‘แดน เบิร์น’ ประกาศศักดา อัจฉริยะ 9 นิ้ว นักเตะสไตล์อังกฤษพันธุ์แท้

‘แดน เบิร์น’ ประกาศศักดา อัจฉริยะ 9 นิ้ว นักเตะสไตล์อังกฤษพันธุ์แท้

‘แดน เบิร์น’ อัจฉริยะ 9 นิ้ว กองหลังจอมโหด ผู้พาสาลิกาดงคว้าแชมป์คาราบาวคัพ และก้าวสู่ทีมชาติอังกฤษในวัย 32 ปี

KEY

POINTS

  • นักเตะอังกฤษพันธุ์แท้ ทีเด็ดลูกโหม่งที่ทำให้แดน เบิร์น กลายเป็นกองหลังที่น่าเกรงขาม 
  • เด็กฝึกหัดนิวคาสเซิลสู่การกลับมาเป็นฮีโร่พาทีมรักคว้าแชมป์ 
  • กองหลัง 9 นิ้ว กับเรื่องราวชีวิตที่ไม่ยอมแพ้อุปสรรค
     

แม้ว่าวันสุดท้ายของการเซ็นสัญญา ‘แดน เบิร์น’ จาก ‘ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เอฟ.ซี.’ ไม่ได้ทำให้แฟนพันธุ์แท้ ‘นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด’ ตื่นเต้นเหมือนกับที่ได้ตัว บรูโน่ กิมาเรส, เคียแรน ทริปเปียร์ หรือ คริส วู้ด แต่ลึก ๆ แล้วแฟนสาลิกาดงรู้ดีว่า การได้ แดน เบิร์น มีความสำคัญอย่างไร 

ด้วยประสบการณ์ และความเก่งกาจในการเล่นทั้ง เซ็นเตอร์แบ็ค และฟูลแบ็ค และความเข้าใจในแท็คติกที่ยอดเยี่ยม นักเตะวัย 32 ปีรายนี้ สร้างความประทับใจอย่างยิ่งนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมนกสาลิกาด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ 

จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ไบรท์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ ‘เกรแฮม พอตเตอร์’ ซึ่งเขากลายเป็น ‘สตอปเปอร์’ ที่น่าเกรงขามในพรีเมียร์ลีก ทำให้ แดน เบิร์น เข้าสู่ทีมของ ‘เอ็ดดี้ ฮาว’ อย่างราบรื่นยิ่งนัก 

ด้วยเบสิคฟุตบอลที่ดี และสไตล์การเล่นแบบนักเตะอังกฤษขนานแท้ ทำให้เขาเต็มไปด้วยข้อดีสำหรับเจ้าของสโมสร ‘นิวคาสเซิล’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างกายที่กำยำคือความโดดเด่นที่สุดของเขา ส่งผลถึงความแข็งแกร่งของ แดน เบิร์น ในการดวลทั้งภาคพื้นดิน และในอากาศ 

ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ สายตาการอ่านเกมที่เฉียบคม และตื่นตัวต่อการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ตลอดเวลา ทำให้เขาสามารถเข้าประกบคู่แข่งได้อย่างถูกที่ถูกเวลา 

ในขณะที่ ‘ลูกโหม่ง’ ดูเหมือนจะเป็นจุดเด่นที่สุดของแดน เบิร์น เขาเอาชนะคู่ต่อสู้ในการดวล 1 ต่อ 1 ทุกครั้ง ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ ขณะเดียวกันก็มีความเร็วไม่แพ้เหล่ากองหน้าที่แคล่วคล่องว่องไว ด้วยความสูงกว่า 2 เมตร การกระโดดขึ้นชิงบอลกลางอากาศกลายเป็นเรื่องที่เด็กอนุบาลยังต้องวางใจ 
 

อีกทั้งการบุกจู่โจม และโต้กลับ รวมถึงการเข้าปะทะ หรือการเคลียร์บอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ลูกตั้งเตะ’ ไม่ว่าจะเตะมุม หรือฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แดน เบิร์น จะไปถึงพื้นที่สุดท้าย หรือพื้นที่เป้าหมายในการทำประตู และสามารถโหม่งลูกฟุตบอลเข้าประตูได้เสมอ ไหนจะ ‘การวิ่งซ้อน’ หรือการปิดพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย หรือคอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม อย่างเช่นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่อาจจะผิดพลาดในบางจังหวะ 

สิ่งเหล่านี้ แดน เบิร์น สามารถจัดการทุกสิ่งทุกอย่างได้อยู่หมัด ดังนั้น พลพรรค ‘เดอะ แม็กพายส์’ (ชื่อเล่นของสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด) จึงได้ผู้นำที่สำคัญ 

