
“ผมแค่ไปตรวจดู เพราะอยากลองดูก็เท่านั้นไม่ได้คิดว่า ผมจะต้องบริจาคไตให้ได้ ซึ่งมันได้ผลนะ ผมสามารถบริจาคไตได้ เราสองคนเข้ากันได้ดีเลยล่ะ”
แน่นอนว่านี่คือ ‘การเสียสละ’ อันยิ่งใหญ่เท่าที่ครูคนหนึ่งจะทำให้ลูกศิษย์ได้ แม้การเลือกเส้นทางนี้จะเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับบางคน แต่เพราะ ‘การบริจาคไต’ ของเขา ทำให้ชีวิตร่วงโรยของเด็กวัย 15 กลับมาสดใสอีกครั้ง
“หลังจากเรารู้ว่าจะมีคนบริจาคไตให้ลูกชายของเรา มันเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน ราวกับว่าทุกอย่างกำลังจะผ่านไปได้ด้วยดี มันมีความหมายต่อเรามากจริง ๆ ขอบคุณครูเอ็ดดี้มาก ๆ ที่ช่วยชีวิตลูกชายเราไว้
“คุณเป็นครูที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก จนฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี”
ช่วงแรกครูเอ็ดดี้ยังเป็นผู้บริจาคนิรนาม เขาไม่อยากให้ครอบครัวแมคคอร์มิครับรู้ อาจเป็นเพราะเขาเป็นครูที่เคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้กับโรมัน ไม่ก็เขาไม่อยากได้รับความสนใจจากสื่อ แต่สุดท้ายแล้วครอบครัวแมคคอร์มิคก็รบเร้าขอให้โรงพยาบาลเปิดเผยชื่อผู้บริจาค เพราะเขาเชื่อว่าคนที่ทำความดีสมควรได้รับการยกย่อง
การผ่าตัดเกิดขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมิชิแกน ทุกอย่างผ่านไปได้อย่างราบรื่น แม้จะต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกระยะกว่าร่างกายของทั้งคู่จะกลับมาปกติ
เรื่องราวของครูเอ็ดดี้ทำให้เห็นแล้วว่าโลกสวยงามเพียงใด และผู้ใหญ่บางคนก็อาจจะต้องยอมเสียสละบางอย่าง เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ที่ยังมีชีวิตอยู่อีกยืนยาว ก็ได้แต่หวังว่าชีวิตของเด็กหนุ่มคนนี้จะเติบโตต่อไปอย่างงดงาม
ภาพ: Courtesy of Washington Local Schools
อ้างอิง
https://nypost.com/2023/07/17/teacher-shocks-family-with-secret-plan-to-donate-kidney-to-student/