‘รุด ฟาน นิสเตลรอย’ เพชฌฆาตผู้ที่จะมากอบกู้ ‘ปีศาจแดง’?

‘รุด ฟาน นิสเตลรอย’ เพชฌฆาตผู้ที่จะมากอบกู้ ‘ปีศาจแดง’?

‘รุด ฟาน นิสเตลรอย’ เด็กหนุ่มจากออสของเนเธอร์แลนด์ ผู้เคยเป็นที่หมายปองของสโมสรยักษ์ยุโรป กับการถูกจับตาในฐานะเพชฌฆาตที่จะมากอบกู้ ‘ปีศาจแดง’?

KEY

POINTS

  • ก่อนจะกลายเข้ามาเป็นชายผู้ยืนเคียงข้าง ‘เอริก เทน ฮาก’ กุนซือแมนเชสเตอร์ รุด ฟาน นิสเตลรอย เคยเป็นเพชฌฆาตที่ยิงประตูได้เฉียบขาด
  • เขาเคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุค เขาใช้ชีวิตในวงการลูกหนัง และตัดสินใจแขวนสตั๊ดมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติเนเธอแลนด์
  • การเข้ามาเป็นผู้ช่วยโค้ชของเทน ฮาก เป็นการคืนสู่เหย้าในรอบ 18 ปีของ รุด ฟาน นิสเตลรอย  

“มันเป็นเรื่องพิเศษที่ได้กลับมาจริง ๆ หมายถึง เมื่อ ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ เสนอโอกาสให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม มันสุดยอดมาก

“ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถปฏิเสธได้”

ประโยคแรกของ ‘รุด ฟาน นิสเตลรอย’ หลังจากเข้ารับตำแหน่งมือขวาของ ‘เอริก เทน ฮาก’ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งอดีตดาวซัลโว ‘ปีศาจแดง’ ยอมรับว่า คาดไม่ถึงกับดีลนี้ เพราะเดิมทีเมื่อต้นซีซั่น ‘ฟาน เดอะ แมน’ เป็นตัวเต็งผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ และเบิร์นลี่ย์ มากกว่า แต่เมื่อมีข้อเสนอจากสโมสรที่เขารัก และเคยสร้างผลงานระดับตำนานเข้ามา ก็ไม่อาจบอกปัดไปได้

จุดเริ่มปีศาจจอมถล่มประตู

หลังจากโชว์สถิติการยิงประตูด้วยค่าเฉลี่ยเกือบ 1 นัดต่อ 1 ประตูในลีกให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น กับ 62 ประตูจาก 67 เกม นำทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติดในปี 1999-2000 และ2000-2001 ชื่อของ รุด ฟาน นิสเตลรอย เด็กหนุ่มจากออส เมืองทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ ก็เป็นที่หมายปองของสโมสรยักษ์ยุโรปในทันที กับลีลาการยิงประตูที่คมกริบ พร้อมกับมีทักษะเบสิคที่ยอดเยี่ยม พังตาข่ายได้ทุกจังหวะ มีสัญชาตญาณเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษอย่างเต็มเปี่ยม

ฝีเท้าของ นิสเตลรอย ไปสะดุดตา ‘ดาร์เรน’ ลูกชายของ ‘เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ ผู้จัดการทีมปีศาจแดงในขณะนั้นเข้าอย่างจัง เนื่องจาก ดาร์เรน กำลังทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฮีเรนวีนคู่แข่งของพีเอสวี อยู่พอดี ดาร์เรน รีบโทรบอกป๊ะป๋าด้วยความตื่นเต้น “คุณต้องเซ็นสัญญากับ ฟาน นิสเตลรอย เดี๋ยวนี้ เราเห็นมาแล้ว เขามหัศจรรย์จริง ๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘เฟอร์กี้’ ก็ได้ส่งตัวแทนไปชมเกมของพีเอสวีในนัดถัดมาทันที และตัดสินใจเซ็นสัญญากับ นิสเตลรอย ในวันรุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยค่าตัว 18.5 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2000 และเตรียมจะแถลงข่าวเปิดตัวอยู่แล้ว แต่ รุด ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะเรื่องความฟิต เนื่องจากบาดเจ็บหนักที่หัวเข่ามา ไม่ได้ช่วยต้นสังกัดในช่วงปลายฤดูกาล ทำให้ต้องรอไปอีก 1 ปี สุดท้าย นิสเตลรอย ก็ผ่านการทดสอบร่างกาย ย้ายมาในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด สวมเสื้อหมายเลข 10 ต่อจาก เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ด้วยค่าตัวที่เพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านปอนด์

