“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

แม้จะมีแถลงการณ์ออกมาว่า ‘แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์’ อยู่ในระหว่างการพักฟื้นพระวรกายจากการผ่าตัด แต่ชาวโซเชียลก็ยังพากันวิเคราะห์และตั้งทฤษฎีสมคบคิดอยู่ในขณะนี้

KEY

POINTS

  • แถลงการณ์ระบุว่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์น่าจะทรงปฏิบัติพระกรณียกิจได้หลังเทศกาลอีสเตอร์ไปแล้ว นั่นก็คือช่วงเดือนเมษายน แต่หลังจากนั้นชาวโซเชียลทั้งใน TikTok และใน X ต่างก็พากันวิเคราะห์ไปต่าง ๆ นานา 
  • ความพยายามในการบรรเทาความอยากรู้อยากเห็นของประชาชนด้วยภาพถ่ายของเจ้าหญิงแห่งเวลส์กลับยิ่งเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ

แม้จะเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ ‘แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์’ แต่สำหรับคนจำนวนมาก หญิงสาวคนนี้คือ ‘เคต มิดเดิลตัน’ สามัญชนชาวอังกฤษที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายวิลเลียม และได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จากความสง่างามหากแต่เข้าถึงง่าย 

เมื่อครั้งที่ราชวงศ์อังกฤษเผชิญเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ กรณีที่เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนให้สัมภาษณ์กับ ‘โอปราห์ วินฟรีย์’ เจ้าชายวิลเลียมกับเคตก็จับมือกันฝ่ามรสุม ทั้งสองเสด็จไปทุกหนทุกแห่งด้วยกัน ทั้งเยี่ยมชมโบสต์เวสต์มินสเตอร์เพื่อฉลองวันครบรอบพิธีเสกสมรส, พาพระโอรส - พระธิดาไปเที่ยวในฟาร์ม, เล่นฟุตบอล และเป็นเจ้าภาพจัดงานชมภาพยนตร์แบบ drive-in 

ในเวลานั้น รูปถ่ายของครอบครัวเวลส์ที่เต็มไปด้วยความสุขปรากฏขึ้นมากมาย และหลายคนสังเกตเห็นว่าเจ้าชายวิลเลียมกับพระชายาแสดงความรักออกสื่อมากขึ้น เห็นได้ชัดตอนที่ทั้งคู่เสด็จไปยังมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรก เจ้าชายวิลเลียมถึงกับวางมือบนหลังของเคตด้วยความเสน่หา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่ค่อยได้เห็นจากองค์รัชทายาทผู้สมบูรณ์แบบ 

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

‘แคลร์ แมคฮิวจ์’ นักประวัติศาสตร์ราชวงศ์ ให้สัมภาษณ์กับ ‘Business Insider’ ว่า เจ้าชายวิลเลียมและเคตได้ปรับสไตล์ของตัวเอง หลังการสัมภาษณ์ของเจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน

“พวกเขาตระหนักดีว่าหากไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาก็จะถูกคู่รักในแคลิฟอร์เนียบดบัง พวกเขาจึงต้องแสดงตัว มีการปล่อยภาพยนตร์วันครบรอบ มียูทูบ และทำเรื่องตลก ๆ ขึ้นมา มันเป็นโลกใหม่” แมคฮิวจ์กล่าว 

เมื่อวันดีคืนดี คู่รักที่เปรียบได้ดัง ‘เดอะแบก’ ของราชวงศ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เกิดมีเรื่องไม่ชอบมาพากลจนนักสืบโซเชียลต้องทำงานหนัก เรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นสั่นสะเทือนในอังกฤษ  

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?”

เคต หรือแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งสุดท้ายในวันคริสต์มาส ปี 2023 ระหว่างเสด็จไปยังโบสถ์เซนต์แมรี ในเมืองแซนดริงแฮม นอร์ฟอล์ก พร้อมกับเจ้าชายวิลเลียม พระโอรสและพระธิดาทั้งสาม 

ครั้งนั้นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ซึ่งเป็นเสื้อคลุมสีน้ำเงินยาว พร้อมหมวกทรงเก๋สีเดียวกัน โดยรวมพระองค์ดูมีพระพลานามัยแข็งแรงดี แทบไม่มีข้อบ่งชี้ว่าอีก 2 สัปดาห์พระองค์จะต้องเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาล 

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

วันที่ 17 มกราคม 2024 พระราชวังเคนซิงตันออกแถลงการณ์ว่า แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระชนมายุ 42 พรรษา พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงเข้ารับการผ่าตัดช่องท้อง เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2024 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ซึ่งการผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี และเจ้าหญิงแห่งเวลส์จะประทับอยู่ในโรงพยาบาล 10 – 14 วัน ก่อนจะเสด็จกลับไปพักฟื้นพระวรกายที่พระตำหนักต่อไป 

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

แม้แถลงการณ์ฉบับนี้จะระบุด้วยว่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์น่าจะทรงปฏิบัติพระกรณียกิจได้หลังเทศกาลอีสเตอร์ไปแล้ว นั่นก็คือช่วงเดือนเมษายน แต่หลังจากนั้นชาวโซเชียลทั้งใน TikTok และใน X ต่างก็พากันวิเคราะห์ไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์ผ่าตัดเอามดลูกออก บ้างก็ว่าเป็นการผ่าตัดเปิดทวารเทียม บ้างก็ว่าพระองค์อาการโคม่า หรือไม่ก็เล่นมุขตลกกันว่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์ต้องรอให้ผมม้ายาวก่อนจึงจะปรากฏตัว ฯลฯ

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ข่าวลือเลยเถิดไปมากนั้น เป็นเพราะในเวลาไล่เลี่ยกัน พระราชวังบักกิงแฮมได้ออกแถลงการณ์ว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง หลังจากที่แพทย์ตรวจพบความผิดปกติระหว่างทรงเข้ารับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต 

“พระองค์ทรงเลือกที่จะแบ่งปันผลการวินิจฉัยของพระองค์เพื่อป้องกันการคาดเดา และหวังว่าจะช่วยให้สาธารณชนเข้าใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งทั่วโลก” 

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

เห็นได้ชัดว่าแถลงการณ์จากพระราชวังบักกิงแฮมนั้น ‘ชัดเจน’ และ ‘ตรงไปตรง’ มากกว่าฝั่งพระราชวังเคนซิงตัน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วจึงไม่แปลกที่ประชาชนจะกระหายใคร่รู้ว่า แล้วเจ้าหญิงแห่งเวลส์หล่ะ? ทรงพระประชวรด้วยโรคอะไรกัน? หนักหนาขนาดไหนถึงกับไม่แจ้งให้ประชาชนรับรู้?

‘คริสเตน ไมน์เซอร์’ นักวิจารณ์ราชวงศ์ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่า “มันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากข้อความที่มาจากห้องทำงานของกษัตริย์ชาร์ลส์ ทุกวันนี้กษัตริย์ชาร์ลส์ดูเหมือนเป็นมนุษย์มากกว่าวิลเลียมและเคตเสียอีก”

แล้วภายในไม่ถึง 1 สัปดาห์ กษัตริย์ชาร์ลส์ก็เสด็จไปโบสถ์กับพระราชินีคามิลลา โบกพระหัตถ์ให้ประชาชน มีพยานหลายร้อยคนที่เห็นว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

ตัดมาที่เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ล่วงเลยไป 2 เดือน สื่อต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง TMZ สื่อบันเทิงชื่อดังในสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพจากปาปารัสซี ที่เป็นภาพของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ประทับบนรถยนต์ที่มีมารดาเป็นคนขับ แต่บางคนก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่สวมแว่นตาสีดำนั้นคือเคต พวกเขาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นอาจเป็น ‘พิพพา’ น้องสาวที่หน้าตาคล้ายกับเคตมากกว่า

ต่อมาในวันที่ 6 มีนาคม ‘แกรี โกลด์สมิธ’ น้าของเคต เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ ‘Celebrity Big Brother’ แล้วถูกถามกลางรายการว่า “เคต อยู่ที่ไหน” ซึ่งเจ้าตัวตอบเพียงว่า “ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้” และออกตัวว่า “ยังมีจรรยาบรรณอยู่บ้าง” ก่อนจะพูดด้วยว่า “หากมีการประกาศ ผมจะบอกคุณ” 

