25 พ.ย. 2567 | 16:23 น.
KEY
POINTS
นับตั้งแต่ ‘เทรเวอร์ ฟรานซิส’ ได้ชื่อว่าเป็นนักบอลค่าตัว 1 ล้านปอนด์คนแรก ในปี ค.ศ. 1979 แม้จะเป็นที่ฮือฮา แต่ข่าวสารก็เคลื่อนตัวช้าในยุคนั้น กว่าข่าวจะแพร่กระจายไปทั่วโลกต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ซึ่งต้องผ่านกระบวนการซื้อข่าวและแปลข่าวเป็นภาษาต่าง ๆ
จากนั้นค่าตัวนักเตะก็ขยับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึง 100 ล้านปอนด์ในปี ค.ศ. 2023 คือ ‘เอนโซ เฟร์นันเดซ’ ควบคู่ไปกับความรวดเร็วของข้อมูลข่าวสารที่เดินทางเร็วเท่ากันทั่วโลก จากการเกิดขึ้นของโซเชียลมีเดีย และสื่ออิสระมากมาย ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก
แน่นอนว่า ในยุคที่สื่อมีอิสระสูงสุด ก็มีทั้งข่าวจริง ข่าวปล่อย ข่าวลวง และข่าวปลอม หรือ Fake News เนื่องจากนักฟุตบอลเปรียบเสมือนดาราฮอลลีวูด หรือศิลปินเพลงระดับโลก ที่มีแฟนติดตามจำนวนมาก ความต้องการเสพข่าวเกี่ยวกับนักบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การย้ายทีมเป็นที่กระหายใคร่รู้เป็นอย่างมาก
ไม่เพียงสื่อพลเมือง แต่สื่อหลักที่มีเครดิต ต้นทุน ความน่าเชื่อถือ บางครั้งอาจใช้กลยุทธ์เต้าข่าวเพื่อเรียกเรตติ้ง ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงในบางข่าว
สิ่งที่ทับซ้อนกันอยู่อีกชั้นหนึ่งก็คือ การปล่อยข่าวของเอเจนต์นักบอลหรือนายหน้าซื้อขายนักเตะ รวมถึงสโมสรต่าง ๆ ที่ใช้กลยุทธ์ข่าวลวงเพื่อปั่นค่าตัวนักฟุตบอล เช่น ทีมนั้นทีมนี้อยากได้นักบอลคนนี้มาก ถ้าคุณต้องการก็ต้องทุ่มเงินเกทับลงมา
ทำให้ความน่าเชื่อถือของข่าวคราวการโยกย้ายนักฟุตบอล ตกต่ำลงมาก ความเชื่อถือแทบไม่เหลือ จนกระทั่งมีบุคคลผู้หนึ่งซึ่งปวารณาตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องข่าวการย้ายทีมของนักฟุตบอล ปรากฏตัวขึ้นในโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร
นับจากนั้น สื่อมวลชนแทบจะทุกแขนงต่างรอคอยข่าวจากเขา เพื่อเป็นการยืนยันการย้ายสโมสรของนักฟุตบอล ซึ่งว่ากันว่า ข่าวที่ออกมาจากเขาคนนี้ ใกล้เคียงความจริง และเชื่อถือได้ในระดับ 99.99% เลยทีเดียว
เรากำลังพูดถึง ‘ฟาบรีซีโอ โรมาโน’ เหยี่ยวข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อขาย และการย้ายสโมสรของนักเตะระดับโลก และนักฟุตบอลดัง ๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่หากได้ยิน หรือได้อ่าน คำว่า Here we go! จากเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของฟาบรีซีโอ โรมาโน เมื่อไหร่ ก็เป็นอันเชื่อขนมกินได้ว่า ข่าวนี้มีความถูกต้องเกือบ 100%
ฟาบรีซีโอ โรมาโนvเริ่มต้นอาชีพนักข่าวสายฟุตบอลเมื่ออายุเพียง 18 ปี ที่เว็บไซต์ท้องถิ่นของอิตาลี
6 เดือนต่อมา เขาได้กลายเป็น ‘นักข่าวสายโจร’ โดยไม่รู้ตัว
เมื่อจู่ ๆ ก็มีเอเจนต์นักเตะอิตาลีนิรนาม ติดต่อขอให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ช่วยเต้าข่าวเพื่อปั่นกระแสนักเตะเยาวชน โดยขอให้เขาเขียนข่าวเกี่ยวกับนักเตะดาวรุ่งจากศูนย์ฝึก ‘ลา มาเซีย’ คือ ‘เมาโร อิการ์ดิ’
