My Name is Loh Kiwan : ชีวิตไร้ตัวตน ถึงจะยากแต่ต้องรอดและผ่านไปให้ได้

My Name is Loh Kiwan : ชีวิตไร้ตัวตน ถึงจะยากแต่ต้องรอดและผ่านไปให้ได้

My Name is Loh Kiwan หรือ ‘ผมชื่อโรกีวาน’ ออริจินัลภาพยนตร์ของเน็ตฟลิกซ์ นำแสดงโดย ซงจุงกิ ที่สะท้อนให้เห็นความยากลำบากของชีวิตไร้สถานะและไร้ตัวตน แต่ต้องใช้ชีวิตเพื่อความอยู่รอดและความสุขของตัวเอง

KEY

POINTS

  • My Name is Loh Kiwan ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากเน็ตฟลิกซ์ที่เล่าเรื่องชายเกาหลีเหนือที่ดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตอยู่
  • เป้าหมายของการลี้ภัยของโรกีวาน คือ การทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของแม่ ถึงมันจะยาก แต่เขาต้องผ่านไปให้ได้
  • แม้จะสะท้อนปัญหาสังคม แต่ภาพยนตร์ยังมีจุดรวบรัดตัดตอนที่ทำให้คนดูตั้งคำถามอยู่บ้างเหมือนกัน

/บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์เกาหลี My Name is Loh Kiwan (2024)/

“ผมชื่อโรกีวาน”

นี่ไม่ได้เป็นเพียงคำแนะนำตัว แต่เป็นชื่อเรื่องภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่เลือกใช้ชื่อเรื่องเป็นชื่อเดียวกับตัวละครหลัก 

เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราไปสำรวจชีวิตของ ‘โรกีวาน’ หนุ่มเกาหลีเหนือที่ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ในแผ่นดินเบลเยียม ประเทศที่ 3 ในชีวิตของเขา

ถึงมันจะยากลำบาก แต่เขาต้องผ่านไปให้ได้…

“ผมมาไกลถึงตรงนี้ เพราะตั้งใจอยากมีชีวิตในประเทศนี้ให้ได้ ต่อให้ที่นี่จะกลายเป็นขุมนรกแบบไหนก็ตาม”

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าเรื่องแบบเนิบ ๆ นิ่ง ๆ รวบรัดตัดตอนไปอยู่บ้าง แต่เราก็เห็นความพยายามของผู้กำกับที่จะสะท้อนให้เห็นความสิ้นหวังของชีวิต และชีวิตที่ไร้ทางเลือก และมีเป้าหมายเดียวที่อยากจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุข

My Name is Loh Kiwan : ชีวิตไร้ตัวตน ถึงจะยากแต่ต้องรอดและผ่านไปให้ได้

ชีวิตลับ ๆ ก่อนจะก้าวสู่ประเทศที่ 3

สำหรับโรกีวาน เบลเยียมเป็นประเทศที่ 3 ที่เขาใช้ชีวิตอยู่

ประเทศแรก คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือเกาหลีเหนือ

ก่อนจะลี้ภัยมาอยู่ในเมืองเหยียนจี๋ ประเทศจีน เมืองที่เขาเป็นคนไร้ตัวตน ออกจากบ้านไม่ได้ เพราะทนต่อความอยุติธรรมตรงหน้าไม่ได้ ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่บนชั้น 2 ของตึกแถว โดยมีแม่เป็นเสาหลักครอบครัว 

ไม่เพียงเท่านั้น ในเมืองจีน แม่ของกีวานยังต้องทำเป็นไม่รู้จักลูกชาย เพื่อปกป้องความปลอดภัยของลูก วันสุดท้ายของเธอ เธอก็ยังเป็นคนที่วิ่งหนีการจับของตำรวจในประเทศ

My Name is Loh Kiwan : ชีวิตไร้ตัวตน ถึงจะยากแต่ต้องรอดและผ่านไปให้ได้ เมื่อแม่จากไป เขาก็ย้ายเข้ามาอยู่เบลเยียมตามคำสั่งเสียของแม่ก่อนหมดลมหายใจที่อยากให้ลูกชายมีชีวิตที่ดี

“กีวาน ลูกจะตายไม่ได้นะ ไปอยู่ในที่ที่ดี ๆ แล้วมีชีวิตให้ได้ อยู่อย่างภูมิใจ ใช้ชื่อของลูกเอง ไปใช้ชีวิตให้เหมือนคนนะลูก”  นี่คือคำสุดท้ายของแม่

ร่างไร้วิญญาณของแม่ถูกขายให้โรงพยาบาลอย่างลับ ๆ เพื่อนำเงินมาเป็นทุนการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แม้จะเสียใจจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อ และตั้งเป้าหมายใหม่ในประเทศที่ 3 

ชีวิตไร้ตัวตนที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง

หลังจากการสัมภาษณ์ครั้งแรกผ่านไป กีวานถูกซักประวัติเบื้องต้น แนะนำตัว ชื่อ สถานที่เกิด และรายละเอียดการขอลี้ภัย แต่เขาก็ต้องรอเวลาเพื่อให้ทางรัฐบาลเบลเยียมตรวจสอบข้อมูลว่า ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง

และดูเหมือนว่า เขาจะต้องใช้ชีวิตในฐานะคนไร้ตัวตนไปช่วงหนึ่งก่อนจนกว่าเขาจะขอลี้ภัยสำเร็จ

แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เขาไม่รู้จักใคร คืนแรกโดนคนแปลกหน้ายึดห้อง ต้องนอนในห้องน้ำ หาเศษอาหารจากขยะกินประทังความหิว เดินเก็บขวดขายเพื่อซื้อน้ำสะอาดมาดื่ม และยังต้องสู้กับนักเลงท้องถิ่นอีก

My Name is Loh Kiwan : ชีวิตไร้ตัวตน ถึงจะยากแต่ต้องรอดและผ่านไปให้ได้

แล้วถ้าเขาไม่บังเอิญเจอ ‘อีมารี’ สาวสัญชาติเกาหลีที่ขโมยกระเป๋าตังค์เขาไป มีโอกาสไปเจอนายหน้าที่ปลอมชื่อให้ เขาก็คงจะไม่มีวันได้เข้าทำงานในโรงงานแพ็คเนื้อหมูได้เลย

ไม่เพียงแค่กีวาน แต่ซองจู เพื่อนร่วมงานจากเกาหลีใต้ก็กำลังใช้ชีวิตอย่างขันแข็งไม่ต่างกันเพื่อหาเงินส่งให้ลูกที่บ้านเกิด โดยหวังว่าครอบครัวจะพร้อมหน้ากันได้ในสักวัน

การต่อสู้กับตัวเองและระบบลี้ภัยของเบลเยียมก็ทำให้กีวานได้รับสถานะลี้ภัยสำเร็จจากคนรอบข้างที่คอยช่วยเหลือเขาในทุกขั้นตอน 

 

สิทธิที่จะแสวงและมีความสุข

เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันหลายครั้ง ทั้งกีวานและมารีก็มีความรู้สึกดีให้กัน

ความสุขที่เกิดขึ้น ทำให้คนสองคนเริ่มตั้งคำถามกับความสุขที่พวกเขากำลังเผชิญ

คนหนึ่งก็พยายามทุกอย่างเพื่อมีชีวิตอยู่ แม้ในใจจะกล่าวโทษตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน เพราะคิดว่าเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่จากไป

อีกคนหนึ่งก็พยายามทุกอย่างเพื่อจากโลกนี้ไป เพราะลึก ๆ เธอคิดถึงแม่ที่จากไปอย่างกะทันหัน 

“คนอย่างฉันคู่ควรกับความสุขเหรอ” กีวานถามมารี

“ฉันก็ไม่คู่ควร แต่ว่าตอนนี้เรามีความสุขกันไปแล้ว ต่อให้ไม่คู่ควร แต่เราก็ได้มันมาแล้ว” มารีตอบ

เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานะมั่นคงหรือเปราะบาง ทุกคนมีสิทธิที่จะแสวงหาความสุข และมีความสุขในแบบของตัวเอง

My Name is Loh Kiwan : ชีวิตไร้ตัวตน ถึงจะยากแต่ต้องรอดและผ่านไปให้ได้

หนังที่เล่าเรื่องแบบนิ่ง ๆ 

แม้จะพยายามสอดแทรกเรื่องราวสอนใจมากมาย แต่ในฐานะคนดู หนังเล่าเรื่องนิ่งเกินไปและสะท้อนปัญหาการลี้ภัยได้เพียงผิวเผิน 

ขณะเดียวกัน การตัดไปตัดมา มีหลายเส้นเรื่องมากเกินไป ทำให้เกิดข้อคำถามระหว่างดูอยู่ไม่น้อย เช่น ทำไมพระเอกต้องย้ายออกจากเกาหลีใต้ บ้านหลังที่สองของกีวานในจีน เขาไปเห็นอะไร ถึงต้องอยู่แต่บ้าน หรือการยอมรับในตัวกีวานของพ่อนางเอกก็ดูจะง่ายเกินไป รวมถึงบทบาทของซังจองที่ดูน้อยจนเกินไป นอกจากเพื่อนร่วมงานและตัวละครสำคัญที่ทำให้พระเอกได้รับสัญชาติเท่านั้น

ส่วนถ้ามองในเรื่องนักแสดงแล้ว เรื่องนี้ถือว่า ‘ซงจุงกิ’ ก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน อาจเป็นเพราะเคยผ่านบทบาทใกล้เคียงกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้า แต่ที่น่าสนใจจนอยากค้นประวัติต่อ คือ ‘ชเวซองอึน’ ที่คาดว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ มีผลงานผ่านมาไม่กี่เรื่อง แต่แสดงกับนักแสดงรุ่นพี่ได้ดีและดูเป็นธรรมชาติมาก

แต่ถึงอย่างนั้น เราก็เห็นถึงความพยายามของผู้กำกับที่จะสะท้อนให้เห็นความสิ้นหวังของชีวิต และชีวิตที่ไร้ทางเลือก และมีเป้าหมายเดียวที่อยากจะมีชีวิตที่ดีและมีความสุข

 

เรื่อง : ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ภาพ : Netflix