คนกีฬา ตะลุยซีเกมส์: ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ นักแบดฯ ดาวรุ่ง มือ 1 เยาวชนโลก ผู้มาพร้อมความสดใส

• วงการแบดมินตันไทยเวลานี้มีนักแบดมินตันหญิงที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เธอคือ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักตบลูกขนไก่หญิงเดี่ยวคนล่าสุดที่สามารถขึ้นสู่มือวางอันดับที่ 1 ของโลกประเภทเยาวชนได้สำเร็จ
• ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ อาจไม่ได้ลงสนามในประเภทเดี่ยวมือ 3 ของทีมอีกครั้งแต่

ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชาระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม ถึง 17 พฤษภาคม เต็มไปด้วยประเด็นร้อนแรง โดยเฉพาะหัวข้อที่พูดถึงเจ้าภาพ นอกเหนือจากนั้น เรียกได้ว่ากระแสการแข่งซีเกมส์ครั้งนี้ที่มาพร้อมกับวาระเลือกตั้งใหญ่ของไทยในเดือนเดียวกันก็ร้อนแรงไม่แพ้กันเลย และแน่นอนว่า ในฐานะชาวไทย พวกเราย่อมต้องส่งแรงใจไปเชียร์พลพรรคนักกีฬาให้ประสบความสำเร็จกันอีกเช่นเคย 

ซีรีส์ Stories of the Month ของ The People ในเดือนพฤษภาคม จึงนำเสนอเรื่องราวของคนกีฬา ตะลุยซีเกมส์ โดยคัดเลือกนักกีฬาที่น่าจับตา หรือถูกพูดถึงในวงกว้างมานำเสนอเพื่อสะท้อนถึงความสำคัญของนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของประชาชนไปแข่งขันกีฬาเพื่อชื่อเสียงของประเทศ

‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ คือนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวคนล่าสุดที่สามารถขึ้นสู่มือวางอันดับที่ 1 ของโลกประเภทเยาวชนได้สำเร็จจากการประกาศของสหพันธ์แบดมินตันโลกหรือบีดับเบิลยูเอฟ (BWF) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2023 นอกจากนี้ เจ้าตัวยังคงรั้งเป็นมือวางอันดับที่ 52 ของโลกในประเภทหญิงเดี่ยว ณ ช่วงเวลาเดียวกัน

‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาแบดมินตัน สื่อมวลชน และโลกโซเชียลมีเดียเนื่องมาจากเจ้าตัวนั้นเป็นนักกีฬาที่มีความน่ารักสดใสตามวัยของตัวเองจนได้รับฉายาว่า ‘นักตบลูกขนไก่หน้าหวาน’ แต่เหนืออื่นใดนั้น ฝีไม้ลายมือของเจ้าตัวในสนามแข่งขันก็น่าสนใจเช่นกัน

บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับอีกด้านหนึ่งของ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารักสดใสเท่านั้น แต่ฝันในเส้นทางแบดมินตันของเธอก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

จุดเริ่มต้นจากคุณพ่อ โดยมี ‘เมย์’ รัชนกเป็นต้นแบบ

พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ หรือ ‘พิงค์’ เริ่มต้นเล่นกีฬาแบดมินตันตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบเท่านั้น โดยมีคุณพ่อ ‘พิพัฒน์ โอภาสนิพัทธ์’ เป็นผู้ฝึกสอนให้ในย่างก้าวแรกของการเข้าวงการลูกขนไก่ และเมื่อเจ้าตัวเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและมีความมมุ่งมั่นตั้งใจกับกีฬาชนิดนี้มากยิ่งขึ้น คุณพ่อของพิงค์ จึงตัดสินใจให้ ‘โค้ชตี๋’ เกษมศักดิ์ จตุจินดา อดีตนักแบดมินตันและโค้ชทีมชาติไทย รับหน้าที่พัฒนาศักยภาพของพิงค์ต่อ

