‘เอดูอาร์โด คามาวินกา’ เกิดในค่ายผู้ลี้ภัย สู่นักเตะเรอัล มาดริด ชุดแชมป์ยุโรป

‘เอดูอาร์โด คามาวินกา’ เกิดในค่ายผู้ลี้ภัย สู่นักเตะเรอัล มาดริด ชุดแชมป์ยุโรป

‘เอดูอาร์โด คามาวินกา’ เด็กที่เกิดในค่ายผู้ลี้ภัย เมื่อครอบครัวหนีสงคราม ฝ่าฟันมาสู่เส้นทางนักฟุตบอลจนร่วมทีมเรอัล มาดริด คว้าแชมป์สโมสรยุโรป

  • เอดูอาร์โด คามาวินกา นักเตะเรอัล มาดริด ชุดแชมป์ยุโรป และทีมชาติฝรั่งเศส เติบโตเกิดในค่ายผู้ลี้ภัย เมื่อครอบครัวหนีภัยสงคราม
  • คามาวินกา ใช้ฟุตบอลเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เขาและครอบครัวเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง

‘เอดูอาร์โด คามาวินกา’ เด็กที่เกิดในค่ายผู้ลี้ภัย เมื่อครอบครัวหนีสงคราม ฝ่าฟันมาสู่เส้นทางนักฟุตบอลจนร่วมทีมเรอัล มาดริด คว้าแชมป์สโมสรยุโรป

“ผมเกิดในค่ายผู้ลี้ภัยในแองโกลา หลังจากที่ครอบครัวของผมหนีจากสงคราม พ่อแม่นำผมเข้าสู่ชีวิตใหม่ในประเทศฝรั่งเศส และฟุตบอลทำให้ผมไปสู่ แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ผมยินดี และภูมิใจที่ได้เล่นในฐานะอดีตผู้ลี้ภัย”

เอดูอาร์โด คามาวินกา กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับ UNHCR ก่อนหน้าเกมรอบชิงชนะเลิศรายการยูฟ่า แชมเปี้นส์ลีก หรือรายการชิงแชมป์สโมสรฟุตบอลทวีปยุโรป ในฤดูกาล 2021-22 และในเกมนั้น เรอัล มาดริด ต้นสังกัดของคามาวินกา ชนะลิเวอร์พูล จากอังกฤษได้สำเร็จ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นับตั้งแต่ยุคโบราณ มาจนถึงปัจจุบัน มนุษย์เคลื่อนที่ย้ายถิ่นฐานกระจัดกระจายออกห่างจากภูมิลำเนาเดิมกันเรื่อยมา ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของเหตุผลทางปากท้อง หรือเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่าอย่างภัยธรรมชาติ หรือสงครามที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่ง

ก่อนที่คามาวินกา จะพบโอกาสในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ พ่อแม่ชาวคองโก และครอบครัวของเขาเผชิญสงครามซึ่งทำให้ครอบครัวต้องอพยพออกมา ตัวเขาเองมาเกิดในค่ายผู้ลี้ภัยในแองโกลา จากนั้นครอบครัวจึงมาปักหลักในฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ครอบครัวของเขาไม่ได้มีต้นทุนที่สูงนักถ้าเทียบกับคนฝรั่งเศสที่อยู่มานาน เส้นทางแห่งการไต่เต้าทางสังคมก็คือ กีฬาฟุตบอลเพราะเนื่องด้วยเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย แต่เรื่องยากคือเล่นให้ชำนาญเหนือกว่าคนทั่วไปในระดับที่นำพาไปสู่โอกาสในสายอาชีพนี้

โชคดีที่ครอบครัวของคามาวินดา เห็นดีเห็นงามที่เขาจะเอาดีด้านฟุตบอลจึงพาไปฝึกฝนเป็นอย่างดีเพื่อพัฒนาทักษะด้านลูกหนัง กระทั่งนำไปสู่โอกาสกับสโมสรฟุตบอลอาชีพและก้าวมาสู่ระดับทีมฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งถือว่าเขาเป็นนักเตะที่ติดทีมชาติฝรั่งเศสด้วยอายุน้อยที่สุดในรอบ 100 ปีในวัย 16 ปี