“แดน ยังเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดี แม้เขาจะเป็นคนที่สงบเสงี่ยม แต่ก็สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้ดี ที่สำคัญคือมีความเป็นผู้นำที่สูงมาก” เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิล พูดถึงแดน เบิร์น

‘อัจฉริยะ 9 นิ้ว’ ฉายานี้ไม่ใช่ความสูงของแดน เบิร์น เพราะเขาสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว (210 เซ็นติเมตร) ในนัดชิงคาราบาวคัพ เขาได้แสดงบทบาทสำคัญทั้งเกมรุก และเกมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นไปโหม่งทำประตูขึ้นนำลิเวอร์พูล ที่ต้องยอมรับว่า แดน เบิร์น คือหัวใจสำคัญอย่างแท้จริง เพราะลูกโด่งที่สาดขึ้นมาจากกองหลังและกองหลางหงส์แดงเมื่อคืนนี้ แดน เบิร์น เป็นคนชิงโหม่งกลับ และโหม่งชงไปให้เพื่อนร่วมทีมนิวคาสเซิลได้ 100% 

นอกจาก แดน เบิร์น จะยืนหยัดและปักหลักในพื้นที่ที่รับผิดชอบของเขา คือแดนหลังของสาลิกาดง ทว่าเมื่อยามทีมได้เล่นเกมบุก ทั้งแบบโต้กลับ และแบบลูกตั้งเตะทุกรูปแบบ แดน เบิร์น จะไปป้วนเปี้ยนแถวหน้าประตูลิเวอร์พูลเสมอ จนนำไปสู่ประตูแรกที่สวยสดงดงามยิ่งนัก 
 

แม้ว่าก่อนหน้านัดชิงคาราบาวคัพจะเริ่มต้นขึ้น แดน เบิร์น จะถูก ‘โทมัส ทูเคิล’ นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษคนใหม่เรียกเข้าสู่ทำเนียบสิงโตคำรามเป็นที่เรียบร้อย ทว่าผลงานการคว้าแชมป์ลีกคัพครั้งล่าสุดดังกล่าว เสมือนการตอกย้ำว่าผู้จัดการทีมชาติอังกฤษตัดสินใจถูกต้องยิ่งนัก 

ในด้านชีวิตส่วนตัว หลายคนอาจไม่ทราบว่า แดน เบิร์น นั้น มีนิ้วมือเพียง 9 นิ้ว จากอุบัติเหตุตอนเด็ก 

แน่นอนว่า แดน เบิร์น เกิดมามีนิ้วครบทั้ง 10 นิ้ว แต่ได้สูญเสียนิ้วไปนิ้วหนึ่งจากอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่ออายุได้เพียง 13 ปีเท่านั้น 

ตอนนั้น แดน เบิร์น กำลังปีนรั้วโดยสวมแหวนที่นิ้วของเขา แต่แล้ว แหวนกลับไปเกี่ยวเข้ากับหนามแหลมบนรั้ว ส่งผลให้นิ้วนางข้างขวาของเขาขาดออกไปทั้งหมด แม้ว่า แดน เบิร์น จะไม่เคยพูดถึงเหตุการณ์นี้ในที่สาธารณะ แต่ดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องตลกในห้องแต่งตัวของสโมสรนิวคาสเซิลเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว 

เขาและเพื่อนร่วมทีมได้เล่าเรื่องชวนหัวตลกขบขันกับเรื่องโจ๊กเกี่ยวกับนิ้วที่หายไประหว่างเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของอาดิดาสในเยอรมนี ในตอนนั้น แดน เบิร์น, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ ซีน ลองสตาฟฟ์ ได้ลองสวมถุงมือผู้รักษาประตูซึ่งออกแบบมาให้มีความยาว 5 นิ้ว ขณะที่ทั้ง 3 คนสวมถุงมือ แต่แล้วจู่ ๆ ก็หัวเราะออกมา เพราะแดน เบิร์น ได้ขยับนิ้วที่สวมถุงมือสำรองไปมาในอากาศ 

อย่างไรก็ดี การไม่มีนิ้วหาได้ขัดขวางอาชีพนักฟุตบอลของ แดน เบิร์น ไม่ เนื่องจากกองหลังรายนี้กำลังอยู่ในช่วงพีคสุด ๆ ของการเล่นฟุตบอล เขามุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้แข็งแกร่งกับนิวคาสเซิลต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโควต้าพื้นที่ฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า ที่พลพรรคสาลิกาดงกำลังไล่ล่าเป็นเป้าหมายต่อไปหลังจากความสำเร็จในคาราบาวคัพเมื่อคืนนี้