หลังจากที่ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เขียนข่าวเมาโร อิการ์ดิ ทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ในกัลโช่ เซเรียอา สนใจ เมาโร อิการ์ดิ จนในที่สุด เมาโร อิการ์ดิ ได้ย้ายไปอยู่กับทีม ‘ซามพ์โดเรีย’
ข่าวดังกล่าวทำให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ถูกคนในวงการจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ นักข่าวด้านการซื้อขายนักเตะรุ่นใหญ่ของอิตาลี
จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ ทึ่งมาก หลังจากทราบว่า ฟาบรีซีโอ โรมาโน อายุแค่ 18 แต่กล้าหาญเขียนข่าวใหญ่ขนาดนี้ จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ จึงหาช่องทางติดต่อ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เพื่อดึงตัวให้เข้ามาเป็นทีมงานของตัวเองที่สถานี ‘สกาย สปอร์ต อิตาเลีย’
“การที่ผมอยู่มาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะคำแนะนำของ ดิ มาร์ซิโอ ทั้งในเรื่องการเข้าหาเอเจนต์นักเตะ การวางตัว เขาแนะนำผมผูกมิตรกับทุกคน และสอนเทคนิควิธีการเช็คข่าวจากสโมสรต่าง ๆ” ฟาบรีซีโอ โรมาโน พูดถึง ดิ มาร์ซิโอ
การที่ จานลูกา ดิ มาร์ซิโอถ่ายทอดวิชาขั้นเทพของเขาให้กับ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ก็เพราะเขาหมายมั่นปั้นมือจะให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เป็นตัวแทนตนเองต่อไปในสายข่าวตลาดซื้อขายนักเตะ
ผลลัพธ์ก็คือ ทุกวันนี้ นอกจากที่ ฟาบรีซีโอ โรมาโน จะสามารถขึ้นมาทดแทน จานลูกา ดิ มาร์ซิโอได้แล้ว ฟาบรีซีโอ โรมาโน ยังแซงหน้าอาจารย์ ด้วยการขึ้นเป็นนักข่าวสายโยกย้ายนักบอลเบอร์ 1 ของโลกเป็นที่เรียบร้อย
จากฐานแฟนคลับที่ติดตามบนทวิตเตอร์กว่า 4 ล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟาบรีซีโอ โรมาโน มีหัวหน้าโต๊ะข่าวกีฬาเป็นแฟนพันธุ์แท้ รวมถึง ผอ.สำนักข่าวต่าง ๆ แม้กระทั่งคนทำคอนเทนต์ด้านกีฬาทั่วโลก ที่ต้องพึ่งพาข้อมูลจากเขาทุกคน!
จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ปี ค.ศ. 1974 ที่กาสเตลลัมมาเร ดิ สตาเบีย ประเทศอิตาลี เป็นบุตรชายของอดีตนักฟุตบอล และอดีตโค้ช
วัยเด็กตามคุณพ่อร่อนเร่ไปในเมืองต่าง ๆ จบประถมศึกษาที่เนเปิลส์ คาตาเนีย และมัธยมศึกษาที่เลชเช่ เจนัว
หลังจากจบมัธยมปลาย จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ ตัดสินใจเรียนวารสารศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยปาดัว หลังจบปริญญาตรีในปี ค.ศ. 1994 เขาเริ่มทำงานเป็นนักข่าวที่ ‘ปาโดวา สปอร์ต’ รายการกีฬารายสัปดาห์ทางโทรทัศน์ท้องถิ่นของอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วง ‘โกลด์ ไทม์’ ที่มักมีการเชิญแขกที่มีชื่อเสียงหลายคนมาให้สัมภาษณ์
จาก ปาโดวา สปอร์ต เขาย้ายไปที่ ‘เทเล นูออโว’ และลงเอยที่ ‘สกาย สปอร์ตส์’ ก่อนจับงานข่าวโยกย้ายนักเตะอย่างเดียวจนมีชื่อเสียงในทุกวันนี้
ฟาบรีซีโอ โรมาโน เกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1993 ที่เมืองเนเปิลส์ เรียนชั้นประถมและมัธยมที่เมืองเนเปิลส์ จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยพระหฤทัยคาทอลิกในเมืองมิลาน
