วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยสายเลือดใหม่ : จุดเริ่มต้นและการฝ่าอุปสรรคสู่พลังทีมยุคใหม่

วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยสายเลือดใหม่ : จุดเริ่มต้นและการฝ่าอุปสรรคสู่พลังทีมยุคใหม่

วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเฉือนเอาชนะทีมชาติจีนไปได้อย่างระทึกใจ 3-2 เซต คว้าแชมป์ วอลเลย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ไปครองได้เป็นสมัยที่ 3 และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีนับเป็นความสำเร็จที่น่าจดจำและน่าประทับใจ กับการที่พลิกเกมกลับมาเอาชนะสาวจีน ไปได้เซตที่ 5 อย่างสุดยอด

  • ‘วอลเลย์บอลหญิง’ เป็นกีฬาที่คอกีฬาชาวไทยชื่นชอบและเชียร์เป็นจำนวนมาก 
  • ก่อนหน้านี้ในศึกเนชันส์ลีก 2023 ทีมนักตบสาวไทยทำผลงานไม่ดีนัก
  • การคว้าวอลเลย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2023 ในรอบ 10 ปี จึงเป็นความสำเร็จที่น่าจดจำของทีมนักตบสาวไทย

ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2023 กลับมาแข่งขันที่เมืองไทย เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ความสำเร็จของทีมลูกยางสาวไทย ในยุคของนักตบ 7 เซียน ที่สร้างเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ กับการคว้าแชมป์เอเชีย สมัยที่ 2 เมื่อปี 2013

แต่ถึงกระนั้นผลงานของทีมสาวไทยในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2 สมัยหลังสุด พวกเธอผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ทุกครั้ง ทว่ากลับพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติญี่ปุ่นไปทั้งในปี 2017 และ 2019 (2021 ไม่มีแข่งขันเนื่องจากโควิด-19)

ซึ่งการกลับมาแข่งขันชิงแชมป์เอเชียในเมืองไทยอีกครั้งนั้น เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะ และเป็นโอกาสที่ดี ที่ทีมสาวไทย จะทำผลงานให้ดีอีกครั้ง ท่ามกลางแฟน ๆ ลูกยางในโคราช

ทีมสาวไทย เริ่มต้นฤดูกาลปี 2023 ด้วยการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งทีมไทยเข้าสู่ปีที่ 2 อย่างเต็มตัวในการลงเล่นด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ หลังจากการอำลาทีมชาติของรุ่นพี่ ซึ่งปีนี้มีระยะเวลาในการเก็บตัวก่อนแข่งขันอาจจะไม่มาก รวมถึง 2 ตัวหลักทั้ง ‘อัจฉราพร คงยศ’ และ ‘ชัชชุอร โมกศรี’ ยังติดภารกิจแข่งขันในลีกประเทศตุรกี

ทว่าในการแข่งขันซีเกมส์ ทีมสาวไทยค่อนข้างที่จะเป็นต่อคู่แข่งหลาย ๆ ทีมอยู่พอควร ทำให้ในการแข่งขันที่กัมพูชา ผลงานของทีมออกมาเป็นไปได้อย่างสวยงาม แม้จะมีเกมหนืด ๆ ในรอบชิงชนะเลิศที่เจอกับเวียดนาม แต่สุดท้ายพวกเธอก็ยังเอาชนะไปได้ 3-1 เซต คว้าเหรียญทองไปครองเป็นสมัยที่ 16

ก่อนที่หลังจากนั้นทีมชาติไทยจะลงแข่งขันกันต่อเนื่องในศึกเนชันส์ ลีก (VNL) รายการที่สร้างชื่อให้กับพวกเธออย่างมากในการแข่งขันเมื่อปี 2022 รวมถึงในปีนี้ ทีมสาวไทยยังมีโอกาสได้ลงเล่นในบ้านที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่ติดปัญหาโควิด-19 และปัจจัยหลาย ๆ อย่าง

แต่ทว่า ผลงานของทีมในการแข่งขัน VNL ออกมาไม่ค่อยจะดีมากนัก สาวไทยเอาชนะคู่แข่งไปได้ 2 เกม ต่อแคนาดาและเกาหลี ในการแข่งขันสนามแรกที่ประเทศตุรกี