จากนั้นพิงค์เองก็สามารถพัฒนาฝีมือและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนสามารถทำผลงานการแข่งขันระดับเยาวชนภายในประเทศได้อย่างน่าพอใจ ส่งผลให้เจ้าตัวได้เป็นหนึ่งในนักแบดมินตันโครงการฟาร์มมิ่งของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับตัวของพิงค์ในการออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น

พิงค์นั้นลงแข่งขันในประเภทหญิงเดี่ยวเป็นหลักและนักกีฬาในดวงใจของเจ้าตัวก็คือ ‘เมย์’ รัชนก อินทนนท์ ยอดนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวของประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายทั้งการคว้าแชมป์แบดมินตันชิงแชมป์โลกในระดับเยาวชนและระดับอาชีพมาครองได้สำเร็จ รวมทั้งการคว้าแชมป์ในรายการระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (BWF World Tour) อีกมากมาย ซึ่งพิงค์เองก็หวังที่จะสามารถทำผลงานได้อย่างไอดอลของเธอบ้าง

 

สร้างผลงานในระดับเยาวชนนานาชาติ

หลังจากทำผลงานระดับเยาวชนภายในประเทศได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เจ้าตัวก็เริ่มออกไปแข่งขันในระดับเยาวชนนานาชาติเพื่อเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ต่างออกไป พิงค์ได้เริ่มออกทำการแข่งขันในช่วง ปี 2018 ขณะที่อายุได้เพียง 11 ปี โดยรายการแรกก็คือการแข่งขันรายการเปมบังกูนัน จายา รายา จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ (Pembangunan Jaya Raya Junior Grand Prix) ที่ประเทศอินโดนีเซีย และพิงค์ ก็สามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศมาครองได้ โดยในรอบชิงชนะเลิศเจ้าตัวแพ้ให้กับ เอลลีน่า มาลาบี ยุลยาน่า นักกีฬาเจ้าถิ่นไปแบบน่าเสียดาย 1-2 เกม (21-19, 20-22, 20-22)

ความพ่ายแพ้แบบฉิวเฉียดดังกล่าวกลายเป็นเชื้อไฟให้เจ้าตัวมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ชนะในระดับเยาวชนนานาชาติให้ได้ พิงค์กลับมาฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าตัวก็เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซียอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรายการจาการ์ตา โอเพ่น จูเนียร์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปียนชิพ (Jakarta Open Junior International Championship)

และในครั้งนี้ผลจากความพยายามของเจ้าตัวก็ส่งผลลัพธ์ที่ดีเมื่อพิงค์สามารถคว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวมาครองได้สำเร็จ และตามต่อด้วยการคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวในรายการโยเน็กซ์ โคเรีย จูเนียร์ โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ (Yonex Korea Junior Open International Challenge) ที่ประเทศเกาหลีใต้มาครองได้อีกหนึ่งรายการนับเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์

 

เริ่มต้นสู่เส้นทางแบดมินตันอาชีพ

หลังจากที่ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันระดับเยาวชนนานาชาติมาครองได้ถึงสองรายการในปี 2018 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่ทุกคนต่างพอใจไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬา โค้ช และทางผู้สนับสนุน ดังนั้น ในฤดูกาลถัดไปทีมงานจึงวางแผนจะให้พิงค์ได้ลงทำการแข่งขันในระดับเยาวชนนานาชาติสลับกับการแข่งขันในระดับบีดับเบิลยูเอฟ คอนติเนนตัล เซอร์กิต (BWF Continental Circuit) ซึ่งเป็นรายการแข่งขันระดับเกรด 3 (Grade 3) เป็นระดับสำหรับเริ่มต้นและเตรียมความพร้อมของนักแบดมินตันที่จะไปเล่นในรายการระดับอาชีพเต็มตัวอย่างบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (BWF World Tour) ต่อไปในอนาคต

พิงค์เริ่มต้นการแข่งขันรายการระดับบีดับเบิลยูเอฟ คอนติเนนตัล เซอร์กิต ของฤดูกาล 2019 ในรายการเบียร์ ลาว อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ (Beer Lao International Series) และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 คนสุดท้ายก่อนจะไปพ่าย โฮ เยน มี่ ของมาเลเซียไปแบบสนุก จากนั้นก็ทำผลงานในรายการวิคเตอร์ มาเลเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ (Victor Malaysia International Series) และเมียนมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ (Myanmar International Series) ได้ด้วยการผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 คนสุดท้ายเช่นเดียวกัน