ภาพถ่ายเจ้าปัญหา

ในขณะที่ผู้คนพากันควานหาจิ๊กซอว์อย่างจ้าละหวั่นเพื่อสืบเสาะให้ได้ว่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์หายไปไหน วันที่ 10 มีนาคม พระราชวังเคนซิงตันได้เผยแพร่ภาพทางการของเจ้าหญิงแห่งเวลส์เนื่องในวันแม่ เป็นภาพขณะพระองค์ประทับบนเก้าอี้ รายล้อมด้วยพระโอรส - พระธิดาทั้งสาม 

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

ทว่าความพยายามในการบรรเทาความอยากรู้อยากเห็นของประชาชนด้วยภาพถ่ายนี้กลับยิ่งเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาสื่อใหญ่ระดับโลกทั้ง AP, AFP, Reuters, Getty Image และ PA พากันลบภาพนี้ออกจากระบบ หลังตรวจสอบพบว่า มีการแต่งภาพพระหัตถ์ซ้ายของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์กับแขนเสื้อจนไม่ได้สัดส่วน รวมถึงยังมีอีกหลายจุดที่น่าสงสัย เช่น เวลาบนภาพถ่าย และต้นไม้ในฉากหลัง ไหนจะที่มีคนสังเกตว่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์ไม่ได้สวมแหวนแต่งงานอีก

วันรุ่งขึ้นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงออกมาขอโทษผ่าน X เป็นข้อความว่า “ก็เหมือนกับช่างภาพสมัครเล่นหลายคน บางครั้งข้าพเจ้าก็ทดลองแต่งภาพ ข้าพเจ้าอยากแสดงความขอโทษต่อความสับสนที่เกิดขึ้นจากภาพครอบครัวที่เผยแพร่ออกไปเมื่อวานนี้” 

แฟนราชวงศ์อังกฤษและผู้เชี่ยวชาญต่างพากันเอามือทาบอกด้วยความตกใจ เมื่อเห็นการขอโทษผ่านโซเชียลมีเดียของเคต แทนที่จะเป็นคำแถลงร่วมของพระราชวังเคนซิงตัน

“สถาบันใหญ่ขนาดนี้และระดับสากลขนาดนี้ ปกติแล้วจะออกแถลงการณ์ที่ไม่ทำเหมือนโยนหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดลงไปใต้ท้องรถบัส ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่พวกเขาเลือกที่จะแขวนเคตแบบนั้น” ไมน์เซอร์กล่าว

เหตุการณ์นี้ยังได้ทำลายความเชื่อใจระหว่างสื่อกับราชวงศ์อังกฤษอย่างยับเยิน อย่างสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งอังกฤษที่ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้พระราชวังเคนซิงตันตรวจสอบภาพต้นฉบับอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องทำนองนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่เว้นแม้แต่ เดอะ เดลีเมล์ ที่ปกติจะอยู่เคียงข้างราชวงศ์อังกฤษมาตลอด ก็เริ่มตั้งคำถามถึงการไม่ปรากฏพระองค์ของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ผ่านพาดหัวข่าวที่เขียนว่า “ความคุ้มคลั่งที่มีต่อประเด็นเกี่ยวกับเคต พิสูจน์ให้เห็นว่าราชวงศ์ต้องโปร่งใสมากขึ้น” 

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

ข้อสังเกตเรื่องการสื่อสารจากพระราชวังเคนซิงตัน 

ตลอดช่วงที่เกิดประเด็นว่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์หายไปไหน พบว่าแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากพระราชวังเคนซิงตัน ซึ่งเป็นที่ประทับและสำนักงานของเจ้าชายวิลเลียมกับเคต เกิดความ “ไม่คงเส้นคงวา” ขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์ตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้วพระราชวังจะไม่สนองตอบต่อข่าวลือเกี่ยวกับราชวงศ์ แต่ครั้งนี้พระราชวังเคนซิงตันกลับสนองตอบด้วยการเผยแพร่ภาพของเคตออกมา แต่ดันกลายเป็นภาพที่มีการแต่งภาพ หนำซ้ำยังไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าตอนนี้พระองค์อยู่ที่ไหน

‘มาร์ก บอร์โกสกี’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารในภาวะวิกฤต ให้สัมภาษณ์ People ว่า ความนิ่งเงียบที่ราชวงศ์อังกฤษยึดถือมายาวนาน ไม่ได้ช่วยอะไรเลยในแง่การสกัดทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเคต 

“ปัญหาตอนนี้คือมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเคต และการเผยแพร่ภาพที่ถูกลงความเห็นว่าปลอม ยิ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความระส่ำระส่ายและการตัดสินใจผิดพลาดที่เกิดขึ้น” 

ขณะที่ไมน์เนอร์แนะนำว่า “ผู้คนต่างเข้าใจว่าการกลับมาจากผ่าตัดอาจเป็นเรื่องยาก แต่เสน่ห์อย่างหนึ่งของเคตคือการเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย และติดดิน แล้วทำไมถึงต้องถอยห่างจากกลยุทธ์เหล่านี้ล่ะ?”

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เพราะถึงจะมีคนที่เรียกร้องอยากทราบความเป็นไปของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ แต่ก็ยังมีคนอีกส่วนที่อยากมอบความเป็นส่วนตัวให้พระองค์และสมาชิกราชวงศ์คนอื่น ๆ 

หนึ่งในนั้นคือ ‘เจมส์ โรบินสัน’ ผู้ก่อตั้งบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร ‘Woburn Partners’ ซึ่งมองว่า “เมื่อเป็นปัญหาด้านสุขภาพ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย เพราะพระองค์ไม่ใช่ประมุขแห่งรัฐ ประชาชนจะได้รับทราบข้อมูลมากขึ้นเอง เมื่อพระองค์ทรงกลับมาปฏิบัติพระกรณียกิจอย่างเป็นทางการ”

“แคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ หายไปไหน?” ประเด็นร้อนในอังกฤษที่นำมาสู่ทฤษฎีสมคบคิด

ทั้งความสับสนอลหม่าน ทฤษฎีสมคบคิด มุขตลก ซึ่งเกิดขึ้นราวกับเมฆหมอกที่ปกคลุมพระราชวังเคนซิงตันและครอบครัวเวลส์ ไม่ว่าท้ายที่สุดจะลงเอยอย่างไร เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวิธีที่ผู้คนมองราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งต้องตั้งรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อเข้าสู่ยุคหลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง 

อัพเดตข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2024 (ตามเวลาประเทศไทย) ว่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงยอมรับผ่านคลิปวิดีโอแถลงการณ์ว่า พระองค์ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็ง และอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการรักษาด้วยเคมีบำบัด

โดยคณะแพทย์ตรวจพบว่าพระองค์ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง หลังจากการผ่าตัดใหญ่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงแห่งเวลส์ตรัสว่า พระองค์สบายดีและแข็งแรงขึ้นทุกวัน หลังจากผ่านช่วงเวลา 2 - 3 เดือนแห่งความยากลำบาก และพระองค์ได้ทรงใช้เวลาในการอธิบายให้เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ล็อต และเจ้าชายหลุยส์ ทรงเข้าใจแล้ว พร้อมกับทรงให้ความมั่นใจกับพระโอรสและพระธิดาว่า พระองค์จะทรงสบายดี

“ข้าพเจ้าสบายดี และข้าพเจ้าจะแข็งแรงขึ้นทุกวัน ด้วยการโฟกัสกับสิ่งที่จะช่วยข้าพเจ้าในการรักษา ในจิตใจ ในร่างกาย และในจิตวิญญาณ”

เจ้าหญิงแห่งเวลส์ยังทรงหวังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าพระองค์ทรงต้องการเวลา พื้นที่ และความเป็นส่วนตัว ในช่วงระหว่างรับการรักษา 

ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็งของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ แต่พระราชวังเคนซิงตันยืนยันว่า พระองค์กำลังจะฟื้นตัวเต็มที่

 

เรื่อง : พาฝัน ศรีเริงหล้า

ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก The Royal Family 

อ้างอิง :

The Princess of Wales controversy has only gotten worse

Where Is Kate Middleton? What We Know So Far

Princess Kate has been the popular face of the royal family. What now?

Kate Middleton and Prince William's united front fell apart