ส่วนในสนามที่ 2 ทีมไทย ต้องเดินทางต่อไปไกลถึงที่ประเทศบราซิล ซึ่งในสนามนี้ทีมไทยแพ้ให้กับคู่แข่งไปทั้งหมด 4 นัด รวมถึงยังมีเกมที่น่าเสียดายในการที่นำเซอร์เบีย 2-0 เซต ทว่าท้ายที่สุดกลับพ่ายไป 2-3 เซต รวมถึงการแพ้ให้กับโครเอเชีย ไป 0-3 เซต

และการกลับมาเล่นในบ้านที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เป็นงานที่หนักอย่างมาก ด้วยพวกเธอต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เนเธอร์แลนด์, ตุรกี, ญี่ปุ่น หรือแม้แต่บราซิล ซึ่งผลงานทั้ง 4 เกม สาวไทยแพ้ไปทั้งหมด ก่อนที่จะจบการแข่งขัน VNL ด้วยผลงานชนะ 2 แพ้ 10 รั้งอันดับ 14 จากทั้งหมด 16 ทีม

ผลงานใน VNL เป็นช่วงเวลาที่อาจจะทำให้ทีมสาวไทยถูกลดความมั่นใจในฟอร์มการเล่นอยู่พอสมควร รวมถึงได้รับเสียงวิจารณ์อยู่มาก เนื่องด้วยรายการนี้มีความสำคัญอย่างมากในการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก (FIVB World Rankings) เพื่อเป้าหมายในการคัดทีมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส

การที่ทีมแพ้คู่แข่งติดต่อกันถึง 8 นัด ทำให้คะแนนสะสมหล่นลงมาเยอะพอสมควร

และจากผลงานดังกล่าว ทำให้ทีมได้รับคำวิจารณ์อยู่มากว่า ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยนิ่ง และหลาย ๆ คนผลงานตกลงมาจากที่เคยทำได้ดีเมื่อปี 2022 ที่ผ่านเข้าไปถึงรอบสุดท้าย (Finals) แต่ในปีนี้ กลับคว้าชัยชนะไปได้เพียงแค่ 2 เกม

ซึ่งเมื่อจบศึก VNL ทีมสาวไทย มีเวลาได้พักเกือบ 1 เดือน ก่อนจะมีโปรแกรมแข่งขันต่อในรายการซี วีลีก (SEA VLeague) ที่มีชิงชัยกัน 2 สนาม ที่ประเทศเวียดนาม และจังหวัดเชียงใหม่

ในสนามแรกที่เวียดนาม ‘โค้ชด่วน-ดนัย ศรีวัชรเมธากุล’ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมได้ให้โอกาสนักกีฬาเข้ามาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก คือ ‘จิดาภา นาหัวหนอง’ ในตำแหน่งตัวรับอิสระ และยังให้ลงสนามแข่งขันสลับกับ ‘ปิยะนุช แป้นน้อย’ กัปตันทีม

ซึ่งใน ซี วีลีก 'โค้ชด่วน' ใช้เป็นเวทีในการทดลองระบบและตัวผู้เล่น เพราะในการแข่งขัน VNL ที่ผ่านมา ทีมไทย มีผู้เล่น 6 คนแรกที่ใช้อย่างสม่ำเสมอ ประกอบไปด้วย ‘พรพรรณ เกิดปราชญ์’, ‘ชัชชุอร โมกศรี’, ‘อัจฉราพร คงยศ’, ‘พิมพิชยา ก๊กรัมย์’, ‘ทัดดาว นึกแจ้ง’และ ‘หัตถยา บำรุงสุข’

แต่ผลงานในสนามอย่างที่กล่าวไปข้างต้น อาจจะมีหลุดฟอร์มไปบ้าง รวมถึงตัวสำรองที่ได้ลงไปเล่นแทนอาจจะยังทดแทนได้ไม่เต็มที่

ทำให้ในซี วีลีก ที่คู่แข่งอาจจะไม่ได้หนักมาก เป็นโอกาสที่ดีของโค้ชที่จะได้ทดลองระบบ และตัวผู้เล่นในการลงแข่งขัน และยังให้โอกาสตัวสำรองได้ลงสัมผัสเกม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ทั้งทางการเล่น รวมถึงสภาพจิตใจในช่วงเวลาที่กดดัน

