05 ก.พ. 2563 | 17:49 น.
ควันหลงจากเกมซูเปอร์โบว์ล 54 (แข่งปี 2020 - กองบรรณาธิการ) ที่ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ พลิกกลับมาชนะ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส 31-20 นอกจากจะเป็นเกมที่ แพทริค มาโฮมส์ (Patrick Mahomes II) ควอเตอร์แบ็กของชีฟส์ โชว์บิ๊กเพลย์สุดมหัศจรรย์พาทีมคว้าแชมป์ในรอบ 50 ปีแล้ว อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่กลายเป็นคลิปไวรัลเรียกเสียงฮาไปทั่วโลกออนไลน์ คือคลิปของชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ถูกถ่ายขณะนั่งหลับอ้าปากหวอในท่าไขว่ห้าง ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับเกมสุดมัน ซึ่งหลายคนที่ได้ดูคลิปวิดีโอนี้ต่างพากันงงว่า นี่พี่แกต้องรวยเบอร์ไหนถึงมาหลับในงานแบบนี้ได้?
คลิปดังกล่าวบันทึกโดย คาริซ่า แมกซ์เวลล์ นักข่าว/โปรดิวเซอร์ จาก Sporting News ที่กำลังประจำการอยู่ข้างสนาม และเหลือบไปเห็นชายคนนี้กำลังนอนหลับสู่ขิตสุด ๆ เธอจึงไม่รอช้าถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นและโพสต์ลงทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมแคปชั่นว่า
“อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้กำลังหลับในงานซูเปอร์โบว์ล ซึ่งนี่มันแค่ควอเตอร์แรกเท่านั้นนะ”
ซึ่งหลังจากคลิปถูกเผยแพร่ไม่กี่นาที คนก็พากันแห่มารีทวีต พร้อมกับนำภาพของชายคนนี้ไปทำเป็นมีมและตั้งสโลแกนให้เขาว่าเป็น “ชายผู้ซื้อตั๋วมาหลับแพงที่สุดในโลก”
พอจบครึ่งแรก แมกซ์เวลล์ ก็สวมวิญญาณนักข่าวเข้าชาร์จตัวชายคนนี้ พร้อมกับยิงคำถามใส่เจ้าตัวประมาณว่า “นี่พี่ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนคะ?”
แต่สุดท้ายชายคนดังกล่าวที่ดูเหมือนไม่พอใจเท่าไหร่ก็ปิดประตูสายเผือก ตอบปฏิเสธที่จะคุยกับนักข่าวสาวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ท้ายที่สุดมีการเปิดเผยว่าชายผู้นั่งเฝ้าพระอินทร์ในเกมดังกล่าวมีชื่อว่า ดีแคลน เคลลี่ (Declan Kelly) ที่ปรึกษาด้านการลงทุนชื่อดัง ซึ่งเคยเป็นทูตพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประจำไอร์แลนด์เหนือ
เคลลี่ วัย 51 ปี เกิดที่เมืองเล็ก ๆ ในไอร์แลนด์อย่างพอร์โทรล เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไอร์แลนด์ในกัลเวย์ ซึ่งก่อนผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจ เขาเริ่มต้นอาชีพจากการเป็นนักข่าวสายกีฬาและธุรกิจให้กับหนังสือพิมพ์หลายหัวในไอร์แลนด์ อย่าง Nenagh Guardian, Tipperary Star และ Irish Examiner
ต่อมาในปี 1999 เขาหันมาทำธุรกิจส่วนตัวร่วมกับเพื่อนของเขาเป็นบริษัทด้านงานประชาสัมพันธ์ในชื่อ “Gallagher and Kelly Public Relations” ก่อนจะขายบริษัทให้กับบริษัท Financial Dynamics (FD) ด้วยมูลค่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเคลลี่ก็รับหน้าที่เป็นประธานและซีอีโอของบริษัทอีกด้วย