ฟาบรีซีโอ โรมาโน เป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านภาษา สามารถพูดได้หลายภาษา นอกจากอิตาลีภาษาแม่ แน่นอน เขาพูดภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้ยังมีความรู้ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน
ฟาบรีซีโอ โรมาโน เริ่มต้นอาชีพเป็นนักข่าวฟุตบอลในปี ค.ศ. 2009 ขณะยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย โดยในปี ค.ศ. 2010 ฟาบรีซีโอ โรมาโน ได้มีโอกาสเป็นแขกรับเชิญในช่วง ‘ทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์’ ของ ‘บีบีซี สปอร์ต’ นำไปสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขา
ปี ค.ศ. 2011 ฟาบรีซีโอ โรมาโน ได้เขียนข่าว เมาโร อิการ์ดิ ทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ในกัลโช่ เซเรียอา สนใจ เมาโร อิการ์ดิ จนในที่สุด เมาโร อิการ์ดิ ได้ย้ายไปอยู่กับทีม ซามพ์โดเรีย
ทำให้ จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ ดึงตัว ฟาบรีซีโอ โรมาโน ให้เข้ามาทำงานกับสถานีโทรทัศน์ สกาย สปอร์ต อิตาเลีย ณ ที่แห่งนี้เอง ที่ทำให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ได้มีโอกาสสร้างเครือข่ายอันกว้างขวางกับสโมสร นักเตะ และเอเจนต์ฟุตบอลทั่วทั้งยุโรป
ความที่ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เป็นเด็กที่ได้รับโอกาสจาก จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ ตั้งแต่อายุ 18 ทำให้เขาเรียนรู้เคล็ดลับจากปรมาจารย์ คือการขยัน และทุ่มเทกับการทำงาน ฟาบรีซีโอ โรมาโน ใช้เวลานอนแต่ละวันเพียง 5 ชั่วโมง เขาตื่นตัวกับการทำข่าวมาก โดยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไล่โทร.เช็คข่าวจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ที่เขาติดตามอยู่ในแต่ละวัน
โดยเฉลี่ยแล้วใน 1 วัน ฟาบรีซีโอ โรมาโน จะโทรหาแหล่งข่าวของเขามากกว่า 50 สาย รวมเวลาเดินเตร็ดเตร่ไปตามโรงแรม หรือที่พักนักฟุตบอลใกล้ ๆ กับที่ตั้งสโมสร เพื่อหาโอกาสเข้าพบเหล่าเอเจนต์ชื่อดังในวงการลูกหนังโลก
ด้วยวิธีการเหล่านนี้ ทำให้เขามีรายได้เป็นกอบเป็นกำ จากการเขียนบทความให้กับ เดอะ การ์เดียน, ซีบีเอส, จานลูกาดิมาร์ซิโอดอตคอม ซึ่งเป็นสื่อของอาจารย์ของเขา นอกจากนี้ และ ฟาบรีซีโอ โรมาโนเป็นคอลัมนิสต์ให้กับ ‘คาลซิโอ เมอคาโต’ เว็บไซต์อิตาลีแห่งแรกที่รายงานข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายนักเตะระดับโลก และอีกหลายสำนักข่าว ว่ากันว่า ฟาบรีซีโอ โรมาโน มีรายรับมากถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากการเขียนหนังสือเพียงอย่างเดียว!
“ที่มาของ Here we go คือช่วงที่ข่าวการซื้อขายซุป’ตาร์ชื่อดังกำลังเขย่าโลก คือ ‘ปอล ปอกบา’ ที่กำลังมีข่าวกับ ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ในตอนนั้น แฟนผีแดงได้เข้ามาถามถึงข่าวการซื้อ ปอล ปอกบา ทั้งวัน ทุกวัน ตลอดระยะเวลาที่มีข่าว จนสุดท้าย จบการซื้อขาย” ฟาบรีซีโอ โรมาโนกล่าว และว่า
“ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำข่าวนี้ ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานถึง 2 เดือนกว่า ๆ ทำให้ผม เลือกที่จะสรุปข่าวของปอกบา ด้วยการทิ้งท้ายประโยคสุดท้ายที่แสนจะเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่ายว่า Here we go!!!”
