22 พ.ย. 2566 | 20:32 น.
- ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือชาวอิตาลีทำผลงานโดดเด่นในช่วงคุมทีมอินเตอร์ มิลาน ได้เข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ก็ไปไม่ถึงฝันเมื่อแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ
- ตั้งแต่เป็นสมัยนักเตะ ซิโมเน่ อินซากี้ อยู่ใต้เงาความสำเร็จของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ พี่ชายที่โดดเด่นทั้งสมัยนักเตะและกุนซือ กระทั่งซิโมเน่ ทำผลงานดีในช่วงคุมอินเตอร์ มิลาน
การเกิดมาในครอบครัวเดียวกัน ทำอาชีพแบบเดียวกัน คุณไม่มีทางหนีพ้นการถูกนำไปเปรียบเทียบ
และยิ่งพี่ชายของคุณคือ ‘ซูเปอร์ปิ๊ปโป้’ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ตำนานลูกหนังอิตาลีที่มีสไตล์การเล่นเฉพาะตัว ยากที่จะเลียนแบบ ที่ประสบความสำเร็จทั้งดาวซัลโวกัลโช่เซเรียอา แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย และแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2006 ดูเหมือนเงาความสำเร็จของเขาจะบดบังรัศมีเหลือเกิน
นั่นคือภาวะที่ ‘ซิโมเน่ อินซากี้’ หรือที่ถูกเรียกว่า ‘อินซากี้คนน้อง’ ต้องเผชิญ เพราะไม่ว่าคุณจะทำอะไรคุณมักจะถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายเสมอ และเป็นได้แค่ ‘อินซากี้คนน้อง’ ที่แม้แต่ชื่อยังไม่ได้รับการสดุดีแบบซูเปอร์ปิ๊ปโป้
ทั้งที่ตอนเด็ก สองพี่น้องจากปิอาเซนซ่าก็เหมือนเด็กชายอิตาลีทั่วไปที่ไล่หวดลูกหนังตามท้องถนน แต่เมื่อออกตัวก้าวเข้าสู่บนเวทีลูกหนังอาชีพ ฟิลิปโป้นั้นทิ้งซิโมเน่อย่างไม่เห็นฝุ่น ในขณะที่คนพี่เล่นให้กับอตาลันต้า ปาร์มา ยูเวนตุส แล้วก้าวไปจุดสูงสุดกับเอซีมิลาน จนเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร
ชะตาของซิโมเน่ คือวนเวียนกับฟุตบอลลีกรองเซเรียซี เซเรียบี หรือหากจะเรียกว่าความสำเร็จของซิโมเน่นั้น คือช่วงเวลาเดียวคือก้าวขึ้นมาอยู่กับ ‘อินทรีฟ้าขาว’ ลาซิโอ ที่ผงาดคว้าแชมป์สคูเดตโต้ และ โคปาอิตาเลีย 3 สมัย แทบจะไม่ได้ใกล้เคียงความสำเร็จของพี่ชายเลย
เป็นธรรมดาของคนที่มีลูกหนังในหัวใจเมื่อเลิกเล่นฟุตบอลแล้วก็ยังคงอยากทำงานในวงการฟุตบอลต่อไป และกลายเป็นฟิลิปโป้ ที่ออกตัวได้แรงกว่าด้วยการกลับมาคุมทัพ ‘รอสโซเนรี่’ เอซีมิลานที่เขาเป็นตำนานของสโมสร ในขณะที่ซิโมเน่ เริ่มต้นในการดูแลชุดเยาวชนชุดเล็ก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ของลาซิโอ้ สโมสรเก่าของเขา เป็นอีกครั้งที่เขาเป็นได้แค่อินซากี้คนน้อง
แต่ดูเหมือนว่าความถนัดที่แตกต่างกันในสนาม ซิโมเน่อาจเป็นรองพี่ชาย แต่เมื่อยืนข้างสนาม กลายเป็นว่าซิโมเน่ โดดเด่นกว่าชัดเจน เพราะไม่นานหลังจากนั้น ฟิลิปโป้ต้องกระเด็นตกเก้าอี้ผู้จัดการทีมมิลาน ในขณะที่ซิโมเน่ค่อย ๆ สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้จัดการทีมเต็มตัวของลาซิโอ้ และทำให้อินทรีฟ้าขาวที่ร้างความสำเร็จมา 5 ปี ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศอย่างโคปาอิตาเลียได้
ครั้งหนึ่งที่ฟิลิปโป้ พาทีม เบเนเวนโต้ เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในเซเรียอา ต้องโคจรมาพบกับลาซิโอของซิโมเน่ คุณแม่ของทั้งสองคนบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ผลนั้นออกมาเสมอกัน ซึ่งแมตซ์แรกที่เจอกัน เสมอกันไป 1-1 ประตู ก่อนที่ซิโมเน่จะประกาศศักดาเหนือพี่ชายครั้งแรก ในนัดที่ลาซิโอ้เป็นเจ้าบ้านที่สนามโอลิมปิโก กรุงโรม ถล่มทีมของพี่ชายไปถึง 5-3 ประตู
ซิโมเน่ สถาปนาตัวเองกลายเป็น ‘ผู้จัดการทีมที่เก่งในบอลถ้วย’ เพราะเขาบันดาลแชมป์ ‘ซูเปอร์โคปาอิตาเลีย’ ศึกชนแชมป์เซเรียอาปะทะแชมป์ฟุตบอลถ้วย ให้ลาซิโอ้ 2 สมัย และก้าวไปรับงานที่ใหญ่กว่านั้นคือการคุม ‘งูใหญ่’ อินเตอร์ มิลาน หลังจากทีมสูญเสียยอดโค้ชอย่าง ‘อันโตนิโอ คอนเต้’ ไปในปีที่ทีมคว้าแชมป์เซเรียอา หลังความขัดแย้งกับเจ้าของทีมชาวจีน โดยย้ายไปคุมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แรงกดดันถาโถมมหาศาลเมื่อคุณต้องเข้ามาทำทีมที่เพิ่งได้แชมป์ลีกหมาด ๆ ในฤดูกาลแรกไม่มีอะไรง่ายเลย ซิโมเน่ เจอความกดดันเมื่อทีมร่วมเมืองอย่างเอซี มิลานปาดหน้าเข้าป้ายแชมป์ลีกทั้งที่อินเตอร์ มีช่วงเวลาที่นำอยู่และได้เปรียบในการคว้าแชมป์ แต่ไปสะดุดในการพ่ายแพ้เกมพลิกล็อกต่อโบโลญญ่า 1-2 ประตู แฟนบอลเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวซิโมเน่ ก่อนที่เขาจะเอาตัวรอดได้ด้วยการพาอินเตอร์ คว้าแชมป์โคปาอิตาเลียปลอบใจ
ในปีที่สอง ซิโมเน่ กับอินเตอร์ก็ยิ่งดูไม่ง่ายขึ้น เพราะปีก่อนจบรองแชมป์ แต่ปีนี้ช่วงออกสตาร์ทของลีกทำผลงานได้ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก่อนกลับมาทำผลงานได้ดีในช่วงต้นปี 2023 พาทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โคปาอิตาเลีย เหนือเอซี มิลาน คว้าแชมป์โคปาอิตาเลีย ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนคนบนฟ้าเขียนบทไว้แล้วเมื่อรอบ 4 ทีมสุดท้าย ซิโมเน่ ต้องพาทีมปะทะกับเอซี มิลาน อีกครั้ง ทำให้ฤดูกาลนี้ฤดูกาลเดียว มิลาน-อินเตอร์ เตะกันถึง 5 แมตซ์ แต่สุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของอินเตอร์ถึง 4 จาก5 แมตซ์
ความขัดแย้งระหว่าง เอซี มิลาน และอินเตอร์ มิลาน นั้นถือว่าเบาบางมาก ๆ ต้องเข้าใจปูมหลังว่าสโมสรอินเตอร์ฯนั้น แยกออกจากเอซี มิลาน เพราะต้องการให้มีผู้เล่นต่างชาติที่ไม่ใช่อิตาลีลงเล่น ดั่งคำว่า ‘Internazionale’ หรือนานาชาติ และปัจจุบัน เส้นการกีดกันมันเลือนหายไปหมดแล้ว ในช่วงทศวรรษ 1980 กองเชียร์แกนนำระดับอัลตร้า ทั้ง Curva Sud (แสตนด์ฝั่งใต้) ของเอซี มิลาน และ Curva Nord (แสตนด์ฝั่งเหนือ) ของอินเตอร์ มิลาน จับมือสงบศึกแล้วในแมตซ์ดาร์บี้ประจำเมือง ‘Derby Della Madonnina’
ซิโมเน่ต้องการอีกก้าวเดียวเพื่อเป็นตำนาน เพราะอินเตอร์ห่างหายจากแชมป์ UCL ตั้งแต่ยุคของ โชเซ่ มมูรินโญ่ ที่ทำให้อินเตอร์คว้าทริปเปิลแชมป์ทีมแรกของอิตาลีในฤดูกาล 2009 - 2010
และเชื่อเหลือเกินว่า ปิ๊ปโป้ พร้อมจะเชียร์อินเตอร์ของน้องชายให้คว้าแชมป์ เพื่อยังทำให้เมืองมิลานเป็นเมืองเดียวในยุโรปที่มีแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ทีม ดับฝันชาวแมนเชสเตอร์ที่คิดจะตามรอย
เพื่อโลกจะได้จำชื่อ ‘ซิโมเน่ อินซากี้’ ไม่ใช่ ‘อินาซากี้คนน้อง’ อีกต่อไป
แต่ดูเหมือนว่า ความฝันนั้นจะไม่ได้จบลงตามที่หวัง เมื่ออินเตอร์ มิลาน พ่ายแพ้ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนัดชิงชปล. ขณะที่ ‘อินซากี้คนน้อง’ ยังมีเส้นทางให้พิสูจน์ตัวเองอีกยาวไกล
เรื่อง: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ
ภาพ: Getty Images