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทีมฟุตบอลฝรั่งเศสมีนักเตะหลายคนที่มีภูมิหลังเป็นผู้ลี้ภัยเก่า มีส่วนหนึ่งที่มาจากแถบแอฟริกา ตัวอย่างหนึ่งที่มักถูกหยิบยกมาเอ่ยถึงคือลูกหลานเชื้อสายผู้อพยพที่ทำให้ทีมชาติฟุตบอลฝรั่งเศสสามารถเล่นได้ในระดับดังที่เห็นในฟุตบอลโลก 2018 

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2018 ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมโลกที่รัสเซีย โดยชนะโครเอเชีย 4-2 นักเตะในทีม 15 คนเป็นบุคคลที่มีภูมิหลังมาจากครอบครัวผู้อพยพ ความสำเร็จครั้งนั้นทำให้ผู้คนพลัดถิ่นทั่วโลกร่วมดีใจไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในทีมฟุตบอลฝรั่งเศส ความขัดแย้งโดยเฉพาะเรื่องของการเหยียดผิวก็ยังเป็นเรื่องที่มักพบเห็นได้อยู่ อย่างกรณีที่เกิดขึ้นของกลุ่มฝ่ายขวาจัดที่เป็นกองเชียร์ระหว่างการแข่งขันฟุตบอล ก็ยังคงมีเพลงเชียร์ที่มีเนื้อหาค่อนไปทางเหยียดชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มแฟนบอลที่ออกมาต้านการเหยียดเช่นกัน

ชะตากรรมของนักฟุตบอลเชื้อสายแอฟริกันที่มีลู่ทางในทีมฟุตบอลของยุโรปต่างเผชิญกับข้อจำกัดหลายอย่างทั้งต้นทุนทางสังคม และโดนกีดกันผ่านการเหยียดเชื้อชาติทำให้ชีวิตของคนเหล่านี้ลำบาก 

แต่ด้วยความพยายามอย่างแรงกล้าและความหวังของการเริ่มต้นใหม่ในชีวิตที่ดีกว่าในต่างประเทศสามารถนำพาพวกเขาทำลายกำแพงที่เป็นข้อจำกัดทั้งหลายได้

สำหรับเรื่องราวของคามาวิงกา ในการเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ เริ่มต้นเข้าสู่ระบบทีมเยาวชนของสโมสรแรนส์ ตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยพัฒนาฝีเท้าไปได้จนถึงขั้นเซ็นสัญญาในขณะที่อายุเพียง 16 ปี 

เมื่อครั้งที่คามาวิงกา ลงสนามครั้งแรกในศึก ลีก เอิง ลีกสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2019 เขาถูกบันทึกว่าเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในทีมแรนส์ ที่ลงเล่นในเกมทางการขณะอายุเพียง 16 ปี 4 เดือน 

คามาวินกา ย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริด ในปี 2021 ลงสนามให้ทีมใหญ่ของสเปนครั้งแรกเมื่อกันยายน 2021 เขาถูกจับตามองว่าเป็นอาวุธลับของเรอัล มาดริด และเป็นนักเตะพลังหนุ่มที่จะมารับไม้ต่อจากรุ่นพี่ในทีม

ด้วยศักยภาพและความสามารถส่วนตัวที่สามารถเล่นในพื้นที่กลางสนามได้ในหลากหลายบทบาท นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่ปัจจุบันอายุ 19 ปี ลงเล่นให้เรอัล มาดริด เพียงฤดูกาลเดียวก็สามารถพิสูจน์ตัวเองกับแฟนบอลและโค้ชว่าสามารถมีบทบาทและช่วยทีมได้ในเวลาที่ทีมต้องการ แม้ว่าทีมยุคนี้จะมีกองกลางฝีเท้าระดับโลกยึดตำแหน่งตัวจริงกันถ้วนหน้า

ความสำเร็จกับสโมสรต้นสังกัดในสเปนขณะอายุ 19 ปี พิสูจน์ว่าเขามีอนาคตอีกยาวไกลกับเรอัล มาดริด และทีมชาติฝรั่งเศส ขณะเดียวกัน เส้นทางที่ผ่านมาของเขาก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลกไปจนถึงชุมชนของผู้ลี้ภัย

 

เรื่อง: พาธี แซ่ตั้ง (The People Junior)

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

มติชนสุดสัปดาห์

ประชาไท

Amnesty

UNHCR

The Guardian