แต่ละเกมที่ทีมสาวไทย ลงสนามในซี วีลีก โค้ชด่วนสลับผู้เล่นลงสนามในทุก ๆ เซต และแทบจะไม่ซ้ำกันในแต่ละเกม ก่อนที่จะประสบความสำเร็จความสำเร็จในสนามแรก คว้าแชมป์ไปครอง และเสียไปเพียแค่ 1 เซตให้กับเจ้าภาพ เวียดนาม ในนัดสุดท้าย

และมาถึงสนามที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โค้ชด่วนเริ่มให้โอกาส ‘ดลพร สินโพธิ์’ อีกหนึ่งหัวเสาดาวรุ่งที่ผันตัวเองมาเล่นเป็นตัวเซตได้ลงสนามในนามทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก รวมถึงเกมในสนามนี้ ทีมสาวไทย จะยังคงคว้าแชมป์ไปครองและไม่เสียเลยแม้แต่เซตเดียว

ก่อนที่จะเข้าสู่อีกหนึ่งการแข่งขันรายการใหญ่ของทีมสาวไทยในวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์เอเชีย ที่เป็นรายการสำคัญทั้งเป็นแมตช์ที่มีการเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก รวมถึงยังเป็นรายการคัดเลือกทีมอันดับ 1-3 ไปแข่งขันใน วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025

คู่แข่งหลัก ๆ ของทีมสาวไทยในชิงแชมป์เอเชีย แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น 2 ชาติยักษ์ใหญ่อย่าง จีน และญี่ปุ่น ซึ่งในรายการนี้พวกเธอไม่ได้ส่งทีมชุดหลักเข้ามาแข่งขัน จีน ใช้นักกีฬาชุดแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 31 ที่เมืองเฉิงตู เป็นแกนหลัก

ขณะที่ญี่ปุ่นแชมป์เก่าเป็นผู้เล่นชุดที่ 2 ของทีม แต่ก็ยังมีตัวหลักที่เคยเล่นในชุดใหญ่อย่าง ‘ชิมามุระ ฮารุโยะ’ บอลเร็วที่รับหน้าที่เป็นกัปตันทีม รวมถึง ‘โมมิ อากิ’ มือเซตชุดโอลิมปิกเกมส์ 2021 นำทีมมาด้วย

ทีมชาติไทยที่เป็นรองแชมป์เก่า และในฐานะเจ้าภาพ จับสลากอยู่ในกลุ่มที่ไม่หนักมากกับ มองโกเลีย และออสเตรเลียในรอบแรก

โดยที่ผลงานของทีมสาวไทย ในรอบแรก ‘โค้ชด่วน’ ยังคงยึดรูปแบบการเล่นเหมือนเช่นในศึกซี วีลีก กล่าวคือ เกมในรอบแรกที่ยังเจอคู่แข่งที่ยังไม่หนักมาก ใช้สลับผู้เล่นในแต่ละเกม เพื่อให้นักกีฬาได้ลงไปลับความคม รวมถึงยังเป็นการหาผู้เล่นตัวหลักที่จะใช้ในรอบต่อ ๆ ไป

สาวไทยคว้าชัยชนะได้ 2 เกมรวดในรอบแรกแบบไม่เสียเซต และผ่านเข้ารอบที่ 2 มาพบกับ เกาหลีที่ผลงานไม่ค่อยจะดีมากนักในช่วง 1-2 ปีหลัง นับตั้งแต่เข้ามาของโค้ชชาวสเปนอย่าง ‘เซซาร์ เอร์นันเดซ กอนซาเลซ’

ซึ่งเกมเจอกับเกาหลีเหมือนว่ากุนซือทีมสาวไทย จะเริ่มได้ 6 คนหลัก แต่ก็ยังมีการสลับผู้เล่นลงสนามในบางช่วงบางตอน และยังแก้เกมได้ทันช่วงทีในหลาย ๆ ครั้ง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเอาชนะ เกาหลี ไปได้ 3-0 เซต

และคู่แข่งต่อไปของทีมไทย ที่ต้องเจอในเกมนัดสุดท้ายของรอบที่ 2 หรือเกมนัดชิงแชมป์กลุ่ม คือ เวียดนาม คู่ปรับร่วมอาเซียน ที่เจอกันมาบ่อยครั้งในปีนี้ รวมถึงพวกเธอยังเป็นช่วงเวลาที่ดีของทัพสาวญวน ในการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เกมกับเวียดนาม เป็นงานที่หนักของสาวไทย แม้จะเป็นต่ออยู่พอควร แต่ต้องยอมรับว่า เวียดนามยกระดับทีมขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว รวมถึงการที่ได้เจอกันบ่อยในปีนี้ ทำให้อาจจะมีช่วงที่จับทางบอลกันได้บ้าง แต่ท้ายที่สุดสาวไทยยังคงเล่นได้แน่นอนกว่า ก่อนจะเอาชนะไป 3-1 เซต

และคู่แข่งต่อไปของทีมไทยที่จะต้องเจอในรอบรองชนะเลิศ นั่นคือ ญี่ปุ่น แชมป์เก่า 2 สมัย ที่สาวไทย แพ้มาในรอบรองชนะเลิศทั้งในปี 2017 และ 2019

การแข่งขันกับญี่ปุ่นที่มีความเหนียวแน่นในเกมรับ แต่อย่างที่กล่าวไป ‘ฮิโนโตริ นิปปอน’ ชุดนี้ไม่ใช้ผู้เล่นชุดหลักที่มีประสิทธิในเกมรุกที่เด็ดขาด บวกกับกระแสของทีมสาวไทยที่เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งฟอร์มการเล่น และเข้าสู่รอบลึก ๆ เป็นช่วงเวลาที่ทำให้แฟนวอลเลย์บอลที่โคราช เข้ามารับชมเกมการแข่งขันที่ชาติชาย ฮอลล์ เป็นจำนวนมาก

ยอมรับเลยว่าเสียงเชียร์จากแฟน ๆ เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นที่ดีของทีมสาวไทย ในการลงสนามพบกับญี่ปุ่น เพราะนอกจากทีมไทยจะทำผลงานได้ดีจากเสียงเชียร์แล้ว พลันทำให้ญี่ปุ่นแอบมีหวั่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่า พวกเธอผิดพลาดกันเองเยอะมาก รวมถึงเกมรับเสิร์ฟที่ยังมีความผิดพลาดอยู่เช่นกัน

แม้จะโดนนำไปก่อน 2-1 เซต แต่ในช่วงเซตสี่ โค้ชด่วนกลับมาให้ผู้เล่นตัวหลักทั้ง พรพรรณ, ทัดดาว, หัตถยา, อัจฉราพร, ชัชชุอร และพิมพิชยา ได้ลงสนามเต็มที่ และพวกเธอก็โชว์ฟอร์มได้ดี โดยเฉพาะ 3 บอลหลักของไทย ที่ออกอาวุธทีไรแทบจะไม่พลาดในการใส่สกอร์ให้กับทีม

และท้ายที่สุด ทีมไทย แซงกลับมาเอาชนะ ญี่ปุ่น ไปได้ 3-2 เซต ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน รวมถึงยังการันตีคว้าตั๋วผ่านเข้ารอบสุดท้าย วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025 ได้เช่นเดียวกัน

ส่วนเกมในรอบชิงชนะเลิศทีมสาวไทยต้องเจอกับทีมชาติจีน และถือว่าเป็นเกมที่ดุเดือดแน่นอน เพราะทั้งคู่ยังไม่แพ้ให้ใครมารายการนี้ตลอดเส้นทางก่อนมาถึงเกมในวันสุดท้าย

สนามชาติชาย ฮอลล์ แน่นขนัดไปด้วยผู้ชมที่อยากเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งทีมสาวไทย ในการลุ้นแชมป์เอเชีย แฟนวอลเลย์บอลเข้ามาในสนามอย่างคับคั่ง ซึ่งนับว่าเป็นผู้เล่นคนที่ 7 ของทีมชาติไทย ในการกดดันคู่แข่งอย่างจีนได้เป็นอย่างดี

เกมของสาวไทยเล่นได้อย่างดุดันและยอดเยี่ยมเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากมากในเซตแรก 25-21 เช่นเดียวกับเกมในเซตสองที่ทีมไทยนำห่างตั้งแต่ต้นเกม รวมถึงยังขึ้นแท่นนำ 24-18 แต่ทว่าในช่วงท้ายเกมรับเสิร์ฟของทีมเริ่มแกว่ง ทำให้การออกเกมรุกมีปัญหาและท้ายสุดท้ายจีน แซงเอาชนะไปได้ 27-25

