‘ปฏิวัติ คำไหม’ มือกาวผู้พลิกชีวิตจากฝันร้ายกลายเป็นมือ 1 ทีมชาติไทย

‘ปฏิวัติ คำไหม’ มือกาวผู้พลิกชีวิตจากฝันร้ายกลายเป็นมือ 1 ทีมชาติไทย

‘ปฏิวัติ คำไหม’ ผู้ผ่านประสบการณ์ความช้ำทั้งกาย และใจ กับการเล่นฟุตบอลในตำแหน่ง ‘ผู้รักษาประตู’ กระทั่งวันนี้กลายมาเป็นโกล์มือ 1 ของทีมชาติไทยอย่างสมบูรณ์ในศึก ‘เอเชี่ยนคัพ 2023

  • ปฏิวัติ คำไหม เป็นนายทวารที่กล้า ไม่กลัว เจ็บเป็นเจ็บ เข้าถึงบอลทุกจังหวะ
  • อย่างไรก็ตามด้วยความที่ ‘ใจถึง’ ก็เป็นดาบสองคม เพราะความไม่กลัวเจ็บนั้น ทำให้นายประตูหนุ่มของสมุทรปราการได้รับบาดเจ็บหนัก
  • เขาเป็นโกล์ที่อิชิอิไว้ใจ และได้รับคำชื่นชมถึงแนวทางการออกบอลตามแบบฉบับโกล์สมัยใหม่ โดยเฉพาะบอลยาวที่ถือว่า หวังผลได้ อีกด้วย

ในวันที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืน ช่วงที่เฝ้าเสาให้สมุทรปราการ ซิตี้ ‘ไมค์’ ปฏิวัติ คำไหม ผู้รักษาประตูทีมเขี้ยวสมุทรในขณะนั้น ต้องมาบาดเจ็บหนักถึงขั้นขาหัก พักยาวกว่า 5 เดือน จากการปะทะกับคู่แข่ง ทำให้ต้องปิดเทอมยาวในเลกหลังของไทยลีกฤดูกาล 2019  

ในวันที่เขากำลังจะคั่วตำแหน่งมือ 1 ทีมชาติไทยชุดใหญ่ แต่ในเกมอุ่นเครื่อง ‘ฟีฟ่า เดย์’ เดือนมีนาคม 2566 ปฏิวัติทำพลาดครั้งใหญ่ ถึง 2 ครั้ง จ่ายบอลไปเข้าทางผู้เล่นซีเรีย และทำเสียจุดโทษ จนเสีย 2 ประตู ทีมช้างศึก แพ้ ซีเรีย 1 - 3 ค่ำคืนวันนั้น เขาต้องเสียน้ำตา และนอนฝันร้าย

ไมค์ ข้ามผ่านประสบการณ์ความช้ำทั้งกาย และใจ กับการเล่นฟุตบอลในตำแหน่ง ‘ผู้รักษาประตู’ แต่จากจิตใจที่เข็มแข็ง ไม่ยอมแพ้ รวมถึงมีฟอร์มการเซฟที่ดีสม่ำเสมอกับสโมสร ทำให้วันนี้ ปฏิวัติ กลายมาเป็นโกล์มือ 1 ของทีมชาติไทยอย่างสมบูรณ์ในศึก ‘เอเชี่ยนคัพ 2023’ ทัวร์นาเม้นต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเอเชีย

วันวานแห่งความเจ็บทั้งกาย และใจ

‘ไมค์’ ปฏิวัติ คำไหม เป็นชาวจังหวัดชลบุรีโดยกำเนิด เป็นนักเรียนลูกหนังผลผลิตจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี รุ่นเดียวกับ ‘สุพรรณ ทองสงค์’ เพื่อนร่วมทีมชาติ เติบโตมามีแววดี จึงได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ ‘อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด’ ก่อนย้ายมา ‘เมืองทอง ยูไนเต็ด’ และ ‘พัทยา ยูไนเต็ด’

แต่สโมสรที่สร้างชื่อให้กับ ‘ไอ้หนุ่มจากพัทยา’ คือ ‘สมุทรปราการ ซิตี้’ ที่เปลี่ยนชื่อมาจากพัทยา ยูไนเต็ด ในยุคที่สร้างความสั่นสะเทือนในไทยลีก ด้วยการล้มทีมยักษ์เป็นว่าเล่นในช่วงฤดูกาล 2019 และฤดูกาล 2020 - 2021 ตอนนั้น ‘เขี้ยวสมุทร’ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นดาวรุ่ง คว้าอันดับ 6 ถึงสองซีซั่นติดต่อกัน