หลังจากดีลสุดบ้าคลั่งของ ปอล ปอกบา จบลง แฟนบอลทีมอื่น ๆ มักจะขอให้เขา ช่วยทำข่าวแบบ Here we go ต่อ นี่จึงเป็นสัญลักษณ์ว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ปิดท้ายข่าวว่า Here we go ก็แปลว่า ดีลต่าง ๆ นั้น สิ้นสุดแบบสำเร็จลุล่วงลงแล้วทุกประการ
Here we go ของ ฟาบรีซีโอ โรมาโน จึงเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับข่าวการซื้อขายนักเตะที่เชื่อถือได้ ที่มาพร้อมบทวิเคราะห์ที่แม่นยำ ตรงประเด็น
โดยเขาจะอัพข่าวทุกวัน และทั้งวัน ไม่เว้นแม้ในช่วงฤดูกาลแข่งขัน ช่วงปิดฤดูกาล ช่วง FIFA Day ช่วงบอลโลก บอลยุโรป หรือโอลิมปิก
เรียกได้ว่า มีข่าวใหม่ ๆ ของนักเตะ และข่าวเอ็กซ์คลูซีฟให้อ่านกันตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ปรัชญาการทำงานที่ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เรียนรู้จากครูของเขาคือ จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ ก็คือ จะไม่มีการสร้างข่าวปลอม หรือข่าวหลอกลวงเกินจริง เพราะการทำอย่างนั้น มันคือการฆ่าตัวตาย
เพราะ จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ สอน ฟาบรีซีโอ โรมาโน อยู่เสมอ ถึงวิธีนำเสนอ วิธีเลือกข่าว ความถูกต้อง แม่นยำ ที่สำคัญคือห้ามสร้างข่าวลือ ทำให้ทุกข่าวของ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ผ่านการตรวจสอบหลายทาง หรือที่เรียกว่า ‘Cross-checking’ ทั้งจากสโมสร และเอเจนต์นักเตะ รวมถึงแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ หรือเพื่อนร่วมวิชาชีพของเขา ที่แลกข่าวกันหลังบ้าน จนกระทั่งมั่นใจว่าข่าวที่ได้มาถูกต้องตรงกัน เขาจึงจะเผยแพร่ข่าวนั้นออกไป
ความขยันหมั่นเพียร และซื่อตรงต่อวิชาชีพนี่เอง ที่ทำให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ก้าวขึ้นมาเป็นหมายเลข 1 ของสายข่าวซื้อขายนักเตะ ที่คนทั่วโลกเชื่อมั่น ด้วยวัยเพียง 28 ปี!
ทุกวันนี้ หากมองย้อนกลับไป ความสุขของ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ที่ได้อยู่ในอาชีพนี้ก็คือ การเป็นส่วนหนึ่งของดีลใหญ่ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นเหยี่ยวข่าวคนแรกที่ได้นำเสนอดีลขนาดยักษ์
โดยดีลที่เขาประทับใจที่สุด แน่นอนว่า ย่อมเป็นดีลแรกในชีวิต นั่นคือการย้ายทีมของ เมาโร อิการ์ดิ จาก ซามพ์โดเรีย ย้ายไป อินเตอร์ มิลาน และอีกหนึ่งในดีลที่ประทับใจก็คือดีลที่ ‘บรูโน เฟร์นันเดส’ ย้ายจาก ‘สปอร์ตติง ลิสบอน’ มา ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ นั่นเอง
ทุกวันนี้ นอกจาก จานลูกา ดิ มาร์ซิโอ และ ฟาบรีซีโอ โรมาโน แล้ว เหยี่ยวข่าวชั้นนำในสายโยกย้ายซื้อขายนักฟุตบอลระดับโลกมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ที่มีชื่อเสียงรองลงมาจากทั้งคู่ เช่น ไซมอน สโตน (บีบีซี), เดวิด ออร์นสตีน (ดิ แอทเลติก), แมทท์ ลอว์ (เดอะ เทเลกราฟ), เจมส์ ดักเกอร์ (เดอะ เทเลกราฟ), ลอรี วิทเวลล์ (ดิ แอทเลติก), พอล เฮิร์สท์ (เดอะ ไทม์ส) เป็นต้น
ส่งท้ายที่นิตยสาร ‘ฟอบส์’ เคยจัดอันดับให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน อยู่ในทำเนียบ Forbes 30 Under 30 ประจำปี ค.ศ. 2022 ในสาขาสื่อและการตลาด ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ที่สร้างผลงานโดดเด่นและมีอิทธิพลในวงการสื่อและการตลาดของยุโรป
นอกจากนี้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน ยังได้รับรางวัลนักข่าวฟุตบอลยอดเยี่ยม และนักข่าวดิจิทัลยอดเยี่ยม ประจำปี ค.ศ. 2022 จาก ‘โกลบ ซอคเกอร์ อวอร์ดส์’
ส่งท้ายด้วยสื่อฟุตบอลชั้นนำอย่าง 90min ได้ยกย่องให้ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เป็นหนึ่งในแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือที่สุดในด้านการโยกย้ายซื้อขายนักฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความแม่นยำของข้อมูล
ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของเขา ทำให้มีจำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียมากมายหลายล้านคน ส่งผลให้สโมสรฟุตบอลระดับโลกจำนวนมาก เชิญ ฟาบรีซีโอ โรมาโน เข้าไปมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนการประกาศการโยกย้ายทีมของนักเตะเป็นประจำทุกฤดูกาล
เรื่อง: จักรกฤษณ์ สิริริน
ภาพ: Getty Images