‘อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์’ กองกลางแชมป์โลก ความหวังใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์

‘อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์’ กองกลางแชมป์โลก ความหวังใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์

‘อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์’ กองกลางมากฝีมือทีมชาติอาร์เจนติน่า และนักเตะความหวังใหม่ของสโมสรลิเวอร์พูล

ย้อนกลับไปในการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่า เวิลด์ คัพ (FIFA World Cup) ที่ผ่านมา ณ ประเทศกาตาร์ ซึ่งทีมชาติอาร์เจนติน่าสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 มาครองได้สำเร็จนั้น หนึ่งในนักฟุตบอลที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและคงเส้นคงวาจนเป็นกำลังสำคัญให้ทีมฟ้าขาวประสบความสำเร็จได้นั้น ก็คงจะต้องมีชื่อของ ‘อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์’ รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรในประเทศอาร์เจนติน่าก่อนจะพัฒนาฝีเท้าจนได้มีโอกาสเดินทางมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก (Premier League) ประเทศอังกฤษกับสโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (Brighton & Hove Albion) เป็นระยะเวลากว่า 4 ฤดูกาล จากนั้นเจ้าตัวก็ย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์เพื่อตามล่าความฝันในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับลิเวอร์พูลในฤดูกาลล่าสุด (2023 - 2024)

ล่าสุดในเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สามารถทำประตูและมีส่วนร่วมกับการทำประตูหรือแอสซิสต์ได้ถึง 6 นัดติดต่อกัน โดยเฉพาะในเกมที่สโมสรลิเวอร์พูลเปิดบ้านเสมอกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้นั้น เจ้าตัวก็ฮีโร่ที่ยิงลูกโทษที่จุดโทษตีเสมอทีมเรือใบสีฟ้าและทำให้หงส์แดงยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ซึ่งด้วยผลงานของเจ้าตัวจึงไม่น่าแปลกใจที่มิดฟิลด์อาร์เจนติน่ารายนี้คือขวัญใจของเหล่า ‘เดอะ ค็อป’ ในปัจจุบัน 

เรื่องราวเส้นทางการค้าแข้งของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จะเป็นอย่างไร เรามาร่วมเดินทางย้อนกาลเวลาไปด้วยกันครับ

เริ่มต้นกับอาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ที่ในบ้านเกิด

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 1998 ณ เมืองซานตา โรซา ประเทศอาร์เจนติน่า เจ้าตัวเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับพี่ชายก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสโมสรคลับ โซเซียล แอนด์ เดปอร์ติโบ ปาร์เก้ (Club Social & Deportivo Parque) จากนั้น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ก็ย้ายมาร่วมทีมเยาวชนของสโมสรแอสโซซิเอชั่น แอธเลติกา อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส (Asociación Atlética Argentinos Juniors) และหลังจากที่เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงปี ค.ศ. 2015 เขาก็ได้เลื่อนจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ทีมอาร์เจนติโนส จูเนียร์ส 2 หรือทีมสำรองของสโมสรนั่นเอง

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ใช้เวลากว่า 2 ปีในการบ่มเพาะฝีเท้าและสร้างประสบการณ์ จึงสามารถก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2017 ซึ่งเพียงแค่ฤดูกาลแรกในการลงสนามกับทีมชุดใหญ่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ก็สามารถคว้าแชมป์พริมีรา นาซิอองนาล (Primera Nacional) หรือก็คือฟุตบอลลีกระดับเทียร์ 2 ของประเทศอาร์เจนติน่าร่วมกับสโมสรได้ โดยเจ้าตัวลงสนามไปทั้งสิ้น 24 นัดทำประตูได้ 3 ประตู (อ้างอิงข้อมูลจาก www.transfermarkt.com)

เซ็นสัญญากับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2019 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์เซ็นสัญญากับสโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนในศึกพรีเมียร์ลีก เป็นระยะเวลา 4 ปีครึ่ง แต่ก็ถูกยืมตัวกลับไปเล่นในฟุตบอลลีกอาร์เจนติน่ากับแอสโซซิเอชั่น แอธเลติกา อาร์เจนติโนส จูเนียร์สและคลับ แอตเลติโก โบคา จูเนียร์ส (Club Atlético Boca Juniors) ก่อนจะกลับมายังสโมสรไบรท์ตันอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมของปีถัดมา

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงสนามนัดแรกในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 ในเกมที่สโมสรไบรท์ตันบุกไปเสมอกับสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส โดยเจ้าตัวมีโอกาสลงสนาม 10 นาที โดยในฤดูกาลดังกล่าว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงสนามไปทั้งสิ้น 9 นัด ระยะเวลารวม 347 นาที จากนั้นในฤดูกาล 2020 - 2021 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามมากขึ้น และเพียงแค่การลงสนามนัดแรกของฤดูกาลในแมตช์เดย์ 5 กับสโมสรคริสตัล พาเลซ เจ้าตัวก็สามารถทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในจังหวะซัดด้วยเท้าขวาหน้ากรอบเขตโทษลูกบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปแบบงดงาม โดยในฤดูกาลดังกล่าวเจ้าตัวได้ลงสนามไป 21 นัด ระยะเวลารวมกว่า 1,114 นาที และทำได้ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ 

จากนั้นในอีก 2 ฤดูกาลถัดมาระหว่างปี ค.ศ. 2021-2023 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็กลายเป็นกำลังหลักของทีมไบรท์ตันโดยเจ้าซัดประตูรวมไปกว่า 15 ประตูในพรีเมียร์ลีก จากการลงสนาม 68 นัดระยะเวลารวม 5,000 นาที และด้วยผลงานดังกล่าวทำให้เจ้าตัวได้กลับไปติดทีมชาติอาร์เจนติน่าอีกครั้ง

เส้นทางสายทีมชาติ หนึ่งในนักเตะประวัติศาสตร์ชุดแชมป์โลก

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ติดทีมชาติอาร์เจนติน่าครั้งแรกในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรกับทีมชาติชิลี เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2019 และตามต่อด้วยเกมกับทีมชาติเม็กซิโกในอีก 5 วันถัดมา ก่อนที่ในช่วงปี ค.ศ. 2020 - 2021 เจ้าตัวจะลงไปเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดอายุไม่เกิน 23 ปี และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ก็คือหนึ่งในขุนพลทีมฟ้าขาวชุดลุยโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2021

หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 23 ปี อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ก็หวนคืนสู่ทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2022 เพื่อทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เจ้าตัวต้องพลาดการลงสนามเพราะติดเชื้อโควิด อย่างไรก็ตามช่วงเวลาของอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็มาบรรจบกันอีกครั้งอย่างลงตัวในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2 นัดสุดท้ายกับทีมชาติเวเนซุเอลาและทีมชาติเอกวาดอร์

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์มีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ และเจ้าตัวก็ได้รับความไว้วางใจจากกุนซือลิโอเนล สกาโลนี่ ให้ลงสนามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การแข่งขันรอบแรก นัดที่ 2 เรื่อยมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศกับทีมชาติฝรั่งเศส โดยเกมที่ทำให้ผู้คนจดจำชื่อของเจ้าตัวก็คือในการแข่งรอบแรกนัดสุดท้ายกับทีมชาติโปแลนด์ โดยอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สามารถยิงประตูแรกในนามทีมชาติอาร์เจนติน่าและในฟุตบอลโลกได้สำเร็จ และประตูดังกล่าวก็ทำให้ทีมฟ้าขาวผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ก่อนจะไปคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในที่สุด

เริ่มต้นตำนานบทใหม่กับลิเวอร์พูล

ด้วยผลงานอันโดดเด่นของอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับสโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนและทีมชาติอาร์เจนติน่า ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากสโมสรลิเวอร์พูลอีกหนึ่งยอดทีมผลงานดีในศึกพรีเมียร์ลีก ก่อนที่สุดท้ายแล้วมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนติน่าจะเซ็นสัญญากับหงส์แดงด้วยค่าตัวราว 55 ล้านปอนด์ ด้วยสัญญาระยะเวลา 5 ปี 

“ผมรู้สึกว่ามันเหมือนความฝันที่กลายเป็นความจริง มันเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมทั้งในการแข่งขันฟุตบอลโลกและการทำผลงานได้ดีกับไบรท์ตัน ผมจะพยายามเป็นนักเตะที่ดีขึ้น และเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อลิเวอร์พูล”

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ถือว่าเป็นกองกลางที่มีความครบเครื่องทั้งเรื่องของการทำเกมรุก การจ่ายบอลที่แม่นยำ หรือในบ้างครั้งก็สามารถเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ชาญฉลาด มีเซนส์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดี คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจจาก ‘เจอร์เกน คล็อปป์’ ให้เป็นนักเตะเจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะพาลิเวอร์พูลไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งฤดูกาลที่อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์เจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้ใจได้อย่างคุ้มค่า เจ้าตัวลงสนามให้ลิเวอร์พูลไปแล้วกว่า 36 นัด รวมทุกถ้วยและทำผลงานไป 6 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ (สถิติ ณ วันที่ 7 เมษยน ค.ศ. 2024) ขึ้นแท่นเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวกเดอะ ค็อป ได้แบบไร้ข้อกังขาใด ๆ

ครับและนี่คือเรื่องราวของ ‘อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์’ กองกลางมากฝีมือทีมชาติอาร์เจนติน่าและนักเตะความหวังใหม่ของสโมสรลิเวอร์พูล

 

เรื่อง: ธิษณา ธนคลัง - เต้นคุง (The Sportory)  

ภาพ: Getty Images