ปฏิวัติ ที่อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ยังใช้ชื่อ พัทยา ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น เซฟลูกสวย ๆ ได้หลายต่อหลายครั้ง มีส่วนสูงถึง 187 เซนติเมตร ทำให้สามารถตัดบอลกลางอากาศได้ อีกทั้งยังเป็นนายทวารที่กล้า ไม่กลัว เจ็บเป็นเจ็บ เข้าถึงบอลทุกจังหวะ

อย่างไรก็ตามด้วยความที่ ‘ใจถึง’ ก็เป็นดาบสองคม เพราะความไม่กลัวเจ็บนั้น ทำให้นายประตูหนุ่มของสมุทรปราการได้รับบาดเจ็บหนัก หลังปะทะกับ ‘สิทธิโชค ภาโส’ กองหน้าของชลบุรี เอฟซี ถึงขั้นขาหัก พักยาวกว่า 5 เดือน ไม่ได้ลงเล่นในซีซั่น 2019 อีกครึ่งฤดูกาลที่เหลือเลย ทั้งที่ฟอร์มเริ่มจะเข้าตา ‘โค้ชโต่ย’ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือช้างศึกในขณะนั้นจนมีชื่อในการประกาศตัวของทีมชาติไทยชุดใหญ่บ้างแล้ว 

หลังกัดฟันอดทนเรียกความฟิตขณะที่หน้าแข้งขวาต้องฝังเหล็กไว้ด้วย จนผ่านมรสุมการเจ็บหนักที่สุดในชีวิตไป เริ่มซีซั่นใหม่ 2020 - 2021 สมุทรปราการ ซิตี้ เปลี่ยนแปลงทีมสตาฟฟ์โค้ช โดยได้แต่งตั้ง ‘มาซาทาดะ อิชิอิ’ กุนซือทีมชาติไทยในชุดปัจจุบัน มาคุมทัพ ซึ่งปฏิวัติที่ต้องหายไปจากพื้นหญ้ากว่า 5 เดือนวางเป้าหมายง่าย ๆ แบบไม่หวังไกล ขอกลับมายึดตัวจริงภายใต้กุนซือคนใหม่ให้ได้ก่อน และส่วนการกลับไปติดทีมชาตินั้น ค่อยเป็นสเตปต่อไป 

และเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ปฏิวัติ กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง ขณะมีอายุ 26 ปี ก็ได้โอกาสสวมหมวกทีมชาติในเกมแรกอย่างเป็นทางการ และได้เป็นตัวจริงด้วย ในแมตช์อุ่นเครื่องที่เสมอกับ ทาจิกิสถาน 2 - 2 เมื่อพฤษภาคม ปี 2021 ในยุคของ ‘อากิระ นิชิโนะ’ ซึ่งนัดนั้นเป็นแมตช์อุ่นเครื่องเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก 

ต่อมายุคของ ‘มาโน่ โพลกิ้ง’ มีการเปลี่ยนผู้รักษาประตูอยู่ตลอด ปฏิวัติได้รับความไว้วางใจให้เป็นมือ 1 อีกครั้งในเกมเปิดหัวปี 2023 ในเดือนมีนาคม อุ่นเครื่องกับ ซีเรีย เพื่อเตรียมทีมลุยคิงส์คัพ และฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ปลายปี

แต่แมตช์นั้นซึ่งเป็นการสวมเสื้อติดตราธงไตรรงค์นัดที่ 3 เขาต้องจดจำเป็น ‘บทเรียน’ ไปตลอดชีวิต และเป็นหนึ่งใน ‘ฝันร้าย’ เพราะปฏิวัติก่อความผิดพลาด ครั้งใหญ่ ถึง 2 ครั้ง จ่ายบอลไปเข้าทางผู้เล่นซีเรียจนเสียประตู และออกมาตัดบอลทำเสียจุดโทษ ทีมช้างศึกเสีย 2 ประตู แพ้ ซีเรีย 1 - 3 เกิดเสียงวิจารณ์ในตัวเขามากมาย จน ‘ลีซอ’ ธีรเทพ วิโนทัย ดาวเตะรุ่นพี่ต้องออกมาให้กำลังใจ

ในตอนนั้น เส้นทางในทีมชาติของปฏิวัติ ไม่สดใสเอาเสียเลย 

จากทีมตกชั้นสู่ทีมลุ้นแชมป์

อย่างไรก็ตาม หลังจากแมตช์ ‘ไนท์แมร์’ นั้น เจ้าของเสื้อหมายเลข 23 ทีมชาติไทย กลับไปรับใช้ต้นสังกัดในขณะนั้นคือเมืองทอง ยูไนเต็ด และยังทำผลงานได้ดี ช่วยทีมจนจบซีซั่น 2022 - 2023 ได้อันดับ 4 

ทำให้ ‘ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด’ ต้นสังกัดที่แท้จริง ตัดสินใจเรียกตัวกลับไปใช้งานอีกครั้งในการสู้ศึกไทยลีก ฤดูกาลนี้ 2023-2024 พร้อมกับวางตัวเป็นมือ 1 แบบถาวร แทนที่ ‘ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด’ ที่หมดสัญญา

ฟอร์มของทีม ‘แข้งเทพ’ และปฏิวัติในปีนี้ ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นในวัยย่าง 30 ปี ตลอด 15 นัดที่ผ่านมา เขาช่วยเซฟประตูให้ทีมนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งลูกยาก และไม่พลาดลูกง่าย ๆ พาทีมเมืองหลวงนำเป็นจ่าฝูงไทยลีก คว้าแชมป์เลกแรก 15 นัดมี 34 คะแนน มีผู้ยิงประตูผ่านมือเขาไปได้เพียงแค่ 7 ครั้งเท่านั้น โดยสามารถรักษาคลีนชีตได้ถึง 8 เกม ทำให้แบงค็อกมีโอกาสลุ้นแชมป์ไทยลีกเต็มตัว ทั้งที่ 1 ปีกว่าก่อนหน้า เขายังร่วมหัวจมท้ายกับสมุทรปราการ และทีมต้องตกชั้นในปี 2021 - 2022 อยู่เลย เป็นการพลิกชีวิตจากทีมตกชั้นสู่ทีมลุ้นแชมป์ในช่วงเวลาไม่นานนัก

นอกจากนั้นในฟุตบอลถ้วยเอเชีย คือ ‘เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก’ ปฏิวัติมีส่วนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์กลุ่ม ทะลุเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของสโมสร ยิ่งทำให้เขาโดดเด่น และถูกจับตามองว่า จะได้เป็นมือ 1 ทีมชาติไทยตั้งแต่เกมคัดฟุตบอลโลก 2026 นัดแรกกับจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหรือไม่ สุดท้าย มาโน่ โพลกิ้ง ก็เลือกปฏิวัติเฝ้าเสา

แต่จากความพ่ายแพ้ต่อจีน 1 - 2 ส่งผลให้เกมคัดบอลโลกนัดต่อมากับสิงคโปร์ มาโน่เลือกใช้ ‘กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล’ เป็นมือ 1 แทน ปฏิวัติ และ ‘ช้างศึก’ ก็สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ จึงเห็นได้ว่า ยังไม่มี ‘ใคร’ การันตีมือ 1 ทีมชาติไทย ท่ามกลางนายประตูมือดีทั้ง กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, สมพร ยศ, สรานนท์ อนุอินทร์, กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หรือ แม้แต่ ฉัตรชัย บุตรพรม ก็ต่างมีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดลุยศึกเอเชี่ยนคัพ 

มือ 1 ทีมชาติไทยแบบถาวร?