เคลลี่ต้องย้ายสำมะโนครัวมาอยู่แดนลุงแซมเต็มตัวในปี 2004 หลัง FD ควบรวมกิจการกับ FTI Consulting บริษัทให้คำปรึกษาสำหรับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งหน้าที่ของเคลลี่ในตอนนั้นคือการขัดเงาภาพลักษณ์ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายอย่าง GE, Coke หรือ Dell
นอกจากนี้ สายงานของเคลลี่ยังทำให้เขามีโอกาสได้รู้จักและใกล้ชิดกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ หลายคน ที่สำคัญคือมันทำให้เขาไปรู้จักกับคู่สามีภรรยาที่ชื่อว่า “บิลล์ และ ฮิลลารี คลินตัน”
เคลลี่สนิมสนมกับทั้งคู่เป็นอย่างมาก และเป็นที่รู้กันดีว่าเขาคือหนึ่งในนักระดมทุนคนสำคัญที่ช่วยฮิลลารีลุยศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดี อีกทั้งในช่วงที่ฮิลลารีดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมื่อปี 2009-2011 เคลลี่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประจำไอร์แลนด์เหนือ เพื่อดูแลเรื่องเศรษฐกิจโดยเฉพาะ ซึ่งระยะเวลาสามปีที่ทำหน้าดังกล่าว เคลลี่ฝากผลงานได้ไม่เลว
เขาสร้างช่องทางให้คนประกอบอาชีพใหม่ ๆ ได้ร่วมร้อยอาชีพ และแง้มประตูให้บริษัทสหรัฐฯ อย่าง Seagate, Dow Chemical, GE Energy หรือ the New York Stock Exchange สามารถเข้ามาลงทุนในไอร์แลนด์เหนือได้คล่องตัวขึ้น
หลังทำเป้าหมายของตัวเองลุล่วงแล้ว ก็ถึงเวลาที่เขาจะเดินไปข้างหน้า เคลลี่กลับมาที่สหรัฐฯ และเปิดบริษัทที่ปรึกษาผู้บริหารระดับนานาชาติภายใต้ชื่อว่า Teneo ที่ดึงคนในสายเดโมแครตมาร่วมทำงานด้วยมากมาย เช่น ฮูมา อเบดิน มือขวาคนสนิทของ ฮิลลารี และลองเดาสิว่าช่วงแรก เคลลี่เชิญใครมาเป็นประธานบริหารกิตติมศักดิ์ คำตอบก็คือ บิลล์ คลินตัน
รู้หรือไม่? ตั๋วการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลมีราคาเฉลี่ยสูงถึง 7,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 200,000 บาท และเมื่อพิจารณาจากจุดที่เคลลี่นั่งชมเกมในสนามฮาร์ดร็อก สเตเดียม ก็สามารถสันนิษฐานคราว ๆ ได้ว่า ที่นั่งของเขาน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเคลลี่เสียเงินมาเอง หรือได้บัตรมาจากลูกค้ารายสำคัญของเขาอย่าง Coke ที่ในซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้มีคิวปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่
แม้สื่อพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์เคลลี่ขนาดไหน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวดูจะไม่พอใจที่ถูกถ่ายคลิปนั่งสัปหงกแบบนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกเสียหน้าเล็ก ๆ
“ถ้าเกิดดีแคลน (เคลลี่) อยากให้ความสำคัญกับลูกค้ามากกว่านี้ เขาก็ควรจะอดทนไม่หลับให้ถึงช่วงพักครึ่งหน่อยก็ยังดี...” สื่อแอบแซวเจ้าตัวอย่างขำ ๆ
อย่างไรก็ตาม เคลลี่น่าจะเป็นชายคนแรกในประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบว์ลที่หลับตั้งแต่เริ่มคิกออฟ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืนก่อนนั้นพี่แกไปทำอะไรมาถึงได้สลบไสลขนาดนี้...
อ้างอิง: