17 มี.ค. 2567 | 22:23 น.
KEY
POINTS
เกมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมาระหว่าง ‘ทีมเอฟเวอร์ตัน’ กับ ‘ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ชื่อของ ‘อเลฮานโดร การ์นาโช่’ กลายเป็นนักฟุตบอลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางจากจังหวะที่เจ้าตัวโชว์ทักษะยิง ‘ลูกจักรยานอากาศ’ หรือ ‘โอเวอร์เฮดคิก’ ระยะประมาณ 12 หลาบอล พุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม ซึ่งนอกจากจะเป็นประตูให้ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นนำและคว้าชัยชนะไปได้ในที่สุดแล้ว ประตูดังกล่าวก็ยังได้รับคัดเลือกเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนอีกด้วย
จากนั้นอีกหนึ่งเดือนถัดมาในช่วง ‘บ็อกซิงเดย์’ (Boxing Day) อเลฮานโดร การ์นาโช่ ก็สร้างผลงานยอดเยี่ยมอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวยิง 2 ประตูช่วยให้ปีศาจแดงตามตีเสมอ ‘แอสตันวิลล่า’ ก่อนที่ในท้ายที่สุดจะแซงเอาชนะเก็บ 3 คะแนนไปได้ และจะว่าไปในเกมดังกล่าวการ์นาโช่น่าจะกดแฮตทริกได้ด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่ประตูแรกของเจ้าตัวนั้นล้ำหน้าไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
แล้ว ‘อเลฮานโดร การ์นาโช่’ คนนี้คือใคร เขาจะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะพา ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ เราไปทำความรู้จักเด็กหนุ่มรายนี้กันครับ
อเลฮานโดร การ์นาโช่ เกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2004 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยคุณพ่อ ‘อเล็กซ์ การ์นาโช่’ เป็นชาวสแปนิชและคุณแม่ ‘พาทริเซีย เฟร์เรยร่า เฟร์นานเดซ’ เป็นชาวอาร์เจนไตน์ เจ้าตัวนั้นชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลตั้งแต่เด็ก และจากความชื่นชอบได้แปรเปลี่ยนเป็นความหลงไหล จากการเล่นเพื่อความสนุกสนานได้กลายเป็นการเล่นฟุตบอลเพื่อความฝันที่จะได้เป็นยอดนักเตะระดับโลก
การ์นาโช่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘เคตาเฟ่ อะคาเดมี่’ ก่อนจะย้ายมา ‘แอตเลติโก มาดริด อะคาเดมี่’ ในช่วงปี 2015 ขณะที่เจ้าตัวอายุประมาณ 11 ปี โดยตลอดเวลาที่การ์นาโช่ได้อยู่ที่อะคาเดมี่ของทีมตราหมีนั้น เจ้าตัวก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีพัฒนาการจนไปเข้าตาสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และการ์นาโช่ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี่ ในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2020 โดยมีสื่อหลายแหล่งรายงานว่าการ์นาโช่นั้นเป็นที่สนใจของทีมยักษ์ใหญ่ระดับโลกมากมายแต่ที่เจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปอยู่กับทีมปีศาจแดงนั้นก็เพราะจะตามรอยไอดอลของตัวเองซึ่งก็คือ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’
หลังจากการ์นาโช่ย้ายมาค้าแข้งยังประเทศอังกฤษ เจ้าตัวก็สามารถเรียนรู้วิถีชีวิต และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้มีโอกาสได้ลงสนามเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมเยาวชนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลายชุด โดยผลงานเด่นที่ได้รับการยอมรับและจับตามองจากทีมชุดใหญ่ก็คือการเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สามารถพาทีมเยาวชนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ฟุตบอล ‘เอฟ.เอ. ยูธ คัพ’ ฤดูกาล 2021 - 2022 มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับการที่เจ้าตัวสามารถคว้าตำแหน่ง ‘ผู้ทำประตูสูงสุด’ หรือ ‘ดาวซัลโว’ ประจำทัวร์นาเมนต์จากผลงาน 7 ประตู
เริ่มจากการแข่งขันในรอบที่ 3 ทีมเยาวชนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องพบกับทีมเยาชน ‘สคันธอร์ป ยูไนเต็ด’ แข้งหนุ่มอาเจนไตน์ทำ 1 ประตูให้ทีมเอาชนะไปได้ 4 - 2 จากนั้นในรอบถัดมาปีศาจแดงชุดเล็กต้องโคจรพบกับทีมเยาวชน ‘เรดดิ้ง’ ซึ่งเกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมเดียวที่การ์นาโช่ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ในรายการนี้ อย่างไรก็ตามทีมเยาวชนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็สามารถเอาชนะทีมเยาวชนเรดดิ้งและผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก
การแข่งขันรอบที่ 5 กับทีมเยาวชน ‘เอฟเวอร์ตัน’ การ์นาโช่ก็กลับมามีชื่อบนสกอร์บอร์ดในฐานะผู้ทำประตูอีกครั้ง โดยเจ้าตัวโชว์ทักษะการกระชากลากเลื้อยกว่าครึ่งสนามเข้าไปทำประตูสุดสวยได้ และก็พาทีมเยาวชนปีศาจแดงผ่านเข้าสู่รอบถัดไป ซึ่งก็คือรอบควอเตอร์ไฟนอล โดยไปพบกับทีมเยาวชน ‘เลสเตอร์ ซิตี้’ และในเกมดังกล่าวการ์นาโช่ก็มาทำคนเดียว 2 ประตู พาทีมเยาวชนปีศาจแดงไล่แซงเอาชนะเยาวชนจิ้งจอกไปแบบหวุดหวิด 2 - 1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปแบบสนุก
รอบรองชนะเลิศเยาวชนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพบกับทีมเยาวชน ‘วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส’ และก็เป็นอีกเกมที่การ์นาโช่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เจ้าตัวเล่นประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างลงตัว ก่อนที่ทั้งการ์นาโช่และ ‘ชาร์ลี แมคนีล’ จะช่วยกันทำประตูให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการเอฟ.เอ. ยูธ คัพได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี
จากนั้นในรอบชิงชนะเลิศการ์นาโช่ก็ยังคงฟอร์มร้อนแรงไม่หยุดเมื่อเจ้าตัวสามารถทำได้ 2 ประตูช่วยให้ทีมเยาวชนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนะทีมเยาวชน ‘น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์’ ไป 3 - 1 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ อีกทั้งตัวของการ์นาโช่เองก็ได้รับรางวัล ‘ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล’ ของสโมสร หรือ ‘จิมมี่ เมอร์ฟี่ ยัง เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์’ (Jimmy Murphy Young Player of the Year) มาครองอีกหนึ่งรางวัล
อเลฮานโดร การ์นาโช่ ถือว่าเป็นดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่าจากฝีเท้าและลีลาการเล่นของเจ้าตัวนั้นก็ไม่แปลกเลยที่การ์นาโช่จะได้รับโอกาสไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และมีโอกาสมีชื่อนั่งอยู่ในม้านั่งสำรองของทีมในช่วงการแข่งขันแมตช์ที่ 33 ของศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021 - 2022 กับ ‘นอริช ซิตี้’ ก่อนที่จะมาได้ลงสนามเป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับ ‘เชลซี’ โดยถูกเปลี่ยนตัวลงไปในนาที 89 ก่อนที่ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล การ์นาโช่ก็ได้โอกาสลงสนามอีกครั้งในเกมกับ ‘คริสตัล พาเลซ’ ประมาณ 10 นาที ซึ่งแม้โอกาสที่ได้รับนั้นยังมีเวลาไม่มากนัก แต่นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าปีศาจแดงให้ความสำคัญและมีแผนงานในอนาคตกับแข้งรายนี้อยู่แน่นอน
ฤดูกาลถัดมาการ์นาโช่เริ่มได้รับโอกาสมากขึ้นในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในนาทีสุดท้ายของเกมเปิดสนามกับ ‘ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน’ ก่อนที่จะอยู่บนม้านั่งสำรองอีกประมาณ 3 เดือนการ์นาโช่ก็ได้รับโอกาสในการลงสนามอีกครั้งในเกมที่ปีศาจแดงบุกไปเยือนแอสตัน วิลล่า โดยการ์นาโช่มีโอกาสลงสนามประมาณ 65 นาที นับว่าเป็นระยะเวลาที่มากที่สุดกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชุดใหญ่ในเวทีพรีเมียร์ลีก
จากนั้นในการแข่งขันนัดถัดมากับ ‘ฟูแล่ม’ เจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้ใจของสโมสรด้วยการทำชิ่งกับ ‘คริสเตียน เอริคเซ่น’ ก่อนจะโฉบเข้าไปยิงประตูชัยให้ปีศาจแดงแซงเอาชนะฟูแล่มไปได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และที่สำคัญนี่คือประตูแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีกของเจ้าตัว โดยในฤดูกาลดังกล่าวการ์นาโช่ลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 19 นัด ระยะเวลารวมกว่า 559 นาที (อ้างอิงข้อมูลจาก Transfermarkt.com) ทำได้ 3 ประตู กับ 2 แอสซิสต์
นอกเหนือจากศึกพรีเมียร์ลีกและฟุตบอลถ้วยของประเทศอังกฤษแล้ว การ์นาโช่ยังได้มีโอกาสลงสนามในฟุตบอล ‘ยูฟ่า ยูโรปา ลีก’ (UEFA Europa League) ฤดูกาล 2022 - 2023 และ ‘ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก’ (UEFA Champions League) ฤดูกาล 2023 - 2024 อีกด้วย โดยไฮไลท์สำคัญก็คือการที่การ์นาโช่สามารถทำประตูชัยให้ปีศาจแดงบุกไปเอาชนะ ‘เรอัล โซเซียดัด’ ได้ 0 - 1 โดยประตูดังกล่าวถือว่าเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในเวทีสโมสรยุโรปด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น และในฤดูกาลล่าสุดการ์นาโช่ก็สามารถทำประตูในเกม ‘ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก’ ได้สำเร็จในเกมที่ปีศาจแดงบุกไปเสมอ ‘กาลาตาซาราย’ 3 - 3 นับว่าเป็นผลงานที่ไม่ธรรมดาของเจ้าตัวในทีมชุดใหญ่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับในฤดูกาล 2023 - 2024 นี้ (อ้างอิงถึงวันที่ 17 มีนาคม 2024) การ์นาโช่ได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพาสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง เจ้าตัวมีโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยในศึกพรีเมียร์ลีกการ์นาโช่ได้ลงสนามไปแล้ว 26 นัดจากเกมทั้งหมด 28 นัด ทำไปแล้วกว่า 5 ประตูโดย 3 ประตูแรกก็ตามที่ต้นบทความได้เกริ่นไว้ครับ ส่วนอีก 2 ประตูที่เหลือก็เกิดในเกมกับ ‘เวสแฮม ยูไนเต็ด’ ที่แข้งหนุ่มรายนี้ซัด 2 ประตูให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะขุนค้อนไปได้ 3 - 0 เรียกได้ว่ายิ่งมีโอกาสลงสนามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งฉายแววความเก่งกาจมากขึ้นเท่านั้นสำหรับ อเลฮานโดร การ์นาโช่
การ์นาโช่สามารถเลือกที่จะเล่นทีมชาติได้ทั้งสเปนและอาร์เจนติน่า โดยในช่วงปี 2021 เจ้าตัวเล่นให้ทีมชาติสเปนชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี โดยลงสนามไป 3 นัด แต่จากนั้นเจ้าตัวก็ถูกเรียกติดทีมชาติอาเจนติน่าชุดใหญ่ในช่วงเดือนมีนาคม 2022 สำหรับแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังไม่อาจเบียดขุนพลฟ้า - ขาวชุดใหญ่ได้ จากนั้นการ์นาโช่ก็ได้ลงสนามให้ทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดอายุไม่เกิน 20 ปีสำหรับลงแข่งขันรายการกระชับมิตร จากนั้นเขาก็ต้องมาพลาดโอกาสติดทีมชาติอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวมีชื่อในเกมนัดกระชับมิตรกับทีมชาติปานามา และคูราเซา แต่ในท้ายที่สุดก็ต้องถอนตัวออกไปเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ
แม้จะคลาดกันไปถึงสองครั้งสองครา แต่แล้วในที่สุดการ์นาโช่ก็ได้โอกาสลงสนามให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่ในเกมนัดกระชับมิตรกับทีมชาติออสเตรเลียในวันที่ 15 มิถุนายน ปี 2023 ที่เวิร์กเกอร์ สเตเดียม สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้ลงสนามในครึ่งเวลาหลังช่วง 15 นาทีสุดท้าย จากนั้นเจ้าตัวก็ได้โอกาสลงสนามเป็นนัดที่ 2 ในเกมนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอินโดนีเซียในอีก 4 วันต่อมา จากนั้นในช่วงเดือนกันยายนการ์นาโช่ก็ได้ลงสนาม 5 นาทีในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับทีมชาติโบลิเวีย
แน่นอนครับว่าสำหรับทีมชาติอาร์เจนติน่าแล้ว การ์นาโช่ยังคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร รวมทั้งต้องสั่งสมประสบการณ์ ฝีเท้า และบารมีอีกสักพักเพื่อเบียดตัวจริงของทีมแชมป์โลก แต่จากโอกาสที่ได้รับในปีที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ดีที่เจ้าตัวยังอยู่ในแผนการทำทีมระยะยาวของทีมชาติอาร์เจนติน่า แฟนบอลของเจ้าตัวคงต้องร่วมกันส่งกำลังใจให้เด็กหนุ่มรายนี้ต่อไปครับ
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ ‘อเลฮานโดร การ์นาโช่’ ปีกดาวรุ่งที่กำลังจะท้าทายความฝันในการเป็นนักฟุตบอลระดับโลกและพาสโมสรต้นสังกัดอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับไปผงาดอีกครั้ง เจ้าตัวจะทำได้หรือไม่ เรามารวมกันให้กำลังใจและติดตามกันต่อไปครับ
เรื่อง : ธิษณา ธนคลัง (The Sportory)