แม้ว่าพิงค์จะยังไม่สามารถทำผลงานไปได้ไกลมากกว่ารอบ 16 คนสุดท้ายของแต่ละรายการ แต่การเลื่อนขั้นขึ้นมาหาประสบการณ์ในระดับนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อเจ้าตัวเองในอนาคต

ด้านผลงานในระดับเยาวชนนานาชาติของพิงค์ในฤดูกาลดังกล่าว เจ้าตัวก็สามารถกลับไปคว้าแชมป์รายการเปมบังกูนัน จายา รายา จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศอินโดนีเซียได้สำเร็จหลังจากที่เคยเป็นรองแชมป์มาในฤดูกาลก่อนหน้านี้

 

คว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์

ในฤดูกาล 2022 ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ กลับมาลงแข่งขันในระดับนานาชาติแบบเต็มฤดูกาลอีกครั้งหลังจากที่ปี 2020-2021 นั้น การแข่งขันในรายการระดับเยาวชนนานาชาติและบีดับเบิลยูเอฟ คอนติเนนตัล เซอร์กิตหลายรายการไม่สามารถจัดการแข่งขันได้เนื่องมาจากการระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส โดยการกลับมาแข่งขันในปีนี้เจ้าตัวเริ่มต้นได้ไม่ดีนักเมื่อต้องตกควอเตอร์ไฟนอลหรือรอบ 8 คนสุดท้ายในรายการโยเน็กซ์ เอสโตเนียน อินเตอร์เนชั่นนอล (Yonex Estonian International) โดยสาเหตุที่ตกรอบนั้นก็เพราะว่าเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บบริเวณฝ่าเท้าจนต้องถอนตัวไปอย่างน่าเสียดาย

พิงค์กลับมาลงทำการแข่งขันอีกครั้งในรายการวิคเตอร์ สวีดิช โอเพ่น (Victor Swedish Open) ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับเกรด 3 เลเวล 2 (Grade 3 Level 2) แม้จะเป็นรายการเล็กแต่ก็เป็นรายการเก่าแก่ที่อยู่คู่กับวงการแบดมินตันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1956 โดยก่อนการแข่งขันในรายการนี้ พิงค์ อยู่อันดับที่ 456 ของโลก และเจ้าตัวก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อสามารถเอาชนะนักตบลูกขนไก่คนแล้วคนเล่าจนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยคู่ต่อสู้ของเจ้าตัวก็คือ ‘แครอท’ พรพิชชา เชยกีวงศ์ นักแบดมินตันเพื่อนร่วมชาติ มืออันดับ 565 ของโลกในขณะนั้น และผลการแข่งขันก็เป็นพิงค์ที่ทำได้ดีกว่าสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 เกม 16-21, 21-9, 21-16 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

“ขอแสดงความยินดีกับทางด้าน พิงค์ พิชฌามลณ์ ที่สามารถคว้าแชมป์ในรุ่นทั่วไปมาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในวัย 15 ปี ถือว่าเป็นนักกีฬาที่อยู่ในโครงการฟาร์มมิ่ง ของทางสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ซึ่ง พิงค์อยู่ในโครงการนี้มาเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว โดยอยู่ในสังกัดเกษมศักดิ์ แบดมินตัน อะคาเดมี่ และเดินทางไปแข่งต่างประเทศด้วยงบประมาณของทางสมาคมฯ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักแบดมินตันไทย พัฒนาการเล่นขึ้นมาอยู่ในระดับโลกในอนาคต”

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ กล่าวแสดงความยินดีกับ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ ที่สามารถคว้าแชมป์วิคเตอร์ สวีดิช โอเพ่น 2022 มาครองได้

 