มองไปเส้นทางข้างหน้า หลังจากที่ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่นได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือทีมชาติไทย มีเวลาไม่มากนักในการเตรียมทีมลุยศึกเอเชี่ยนคัพ 2023 

โดยในเกมอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่น วันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นนัดแรกของ อิชิอิ ในการคุมทีมชาติไทย เขาประกาศรายชื่อนักเตะออกมา 23 คน ซึ่งมีผู้รักษาประตู 2 คน ท่ามกลางนายด่านมือดีในไทยลีกนับ 10 ราย ปฏิวัติ ในวัย 29 ปี ได้รับเลือกพร้อมกับ ศิวรักษ์ ในวัย 39 ปี ให้อยู่ในทีมชุดแรกที่บุกเยือนแดนอาทิตย์อุทัย

เนื่องจากทั้งคู่เล่นได้สม่ำเสมอมากที่สุด ‘ไมค์’ เสียเพียง 7 ประตูในไทยลีก ทำไป 8 คลีนชีตให้กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด  ส่วน ‘แชมป์’ เสียไป 11 ประตูในลีก แต่รักษาคลีนชีตได้ถึง 9 นัดให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นอกจากนั้นทั้งคู่ยังได้เล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และที่สำคัญยังเคยเป็นลูกทีมอิชิอิในระดับสโมสรมาก่อนอีกด้วย

เกมวันที่ 1 มกราคม ต้นปีที่ผ่านมา เมื่อมีการประกาศสตาร์ตลิสต์ 11 คนแรกออกมา ปฏิวัติ ได้ลงสนามก่อน ศิวรักษ์ และเล่นตลอด 90 นาที แม้ว่า จะโดนยิงไปถึง 5 ประตู แต่ระหว่างเกมก็ยังแสดงความกล้าหาญ และช่วยเซฟประตูไว้ได้บ้างไม่ให้ทีมช้างศึกโดนยิงไปมากกว่านั้น

จากการเลือกใช้งานผู้รักษาประตูในเกม ‘เดบิวต์’ ของ อิชิอิ ก็เป็นที่ชัดแล้วว่า ปฏิวัติจะเป็นตัวเลือกแรกของทีมในศึกเอเชี่ยนคัพ ซึ่งฟอร์มนัดแรกกับ คีร์กีซสถาน ที่ไทยชนะ 2 - 0 แม้จะไม่ได้เซฟลูกยากมากนัก แต่ตอนนี้ถือว่า เขาเป็นโกล์ที่อิชิอิไว้ใจ ซึ่งจากเกมดังกล่าวเขาได้รับคำชื่นชมถึงแนวทางการออกบอลตามแบบฉบับโกล์สมัยใหม่ โดยเฉพาะบอลยาวที่ถือว่า หวังผลได้ อีกด้วย

กุนซือญี่ปุ่นผู้เคยได้แชมป์เจลีกมาแล้ว เผยว่าด้วยเวลาที่มีไม่มากนัก จึงเลือกผู้เล่นที่เคยเล่นด้วยกัน และทำงานร่วมกันมาก่อนลงสนามเป็นตัวจริงถึง 7 รายในเกมกับคีร์กีซสถาน 

“ผมคิดว่า การที่ผู้เล่นส่วนหนึ่งในทีมเคยเล่นด้วยกัน มีส่วนสำคัญมาก ทำให้เราเก็บชัยชนะในเกมนี้’ 

ส่วนปฏิวัติที่เคยฝันร้ายมาก่อน แต่จบเกมกับคีร์กีซสถาน เขาฝันดี มีรอยยิ้มให้เห็น พร้อมบอกด้วยว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ลงสนามเป็นตัวจริงและไม่เสียประตูในนามทีมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นในนัดที่ 7 นี้

“ผมดีใจที่ได้ 3 แต้ม และไม่เสียประตู มันเป็นครั้งแรกที่ผมทำคลีนชีตในนามทีมชาติไทยชุดใหญ่ในวันที่ลงสนามเป็นตัวจริง การชนะทำให้ผมและทีมมั่นใจมากขึ้น เป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ ครับ”

คงยังไม่มีเหตุผลที่ อิชิอิ จะเปลี่ยนผู้รักษาประตูมือ 1 ในทัวร์นาเม้นต์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียในเกมต่อ ๆ ไป และด้วยฝีมือ ฟอร์ม อายุ ความกล้าหาญ เคยเป็นลูกศิษย์เก่า รวมถึงความเป็นโกล์ในแบบยุคใหม่ คงมีเหตุผลมากพอที่จะส่งให้ ‘ปฏิวัติ คำไหม’ ได้เฝ้าเสาในฐานะมือ 1 ทีมชาติไทยไปได้อีกยาว ๆ

 

เรื่อง : My name is
ภาพ : สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย