08 ก.ค. 2567 | 19:00 น.
หากนับตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ ก็เป็นเวลากว่า 23 ปีแล้ว นับตั้งแต่ ‘คอนเสิร์ตเพื่อเพื่อน’ ที่วงร็อคในตำนานของประเทศไทยอย่าง ‘โลโซ’ (Loso) ได้ขึ้นบรรเลงคอนเสิร์ตร่วมกันในปี 2544 และแน่นอนว่าภายในช่วงเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมานั้น เสียงดนตรีที่ Loso ได้สร้างสรรค์เอาไว้ ก็ได้เดินหน้าบรรเลงอยู่ในสังคมไทยไม่จางหายไป แม้ว่าวง Loso จะได้เดินหน้ากันไปคนละทิศคนละทางแล้วก็ตาม
จนกระทั่ง 23 ปีต่อมา ในวันที่ Loso ได้ก้าวเข้าสู่อายุ 28 ปี ‘เสก - เสกสรรค์ ศุขพิมาย’, ‘ใหญ่ - กิตติศักดิ์ โคตรคำ’, ‘กลาง - ณัฐพล สุนทราณู’ และ ‘รัฐ - อภิรัฐ สุขจิตร’ ก็ได้กลับมายืนบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ร่วมกันในนาม ‘Loso’ อีกครั้ง ใน ‘28 Yrs LOSO - We Are the Rock & Roll’ ที่จะชุบชีวิตจิตวิญญาณร็อคแอนด์โรลและลมหายใจของ Loso ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง
แน่นอนว่าสาเหตุที่เราเรียกคอนเสิร์ตนี้ว่าเป็น ‘คอนเสิร์ตใหญ่’ ของวง Loso มาจากการที่เหล่าสมาชิก ไม่ว่าจะเป็น เสก ใหญ่ รัฐ หรือกลาง จะกลับมายืนบนเวทีและบรรเลงเสียงเพลงร่วมกันอีกครั้ง หลังจากทิ้งห่างไปเกินสองทศวรรษ แต่เมื่อได้ชมคอนเสิร์ตนี้แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าความ ‘ใหญ่’ ที่ว่า รวมถึงคุณภาพและพลังที่อัดแน่นตลอดโชว์ที่ Loso มอบให้แก่ผู้ชมด้วย
คอนเสิร์ต 28 Yrs Loso - We Are the Rock & Roll ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วง 19.00 น. และถ้าหากไม่นับว่าออกมาซื้อเครื่องดื่มหรือเข้าห้องน้ำ ผู้ชมจะได้ออกมาจากฮอลลภายหลังจากการแสดงสดทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วประมาณเวลา 23.30 น. หมายความว่าในคอนเสิร์ตครั้งนี้ Loso ได้จับมือและพาผู้ชมท่องทะยานกลับสู่วันวานของวงผ่านกว่า 40 บทเพลงด้วยระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมง ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่สามารถนิยามว่า ‘จัดเต็ม’ อย่างไม่ลังเลใจ
ใครจะคิดว่าหลังจากการแสดงสดผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว พี่เสกก็ได้ประกาศผ่านไมค์ว่าการแสดงครั้งนี้เพิ่งมาถึงเพียง 40% เท่านั้น…
และภายใน 4 ชั่วโมงที่ว่านั้นก็อัดแน่นไปด้วยบทเพลงมากมายที่เราคุ้นเคยที่ถูกนำมาบรรเลงให้เราฟังแบบสด ๆ บ้างก็ตามแบบของต้นฉบับที่ใครหลายคนก็น่าจะร้องได้ ในขณะเดียวกันก็อาจมาในฉบับที่น่าสนใจไม่แพ้ของเก่า ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘แม้ว่า’ ที่มาพร้อมกับศิลปินฮิปฮอปรุ่นใหม่ได้มาแจมในขณะที่พี่เสกเล่นกีตาร์ประกอบบีท, เพลง ‘นานเท่าไหร่ก็รอ’ ที่ได้ ‘มาย-ภาคภูมิ’ มาร่วมร้องในท่อนของ ‘เบิร์ด ธงไชย’ อีกด้วย หรือแม้แต่ ‘ดา-เอ็นโดรฟิน’ ที่ได้มาแจมในเพลง ‘ไม่ใช่ฉันใช่ไหม’
นอกจากที่จะได้ฟังบทเพลงที่เราคุ้นเคยในแบบฉบับที่ยังคงรสชาติเข้มข้นแบบเดิม หรือถูกนำเสนอในแบบฉบับที่แตกต่างออกไป สิ่งที่น่าจะทำให้ใครหลายคนที่ไปชมในวันนั้นประทับใจไม่แพ้กันก็คือการได้ฟัง Loso บรรเลงผลงานในอดีตมากมายที่มักไม่ถูกหยิบมาเล่นบ่อยครั้งนัก ไม่ว่าจะเป็น เงิน สาหัส เพื่อนใจ หรือคนบ้า โดยเฉพาะกับ ‘เจ็บใจ’ ที่มาพร้อมท่อนอินโทรที่พี่เสกได้บรรเลงลวดลายโซโล่แบบด้นสดออกมาเสมือนปลุกวิญญาณร็อกแอนด์โรลให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
แต่จุดที่ทำให้ใครหลายคนตื่นตาตื่นใจและไม่คาดคิดที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตอนที่พี่เสกได้หยิบเพลง ‘เส้นทางลูกผู้ชาย’ กลับมาร้องอีกครั้งในแบบฉบับ ‘ไม่เซ็นเซอร์’ (เพียงแต่เว้นบางท่อนให้ผู้ชมช่วยร้อง)
“จากวันนี้ จะมีเรา… เราและนาย”
4 ชั่วโมงผ่านไป ไวเหมือนโกหก ตลอดเส้นทางของ Loso ที่ถูกมัดรวมอยู่ในคอนเสิร์ตที่ดำเนินไปเกือบถึงเที่ยงคืนนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าเอาเสียมาก ๆ ไม่เพียงแค่กับเหล่า Losonian ที่รอคอยการกลับมาอีกครั้งของ ‘ร็อคติดดิน’ แต่รวมถึงผู้ชมทุก ๆ คนในฮอลด้วย ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการได้รับชมการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของวงร็อค 3 ชิ้นที่ดีที่สุดของประเทศไทย
ไม่เพียงแค่มันได้เติมเต็มความสุขและความมันให้กับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าไปรับชม แต่เราก็ยังได้เห็นผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะแขกรับเชิญหรือศิลปินบนเวทีเองมีความสุขไปกับการกลับมาในครั้งนี้ โดยเฉพาะในจังหวะที่พี่เสกบอกว่า
“เพื่อน ๆ ครับ หลังจากคอนเสิร์ตนี้
พี่เสกจะไม่เป็นโรคซึมเศร้าอีกแล้วครับ!”
‘28 Yrs LOSO - We Are the Rock & Roll’ นอกจากจะเป็นหมุดหมายสำคัญของวง Loso ในฐานะการกลับมาเล่นดนตรีด้วยกันบนเวทีใหญ่อีกครั้งแล้ว มันก็ยังเป็นภาพความสำเร็จภายหลังจากการต่อสู้มานาน ทั้งของวง Loso เองที่ได้เดินทางมาถึงปีที่ 28 กับความรักและความนิยมจากผู้คนที่ยังไม่จางหายไป รวมถึงการต่อสู้ของพี่เสกต่อความทุกข์และภาวะซึมเศร้าอีกด้วย
เพราะเพียงแค่ฝันให้ไกล และไปให้ถึงที่จุดหมาย พวกเราทุกคนก็ต่างเป็น ‘ผู้ชนะ’ ได้ทั้งหมด
เราเดินออกมาจากฮอลด้วยความอิ่มเอมและมันก็ได้กลายเป็นความทรงจำที่สวยงามที่สุดครั้งหนึ่งที่ประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตจะให้เราได้
ถึงกระนั้น ก็ยังมีคำถามหนึ่งที่ผุดขึ้นมา
อีก 2 ปีข้างหน้า จะมี ‘คอนเสิร์ต LOSO 30 ปี’ หรือไม่?