แดน เบิร์น มีชื่อเต็มว่า ‘แดเนียล จอห์นสัน เบิร์น’ เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1992 ปัจจุบันอายุ 32 ปี เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เล่นในตำแหน่งกองหลัง ปัจจุบันสวมเสื้อหมายเลข 33 เล่นให้กับสโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

แฟนสาลิกาดงทราบดีว่า แดน เบิร์น เป็นแฟนนิวคาสเซิล ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งเขาก็ทำได้สมหวังที่ตั้งใจไว้ คือการผ่านการคัดเลือกเป็นนักเตะฝึกหัดกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งในตอนนั้นต้องบอกว่า แดน เบิร์น เป็นเด็กอัจฉริยะลูกหนังคนหนึ่งเลยทีเดียว ที่สามารถผ่านการเล่นในอคาเดมี่ของสาลิกา โดยหลังจากนั้น เขาได้ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรอื่น ๆ มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นนิว ฮาร์ทลี่ย์, บลายธ์ ทาวน์ และ บลายท์สปาร์ตัน สุดท้ายเจ้าตัวได้มาจบที่ดาร์ลิงตัน พร้อมกับการได้กล่าวขึ้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรนี้ 

โดย แดน เบิร์น ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสรดาร์ลิงตัน ในปี ค.ศ. 2009 จนถึงปี ค.ศ. 2011 ด้วยความที่เจ้าตัวยังเป็นเด็กดาวรุ่งอยู่ที่ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ จึงไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามสักเท่าไหร่ ได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 14 เกมเท่านั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกปล่อยไปให้กับสโมสร ‘ฟูแล่ม’ ในปี ค.ศ. 2011 
แต่หลังจากที่เซ็นสัญญา แดน เบิร์น กลับถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับ ‘เยโอวิล ทาวน์’ แล้วกลับมายังทีมสำรองของฟูแล่มที่แดน เบิร์น สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำไปถึง 2 ประตูกับการลงสนาม 34 เกม ก่อนที่ฤดูกาลต่อมาจะออกไปเก็บประสบการณ์อีกครั้งกับ ‘เบอร์มิงแฮม ซิตี้’ โดย แดน เบิร์น ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจนทำให้ต้นสังกัดต้องดึงตัวกลับมาร่วมทัพในปี ค.ศ. 2014 เจ้าตัวได้ลงสนามรับใช้ฟูแล่มไปทั้งหมด 61 เกมทำไปได้อีก 1 ประตู ก่อนที่จะโบกมือลาในปี ค.ศ. 2016 

ในปี ค.ศ. 2016 แดน เบิร์น ได้เซ็นสัญญาใหม่กับ ‘วีแกน แอธเลติก’ เป็นเวลา 3 ปี พร้อมกับการทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยทำได้ 6 ประตูกับการลงสนาม 87 เกม โดยในปี ค.ศ. 2018 เจ้าตัวต้องการหาความท้าทายใหม่อีกครั้งกับ ‘ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน’ ปี ค.ศ. 2018 แดน เบิร์น ได้ย้ายเข้าสู่ไบรท์ตัน ก่อนจะถูกปล่อยให้ ‘วีแกน’ ยืมตัวในฤดูกาล 2018 - 19 แต่ในช่วงนั้นเขาได้ลงสนามไปเพียง 14 เกมเท่านั้น และในฤดูกาล 2019 จนถึง 2022 ไบรท์ตันได้เรียกตัวกลับมา พร้อมกับการลงสนามไปมากถึง 74 เกมทำไปได้อีก 2 ประตู จนทำให้นิวคาสเซิลต้องการตัวไปร่วมทัพ 

แดน เบิร์น ได้ย้ายเข้าสู่รั้วนิวคาสเซิล เมื่อวันที่ 31 มกราคม ปี ค.ศ. 2022 ซึ่งเป็นสโมสรที่เขารักตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่า ด้วยประสบการณ์โชกโชน แดน เบิร์น ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัว และก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญของทีมได้ในที่สุด จนถึงปัจจุบัน แดน เบิร์น ลงสนามรับใช้สโมสรไปแล้วทั้งหมดถึง 60 เกม ทำไปอีก 2 ประตู พร้อมกับกลายเป็นกองหลังที่ทั้งกุนซือสโมสร และโค้ชทีมชาติไว้ใจเป็นอย่างสูง ก่อนจะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกคัพอังกฤษ หรือคาราบาวคัพได้เป็นผลสำเร็จ 

 

เรื่อง: ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน
ภาพ: Getty Images