วันนั้น ศูนย์หน้าที่กำลังเติบโตเต็มวัยด้วยอายุ 25 ปี ประกาศอย่างมั่นใจว่า “ค่าตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับผม มันช่วยผมด้วยซ้ำ เพราะมันหมายความว่า ยูไนเต็ด ให้ความมั่นใจในตัวผมมาก ๆ”

ตลอดเวลาที่ค้าแข้งใน ‘โรงละครแห่งความฝัน’ 5 ปี ระหว่างปี 2001-2006  ‘ฟาน เดอะ แมน’ ยิงประตูสำคัญมากมาย ทำไป 150 ประตูให้กับทีม จาก 219 เกม มีส่วนสำคัญพาทีมทวงแชมป์แชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2002-2003 พร้อมยังได้แชมป์ เอฟเอคัพ และลีกคัพ อย่างละ 1 สมัย ทำสถิติสำคัญ อาทิ ดาวซัลโว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย, ดาวซัลโว และผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก 1 ครั้ง

เป็นตำนานกองหน้าที่สลักจิตอยู่ในใจของ ‘เร้ด อาร์มี่’ ด้วยจำนวนการผลิตสกอร์ที่มากมาย ได้ทั้งลูกเท้า ลูกโหม่ง มีความทุ่มเท เป็น ‘เพชฌฆาตของแท้’ ยิงประตูได้เฉียบขาด และได้ทุกจังหวะ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุค
 

รอย คีน อดีตกัปตันจอมดีเดือด เคยชื่นชม นิสเตลรอย ว่า “เขาคือผู้จบสกอร์ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 กับผู้รักษาประตู เมื่อเขาหลุดไป ผมไม่เคยสงสัยเขา กองหน้าบางคนอาจจะคิดว่า ‘โอ้พระเจ้า จะยิงต่ำ และแรง หรือจะยกบอลข้ามไปดีนะ?แต่เมื่อรุดผ่านไปจุดนั้นแล้ว เหมือนกับว่าไม่มีผู้รักษาประตูอยู่เลย”

สไตล์การคุมทีมคล้าย ‘เทน ฮาก’?

หลังแขวนสตั๊ดกับ มาลาก้า ในลาลีก้า สเปน เมื่อ 11 ปีที่แล้ว นิสเตลรอย เริ่มงานโค้ชในวัย 37 กระรัต โดยกลับไปรับงานในถิ่นฟิลิปส์ สตาดิโอน กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น อีกครั้ง ทำหน้าที่เป็นโค้ชฝึกหัดของทีมชุด 17 ปี ทำงานติวกองหน้าของทีม 17 ปี และ 19 ปีโดยเฉพาะ

ต่อมาในปี 2014 หลังจากจบฟุตบอลโลก ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของ กุส ฮิดดิ้งก์

ก่อนที่เมื่อ 6 ปีก่อน เขาจะเริ่มงานผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัวกับพีเอสวี ชุด 19 ปี รวมถึงได้รับการแต่งตั้งเป็นทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติชุดใหญ่กับ โรนัลด์ คูมัน และทำงานร่วมกับ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ นักเตะรุ่นพี่ในยูโร 2020 รอบสุดท้าย

ในเดือนพฤษภาคมปี 2022 นิสเตลรอย ขยับจากการคุมทีมชุด 21 ปี ได้รับการแต่งตั้งขึ้นคุมทีม ‘ชุดใหญ่’ ของ ‘พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น’ อย่างเป็นทางการ แทนที่ ‘โรเจอร์ ชมิดต์’ ที่หมดสัญญากับสโมสร

‘ดาวยิงอาชา’ มียอดกุนซือสมองเพชรอย่าง มาร์เซลโล่ บีเอลซ่า เป็นไอดอล ตอนที่ นิสเตลรอย คุม ‘พีเอสวี’ เขาจะใช้ระบบ 4-3-3 เป็นหลัก คล้ายกับที่ เอริก เทน ฮาก ใช้กับแมน ยูไนเต็ด ในเวลานี้

มีกองหน้าที่รูปร่างสูงใหญ่ โดยใช้ ลุค เดอ ยอง กัปตันทีมยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า มีปีกที่มีความเร็วคล่องตัวทั้ง โคดี้ กั๊กโป, โยฮัน บากาโยโก้, ซาฟี ซีโมนส์ โดยปีกที่ถนัดเท้าซ้าย จะไปเล่นทางขวา ส่วนที่ถนัดเท้าขวาจะเล่นทางซ้าย มีตัวปั้นเกมในตำแหน่งหมายเลข 10 คือ กุส ทิล

และที่ขาดไม่ได้คือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเท้าซ้ายในเวลานั้น ‘โค้ชรุด’ ใช้ ‘จาร์ราด แบรนธ์เวต’ ที่ยืมตัวมาจากเอฟเวอร์ตัน ปักหลักในแผงหลัง

ส่วนแทคติกการเล่นนั้น นิสเตลรอย เคยอธิบายไว้ในช่อง The Coaches’Voice ว่า ชอบเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ออกบอลได้ดี คู่เซ็นเตอร์ต้องเล่นลูกหัวได้ดี ขณะที่แบ็ค สามารถเปิดบอลจากกราบได้แม่นยำ และมีความเร็ว

แดนกลางจะมีผู้เล่นกองกลางตัวคุมเกม หรือ Holding midfield ยืนตำแหน่งใกล้กับกองหลัง คอยเชื่อมเกม และมีผู้เล่นแบบ BOX TO BOX เป็นมดงานให้กับทีม

ตัวรุกทางซ้ายใช้ โคดี้ กั๊กโป, ซาฟี ซีโมนส์ ตัดเข้ากลาง เพื่อเปิดทางให้ แพทริค ฟาน อานโฮลต์ เติมจากแบ็คซ้ายขึ้นสูง

การเล่นเกมรุก วาง ลุค เดอ ยอง ยืนหน้า และให้ กุส ทิล ขยับมายืนใกล้กับลุค  รุดย้ำว่า ผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์หมายเลข 10 นอกจากจะสอดจากแถวสองเข้าไปทำประตูได้แล้ว ต้องเล่นเกมรับได้ดีด้วย

โค้ชรุด ชอบ ลุค เดอ ยอง มาก เพราะเป็นผู้เล่นที่ใช้ศีรษะได้ดีมาก ๆ และยังสามารถอ่านการสร้างเกมจากแดนหลังของคู่แข่งได้ดี

พีเอสวี ชุด 2022-2023 มีการใช้เพรสซิ่งสูงด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมจาก BBC ระบุว่า เขาชอบสร้างเกมจากแดนหลัง และต้องการคอนโทรลบอลด้วย ในยุคที่โค้ชรุดคุมพีเอสวี มีเปอร์เซอร์การครองบอลเป็นอันดับ 4 ในลีก

มีการใช้อินเวิร์ทฟูลแบ็ค และให้อิสระกับผู้เล่นในตำแหน่งปีกในการเลี้ยงตะลุย ซีซั่นนั้น พีเอสวี ถล่มประตูได้สูงที่สุดในเอเรดิวิซี่ ลีกที่ 89 ประตู เสียไป 40 ประตู แต่ได้เพียงรองแชมป์ โดยพ่ายให้กับ เฟเยนูร์ด อย่างไรก็ตาม นิสเตลรอย พาสโมสรคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย KNVB CUP โดยชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในรอบชิงชนะเลิศ อีกทั้ง ยังพาทีมได้แชมป์ศึกชิงโล่ห์ Johan Cruyff Shield ตอนต้นฤดูกาลอีก 1 รายการ

อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่เขาจะได้สร้างภาพยนตร์เรื่องยาว นิสเตลรอย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งขณะที่เหลือเกมเตะในลีกอีก 1 นัด เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากพอจากบอร์ดสโมสร

ตำนานปีศาจเคยล้มเหลวมาแล้ว

ไรอัน กิ๊กส์, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และไมเคิล คาร์ริก คือ อดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ในเป็นผู้จัดการทีมปีศาจแดงหลังจากการวางมือของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อดีตกัปตันทีมชาติเวลส์ รับงานชั่วคราวต่อจาก เดวิด มอยส์ ที่โดนปลด เมื่อเมษายนปี 2014

ปีกพ่อมด คุมทีมไป 4 นัด ชนะ 2 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด กิ๊กส์ ได้รับโอกาสอยู่กับทีมต่อในตำแหน่งมือขวาของ หลุยส์ ฟาน กัล ต่อ พร้อมกับมีความปรารถนา จะเป็นกุนซือยูไนเต็ดในอนาคต แต่หลังจากบอร์ดบริหารไล่ ‘อาจารย์หลุยส์’ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่สามารถพาสโมสรคว้าตั๋วไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ กิ๊กส์ ก็ไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก

ฝั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ รับงานต่อจาก โจเซ่ มูรินโญ่ ที่โดนปลดไปเช่นกัน แม้ก่อนหน้านั้น 2 ซีซั่น ‘จ่ามู’ จะพาทีมได้ดับเบิ้ลแชมป์ยูโรป้าลีก และลีกคัพก็ตาม