ปีทองของ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์

หลังจาก ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ สามารถคว้าแชมป์รายการระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ มาครองได้เป็นครั้งแรก เจ้าตัวก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาฝีมือเพื่อก้าวไปยังการแข่งขันในรายการระดับใหญ่ขึ้น การคว้าแชมป์รายการวิคเตอร์ สวีดิช โอเพ่นมาครองได้นั้นเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าตัวเป็นอย่างมาก และเมื่อมีความมั่นใจบวกกับความมุ่งมั่นทุ่มเทจึงทำให้พิงค์สามารถพัฒนาฝีมือและผลงานในฤดูกาล 2022 ได้แบบก้าวกระโดดจนคว้าแชมป์รายการวิคเตอร์ เดนมาร์ก มาสเตอร์ (Victor Denmark Masters) รายการระดับบีดับเบิลยูเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ (BWF International Challenge) ซึ่งก็คือการแข่งขันระดับเกรด 3 เลเวล 1 (Grade 3 Level 1) มาครองได้อีกหนึ่งรายการในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2022

จากนั้นในช่วงปลายปี ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ มาฟอร์มร้อนแรงอีกครั้งเมื่อสามารถคว้าแชมป์รายการอัล ชารีฟ กรุ๊ป บาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล ชาเลนจ์ (Al Sharif Group Bahrain International Challenge) รายการระดับเกรด 3 เลเวล 1 มาครองได้ เป็นแชมป์รุ่นทั่วไปรายการที่ 3 ในปี 2022 โดยรอบชิงชนะเลิศ พิงค์ สามารถเอาชนะเอสเทอร์ นูรูมิ ตรี วาร์โดโย จากอินโดนเซียไปได้ 2-0 เกม 21–17, 21–16

เมื่อจบการแข่งขันในฤดูกาล 2022 ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ สามารถขยับอันดับโลกขึ้นมาสู่ท้อป 100 ได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวจบปี 2022 ที่อันดับ 81 ของโลก พร้อมกับการกวาดแชมป์ในระดับบีดับเบิลยูเอฟ คอนติเนนตัล เซอร์กิต ซึ่งเป็นรายการแข่งขันระดับเกรด 3 ไปครองได้ทั้งสิ้น 3 รายการ และทุกรายการที่พิงค์ได้แชมป์นั้นต้องลงแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือกทุกรายการ

 

เหรียญทองที่รอคอยการลงสนาม

ในเรื่องการรับใช้ชาตินั้น ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ ถูกเรียกติดทีมชาติไทยด้วยวัย 15 ปี ในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 31 ปี 2021 ที่มาจัดการแข่งขันกันในปี 2022 โดยเจ้าตัวลงแข่งขันในประเภททีมหญิงและถูกวางตัวให้เป็นเดี่ยวมือ 3 ในรอบชิงชนะเลิศกับทีมชาติอินโดนีเซีย แต่ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติอินโดนีเซียไป 3-0 เสียก่อนจึงไม่ต้องมาถึงมือของเจ้าตัว

และล่าสุดแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 32 ปี 2023 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พิงค์ถูกวางตัวเป็นเดี่ยวมือ 3 ของทีมอีกครั้งและก็ยังเป็นเช่นเดิมเมื่อทีมชาติไทยสามารถเอาชนะคู่แข่งทั้งทีมชาติสิงคโปร์และอินโดนีเซียไปก่อนที่เจ้าตัวจะได้แสดงฝีมือ แต่อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 เหรียญทองที่ ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ คว้ามาได้ร่วมกับทีมหญิงนั้นก็เป็นสิ่งนี่น่าภาคภูมิใจและเหมาะสมคู่ควรแล้วกับความมุ่งมั่นทุ่มเทของเจ้าตัว

ครับ นี่คือเรื่องราวของนักแบดมินตันหน้าวาน ‘พิงค์’ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ สาวน้อยวัย 16 ปีที่ตามหาความฝันจะเป็นนักแบดมินตันที่มีชื่อเสียงระดับโลก เรามาร่วมกันเป็นกำลังใจให้เจ้าตัวกันครับ

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง (เต้นคุง)

ภาพ: คมชัดลึก, pinkkk_opat/Instagram