25 ม.ค. 2567 | 22:54 น.
Dr. CBD บริษัทที่ต้องการยกระดับสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานโลก เพื่อดูแลสุขภาพองค์รวมของคนในประเทศ ด้วยเวชศาสตร์เชิงรุก กับ ‘คุณต๊อบ - พรชัย ปัทมินทร’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง
แม้จะเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทได้เพียง 2 ปี แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า บริษัท ดร.ซีบีดี จำกัด เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่มุ่งจริงจังในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพรไทย ไม่ว่าจะเป็นกัญชา กัญชง และกระท่อม ควบคู่ไปกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ด้วยปณิธานสูงสุดคือ การทำให้ทุกคนได้ประจักษ์ว่า สมุนไพรไทยมีดี ไม่แพ้ยาตัวใดบนโลก
ในระยะเวลาเพียง 2 ปี Dr. CBD ได้ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพออกมามากมาย จนได้เครื่องหมายรับรองอาหารและยา (อย.) แล้วกว่า 30 รายการ โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่สุขภาพกาย เช่น การลดการอักเสบ และการช่วยเรื่องการนอนหลับ, สุขภาพทางใจ สามารถคลายความกังวล ตลอดจนผลิตภัณฑ์ความงาม และคลินิกบริการทางการแพทย์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Dr. CBD มีกัญชง กัญชา และกระท่อม เป็นพระเอก
เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัท เริ่มต้นมาจากความสนใจส่วนตัว บวกกับการศึกษาข้อมูลอย่างเข้มข้น จนกลายเป็นความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ของคุณต๊อบ - พรชัย ปัทมินทร ที่ตัดสินใจเบนเข็มชีวิตของตัวเองจากผู้บริหารนักการเงินการธนาคาร สู่เจ้าของบริษัทสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
จากนักการธนาคาร สู่เจ้าของธุรกิจด้านสุขภาพและสมุนไพร
“ผมต้องการออกแบบชีวิตของตัวเองที่เหลือ”
คุณต๊อบ - พรชัย ปัทมินทร บอกกับเราด้วยสายตาที่มุ่งมั่น เมื่อถูกถามว่า ทำไมถึงเลือกที่จะทิ้งตำแหน่งผู้บริหารเบอร์ต้น ๆ ของธนาคารข้ามชาติที่ทำมาเกือบ 30 ปี แล้วกระโจนเข้ามาเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเองในวัยเกือบ 50 ปี
แต่เมื่อถามว่าทำไมต้องเป็นธุรกิจด้านสุขภาพและสมุนไพร คุณต๊อบได้เล่าย้อนไปเมื่อ 19 ปีก่อน เมื่อคุณต๊อบพบว่า ลูกชายมีปัญหาสุขภาพติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด คุณต๊อบในฐานะคุณพ่อจึงทำทุกวิถีทาง รวมถึงได้ศึกษาการรักษาศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งแผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกหลากหลายแขนง จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ยิ่งได้หาข้อมูลลงลึกเข้าไป ก็พบว่าในต่างประเทศมีงานวิจัยที่สนับสนุนการรักษาแบบทางเลือกมากมาย ซึ่งทำให้การแพทย์ทางเลือกในต่างประเทศนั้นได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือไม่น้อยไปกว่าการแพทย์แผนปัจจุบัน และเหนือไปกว่านั้น งานวิจัยหลายชิ้นยังชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า แพทย์ทางเลือกที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เป็นแนวทางที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับสุขภาวะในระยะยาว
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว คุณต๊อบได้เกิดแรงบันดาลใจอันแรงกล้า และต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงการสาธารณสุขไทย โดยการใช้สมุนไพรไทย อย่างกัญชง กัญชา และกระท่อม เป็นเครื่องมือ ในการส่งเสริมการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ก่อนที่จะเจ็บป่วย (Preventive Medicine) ซึ่งคุณต๊อบเห็นว่า หากสมุนไพรไทยเรามีงานวิจัยที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ และมีมาตรฐานที่ทัดเทียมระดับโลก ก็สามารถเป็นแสงสว่างของปัญหาสุขภาพได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน ไม่ต่างจากการรักษาทางเลือกของต่างประเทศ
และมากไปกว่านั้น ถ้าสร้างมาตรฐานระดับสากลให้กับสมุนไพรไทยที่เป็นพืชพื้นถิ่นของไทยได้แล้ว คนไทยทุกคนจะสามารถเข้าถึงยาจากสารสกัดธรรมชาติที่ยั่งยืนและปลอดภัยได้อย่างทั่วถึงได้ไม่ยาก สุดท้ายสิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งประชากรที่มีสุขภาพที่สมบูรณ์ และเป็นเรี่ยวแรงในการขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไป
จุดเริ่มต้นของการเดินทางทั้งหมดนี้ จึงได้ก่อเกิดเป็นความตั้งใจอันแรงกล้าของ Dr. CBD
เป็นเจ้าแรก ๆ ในตลาด ไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อครั้งยังทำงานธนาคาร คุณต๊อบได้ร่วมงานกับผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจหลายอุตสาหกรรม ประสบการณ์ชิ้นนี้ทำให้คุณต๊อบมีสายตากว้างไกล มองเห็นภาพกว้างและโอกาสทางธุรกิจที่กำลังจะมาถึง โดยคุณต๊อบได้เริ่มศึกษางานวิจัยอย่างจริงจัง ก่อนที่ประเทศไทยจะเปิดกว้างทางกฎหมายเกี่ยวกับกัญชง กัญชา และกระท่อมเสียอีก ทำให้เมื่อไทยปลดล็อกแล้ว Dr. CBD จึงมีความพร้อมมากกว่าคนอื่น
เมื่อมีต้นแบบจากศาสตร์การรักษาทางเลือกของตะวันตกที่มีงานวิจัยรองรับแน่นเอี้ยด ทำให้สิ่งแรกที่คุณต๊อบทุ่มเทช่วงตั้งไข่ของ Dr. CBD คือ การวิจัยและพัฒนา (R&D) ไม่ว่าจะเป็นด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการ องค์ความรู้ กฎหมาย - ใบอนุญาต การสื่อสารกับตลาด ตลอดจนทรัพยากรคน อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทย แต่ละอย่างที่ต้องบุกเบิกล้วนไม่ใช่เรื่องง่าย
“ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่มีอุปสรรค ทั้งการสร้างทีม การขอใบอนุญาตต่าง ๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จนได้มาตรฐานที่ต้องการ ไปจนถึงการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางขายในห้างร้านเพื่อเข้าถึงผู้คน แต่ทุก ๆ อุปสรรคมีคำตอบของตัวเองให้เราได้เรียนรู้ และช่วยให้เราเดินต่อได้อย่างมั่นคง”
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ก็เป็นอีกหนึ่งในความท้าทายของ Dr. CBD เนื่องจากสารสกัดสมุนไพรของผลิตภัณฑ์มีภาพลักษณ์ที่ไม่ใช่แค่ศูนย์ แต่ติดลบเลยก็ว่าได้ ซึ่งนี่เป็นการบ้านชิ้นโตของคุณต๊อบ โดย Dr. CBD ได้แก้ไขเรื่องนี้ด้วยการใช้ ‘การสื่อสาร’ เป็นเครื่องมือ เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้อง ผ่านทุกช่องทาง รวมไปถึงพนักงานขายที่เป็นหน้าด่านในการดูแลลูกค้า แต่สิ่งที่คุณต๊อบพบว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของโจทย์ข้อนี้ก็คือ ข้อมูลที่มาจากประสบการณ์ตรงของตัวลูกค้าเอง
“เราเรียนรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือกลุ่มลูกค้าที่ออกมาพูดแทนเรา ว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นดีอย่างไร ได้ผลอย่างไร และแนะนำกันต่อไป ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังกว่าการให้เราหรือพนักงานของเราออกไปพูดเอง”
เสริมจุดแข็งภายใน และโอบรับโอกาสที่กำลังเข้ามา
แม้จะเป็นช่วงเริ่มต้นของการเดินทางไกลของ Dr. CBD แต่หากได้มองให้ลึกลงไป จะเห็นได้ว่าธุรกิจของ Dr. CBD นั้น มีองค์ประกอบแข็งแกร่งที่คิดมาแล้วอย่างดี ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ที่ต่างส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างกลมกล่อมลงตัว
สำหรับความแข็งแกร่งภายในของ Dr. CBD เริ่มต้นมาจากความตั้งใจจริงและการทำรีเสิร์ชของคุณต๊อบเอง ที่ทำให้มองเห็นภาพและแนวทางขององค์กรได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยคุณต๊อบได้กำหนดทิศทางให้ Dr. CBD โฟกัสด้านโภชนเภสัช (Nutraceuticals) และ เวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) ที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้บริโภคและวงการสาธารณสุขทั่วโลก ซึ่งความรู้และการคิดวิเคราะห์อย่างถ่องแท้ของคุณต๊อบนี่เอง ที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งภายในด้านอื่น ๆ ให้ Dr. CBD ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและได้รับใบอนุญาตมากถึง 30 รายการ การวางรากฐานด้าน R&D ที่ทำให้ Dr. CBD มีนวัตกรรมล้ำหน้าทันสมัย กลยุทธ์ทางการตลาดและการขาย ตลอดจนการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ที่คุณต๊อบให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ
คุณต๊อบบอกกับเราว่า ตอนนี้ Dr. CBD มีพนักงานราวร้อยกว่าคน และทุกคนมาจากความตั้งใจคัดเลือกด้วยตัวคุณต๊อบเองทั้งหมด เพราะสำหรับคุณต๊อบแล้ว พนักงานทุกคนเป็นครอบครัว เมื่อได้เข้ามาทำงานที่นี่ นอกจากทักษะและความรู้ความสามารถแล้ว พนักงานทุกคนมีแพสชันเดียวกับจุดมุ่งหมายขององค์กร ทำงานร่วมกันเป็นทีม แต่ขณะเดียวกันก็มีความเป็นมืออาชีพด้วย
ส่วนปัจจัยภายนอกที่ช่วยส่งเสริม คือ โอกาสทางกฎหมาย ที่เป็นจังหวะที่ประเทศไทยได้ปลดล็อกกัญชา กัญชง กระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติดเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ Dr. CBD เป็นผู้เล่นในตลาดรายแรก ๆ ด้วยอัตราการแข่งขันที่ต่ำ (Blue Ocean) แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้นหลังจากตลาดเติบโตแล้ว ซึ่งคุณต๊อบเองก็เล็งเห็นว่า สิ่งที่ Dr. CBD ต้องโฟกัสช่วงนี้ คือการเข้าถึงลูกค้าและยืนระยะได้ก่อนที่ตลาดในบ้านเราจะกลายเป็น Red Ocean (ตลาดที่มีผู้เล่นในตลาดมาก และการแข่งขันสูง)
มากไปกว่านั้น ยังมีเรื่องเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรง ที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย (Preventive Medicine) กันมากขึ้น และกระแส ‘ออร์แกนิก’ ที่คนหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติมากกว่าสารเคมีสังเคราะห์ อีกทั้งการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเราอีกด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเอื้อให้ Dr. CBD เติบโตได้อย่างงดงาม ซึ่ง Dr. CBD ก็สามารถสร้างผลงานโดดเด่น จนได้รับรางวัล Premium Herbal Products จากกระทรวงสาธารณสุขถึง 9 รายการ และยังได้รับการยอมรับจากคู่ค้าหลายรายให้วางจำหน่ายสินค้า ทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด, ออนไลน์ และการขายผ่านคู่ค้าที่เป็นเจ้าตลาดกลุ่มโภชนเภสัช อาหารเสริม และเครื่องสำอางอีกด้วย
หมุดหมายในอนาคต ไม่หยุดเรียนรู้
จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 2 ปี ที่คุณต๊อบได้พา Dr. CBD ออกเดินทาง เบื้องหน้าเราอาจเห็นว่า Dr. CBD มีผลิตภัณฑ์สุขภาพมากมาย ทั้งยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ตลอดจนคลินิก ที่เป็นบริการทางการแพทย์ แต่เบื้องหลังคือการมุ่งเน้นทำงานวิจัยและพัฒนา, การปลูกและสกัดอย่างมีมาตรฐานที่ทาง Dr. CBD ดูแลเองทั้งหมด และทีมงานการตลาดที่ทำงานกันอย่างหนัก
ส่วนเป้าหมายในอนาคตอันใกล้นี้ คุณต๊อบมองเห็นว่า
“เรามีโจทย์เรื่องการเข้าถึงผู้บริโภคอย่างเต็มประสิทธิภาพ และการ Scale (ขยายตลาด) ในตลาดบ้านเรา ก่อนที่จะขยับไปในตลาดต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป โดยศักยภาพแล้ว เราวางแผนว่า เราสามารถเป็นผู้นำในภูมิภาคได้”
อ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า Dr. CBD เริ่มต้นจากความสนใจที่แท้จริงของคุณต๊อบ ผู้ที่ไม่ได้ปล่อยให้มันเป็นแค่ความชอบที่ล่องลอย แต่คุณต๊อบลงมือนำความสนใจมาปั้นขึ้นรูป กลายเป็น Dr. CBD อีกทั้งยังกล้าลุยกับอุปสรรคต่าง ๆ อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อที่ Dr. CBD จะเป็นเครื่องมือให้คนไทย ได้มีทางเลือกในการรักษาสุขภาพอย่างยั่งยืน
แม้วันนี้ Dr. CBD จะมีทั้งสินค้าและบริการออกมามากมายแล้ว แต่ภายใต้การนำทัพของคุณต๊อบ - พรชัย ปัทมินทร Dr. CBD ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และยังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนใหม่ ๆ ออกมาให้เราได้เลือกใช้อีกอย่างแน่นอน