‘เพชฌฆาตหน้าทารก’ เริ่มรับงานธันวาคม 2018 คุมทีมไปทั้งสิ้น 168 แมตช์ ชนะ 91 นัด เสมอ 37 นัด แพ้ 40 นัด ช่วงแรกได้รับคำชื่นชม และกองหนุนจากเพื่อนนักเตะ แต่เมื่อไม่มีโทรฟี่ใด ๆ ติดมือ ดีที่สุดคือ การได้รองแชมป์ยูโรป้าลีก 2020–2021 สุดท้าย ‘โอเล่’ ก็ต้องแยกทางกับสโมสรหลังผลงานย่ำแย่ในซีซั่นต่อมา

ก่อนที่ ‘ไมเคิล คาร์ริก’ อีกหนึ่งตำนานที่เป็นผู้ช่วยของกุนซือชาวนอร์เวย์ จะรับงานคุมทีมต่อชั่วคราวระยะสั้น เพียงแค่ 3 นัด ในเดือนพฤศิกายนปี 2021 พร้อมกับฝากผลงาน 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 นัด และต้องหลีกทางให้ ‘ราล์ฟ รังนิค’ เข้ามา ก่อนจะมาเป็น เอริค เทน ฮาก ในปัจจุบัน

สำหรับ ฟาน นิสเตลรอย ที่คืนสู่เหย้าในรอบ 18 ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยโค้ชของ เทน ฮาก เมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมาพร้อม ‘เรเน่ เฮก’ อดีตกุนซือทีมโก อะเฮด อีเกิ้ลส์ มีสัญญาถึงมิถุนายนปี 2026

เทน ฮาก พูดถึงสองผู้ช่วยชาวดัตช์ที่เข้ามาผนึกกำลังกับทีมในซีซันนี้ว่า

“ผมยินดีที่เรเน่ และรุดได้ตกลงเข้าร่วมโปรเจกต์ของเรา ซึ่งจะช่วยเสริมประสบการณ์ ความรู้ และพลังใหม่ๆ ให้กับทีมงาน

“ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการปรับทีมโค้ชใหม่ ขณะที่เรามองหาการต่อยอดจากความสำเร็จใน 2 ปีที่ผ่านมา และก้าวไปสู่ระดับถัดไป”

ขณะที่ นิสเตลรอย ก็ชื่นชมปรัชญา และแนวทางการทำทีมของเจ้านายคนปัจจุบัน โดยพูดถึงเทน ฮาก ไว้ในช่อง The Coaches' Voice เมื่อเดือนพฤษภาคมว่า “เหล่าโค้ชชาวดัตช์ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้เรียนรู้ พัฒนาตัวเองต่อไป และบางทีสักวันหนึ่ง อาจได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมสามารถทำได้ นี่เป็นความท้าทายที่ยอดเยี่ยม”

วันนี้ รุด ยังยืนอยู่ด้านหลังของเอริก แต่ด้วยสถานการณ์ของทีมที่ยังเข้าขั้นวิกฤต แม้ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เทน ฮาก จะนำทีมเป็นผู้ชนะทั้งใน ลีกคัพ และเอฟเอคัพ

แต่กับผลงานพาทีมจบที่ 8 อันดับที่แย่ที่สุดตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีก ใช้งบซื้อผู้เล่นไปกว่า 650 ล้านยูโร ฟอร์มและผลการแข่งขันโดยรวมของ ‘เร้ด เดวิลส์’ ยังไม่ดีขึ้น บรรยากาศในทีมยังมึนตึง เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เมื่อกลุ่มทุน INEOS ของ เซอร์ จิม แรชคลิฟฟ์ ต้องการเลือกผู้จัดการทีมคนใหม่ และเมื่อ เทน ฮาก ต้องไป

“มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถปฏิเสธได้” คำ ๆ นั้น อาจเป็นคำแรกของ ฟาน นิสเตลรอย อีกครั้ง ที่ใช้ในการรับงานผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนใหม่

 

เรื่องโดย My name is

อ้างอิง:
Van Nistelrooy returns to Man Utd as assistant manager

Ten Hag explains Rene and Ruud appointments

Ruud van Nistelrooy

Roy Keane did not hesitate in naming the best finisher ‘ever,’ Man Utd legend thinks it’s a clear choice

Ruud van Nistelrooy, the head coach: Influenced by Bielsa and guiding PSV’s Champions League hopes

Ruud van Nistelrooy • Tactics, PSV v Ajax • Masterclass