กระนั้นเกมของทีมไทย ยังทำได้ดีในเซตสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ธนัชชา สุขสด’ ที่ลงมาเป็นสำรอง ทำแต้มในเซตดังกล่าวไปได้ถึง 10 แต้ม นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างมากของเกมที่ทำให้ไทยเอาชนะไป 25-19 กลับมานำ 2-1 เซต แต่ในเซตสี่ จีนกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง ทำเกมรุกได้ก่อนจะเอาชนะไป 25-20 ทำให้ต้องตัดสินกันเซตสุดท้าย

ซึ่งเกมในเซตห้า เหมือนว่ารูปเกมจะเหวี่ยงมาทางจีนให้ได้เปรียบตั้งแต่ช่วงต้น ในการที่มีช่วงออกนำห่าง 2 แต้มอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ต้องชื่นชมทีมสาวไทยที่เป็นผู้ตามที่ยอดเยี่ยม ทำแต้มไล่ตีเสมอได้ตลอด และบวกกับเสียงเชียร์ที่กระหึ่มสนาม จนท้ายที่สุดสาวไทยจะแซงเอาชนะไปได้ 16-14

ทำให้ทีมไทย เอาชนะ 3-2 เซต คว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 3 และยังเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 10 ปี รวมถึงคว้าแชมป์ที่เมืองย่าโมได้อีกครั้ง

เป็นเกมการแข่งขันที่สุดฟิน ที่ทีมไทย เอาชนะไปได้อย่างระทึกใจ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ประทับใจ กับการคว้าแชมป์เอเชียได้อีกสมัย ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี และท่ามกลางกองเชียร์ชาวไทยที่ล้นสนามอีกครั้ง

อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของ โค้ชด่วนที่ปลดล็อกพาทีมคว้าแชมป์เอเชียได้เป็นสมัยแรกของตนเอง หลังจากที่เข้าชิงชนะเลิศมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2017 และ 2019 ก่อนจะแพ้ไปทั้ง 2 ครั้ง ทำให้โดนกระแสวิจารณ์อยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุด เจ้าตัวก็พิสูจน์ตัวเอง จนพาทีมประสบกับชัยชนะได้ในท้ายที่สุด

ส่วน ‘ชัชชุอร โมกศรี’ หัวเสาตัวเก่งของทีม ยังคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของการแข่งขันไปครอง ต่อจากรุ่นพี่อย่าง ‘อรอุมา สิทธิรักษ์’ และ ‘วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์’ ที่ทำได้เมื่อ 2009 และ 2013 ตามลำดับ และ 'ทัดดาว นึกแจ้ง' ยังคว้ารางวัลบอลเร็วยอดเยี่ยม และ 'พรพรรณ เกิดปราชญ์' ยังคว้ารางวัล มือเซตยอดเยี่ยมไปอีกตำแหน่ง

ทว่าช่วงเวลาแห่งความฟินของทีม อาจจะมูฟออนต่อโดยเร็ว เพราะหลังจากนี้ไม่กี่วัน สาว ๆ มีคิวที่จะต้องไปแข่งต่อในรายการใหญ่แห่งความฝันอย่าง ‘โอลิมปิกเกมส์ 2024’ รอบคัดเลือก ที่ประเทศโปแลนด์ ระหว่างวันที่ 16-24 กันยายน 2566

ซึ่งรายการนี้จะในกลุ่มของทีมไทย ที่ประกอบไปด้วย โปแลนด์ (เจ้าภาพ), อิตาลี, โคลอมเบีย, สหรัฐอเมริกา, เกาหลี, เยอรมนี และ สโลวีเนีย จะแข่งขันแบบพบกันหมด เพื่อคัดเอาทีมอันดับ 1-2 ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส

ความพ่ายแพ้ในศึก VNL ที่อาจจะบั่นทอนความมั่นใจของนักกีฬา รวมถึงได้รับคำวิจารณ์ในฟอร์มการเล่นที่อาจจะตกลงไปบ้าง แต่ทว่าการคว้าแชมป์เอเชีย ที่เมืองโคราช อาจจะเป็นกำลังใจที่ดี สร้างความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่ง สภาพจิตใจที่มั่นคง ให้กับนักกีฬา ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ รอบคัดเลือก เพื่อเป้าหมายใหญ่ คือการก้าวไปสู่ ปารีส 2024 ก็เป็นไปได้เช่นกัน

.

ภาพ : แฟ้มภาพจาก Getty Images