Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

Gyeongseong Creature 2 ภาคต่อของความเป็นมนุษย์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของกรุงโซลปี 2024 ที่ชวนเรามองหาความหมายการมีชีวิตอยู่

KEY

POINTS

  • Gyeongseong Creature 2  กลับมาอีกครั้งด้วยความยาว 7 ตอนที่ยังคงคอนเซปต์เรื่องความเป็นมนุษย์
  • ถึงฉากหลังจะเปลี่ยนไป แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็บอกว่า ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ตัวเราก็ยังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
  • แล้วคงไม่ต้องรอให้ถึงฤดูใบไม้ผลิ ขอแค่สู้สุดใจ วันดี ๆ ก็คงมาถึงเราเช่นกัน

Gyeongseong Creature 2 เป็นเรื่องราวภาคต่อของ Gyeongseong Creature ออริจินัลคอนเทนต์ของ Netflix ที่ชวนเราตั้งคำถามเรื่องความเป็นมนุษย์

สำหรับซีซันนี้แก่นหลักยังคงเป็นเรื่องความเป็นมนุษย์และการค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิของกรุงโซลในปี 2024

ชีวิตที่ไม่ต้องหลบซ่อน ชีวิตที่มีความสุขเท่าที่จะมีได้ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และชีวิตที่ยังคงต้องดำเนินต่อไป 

Gyeongseong Creature 2 มีความยาวทั้งหมด 7 ตอน โดย 3 ตอนแรกเป็นการปูเรื่องราวถึงเหตุผลการมีชีวิตอยู่ของตัวละคร แรก ๆ อาจจะน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่ถ้าคุณผ่าน 3 ตอนแรกไปได้ คุณจะเข้าใจถึงแนวคิดเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่

แนวคิดที่บอกให้เรายอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ และเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปพร้อมกับค้นหาความหมายของการเป็นมนุษย์

และถ้าเราสู้อย่างสุดใจ สักวันหนึ่งช่วงเวลาดี ๆ คงมาถึงพวกเราเช่นกัน

/บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ Gyeongseong Creature 2 (2024)/

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

มนุษย์เป็นสิ่งไม่สมบูรณ์

หลังจาก ‘โรงพยาบาลลองซอง’ สถานที่ทดลองมนุษย์ในชั้นใต้ดินโดนระเบิดไปหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลาผ่านไป 70 กว่าปีการทดลองมนุษย์ก็ยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ชื่อ ‘จอนซึงเภสัชกรรม’

พวกเขายังสร้าง ‘นาจิน’ หรือเชื้อไวรัสที่โฆษณาว่าจะคอยเติมศักยภาพของมนุษย์ และทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์

ไม่ว่าจะยุคกยองซอง หรือ ยุค 2024 ที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์ก็ยังคงมองหาเศษเสี้ยวของความสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ชีวิตของเขาถูกยอมรับ และไม่เป็นมนุษย์ล่องหนในสายตาของใคร 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ‘การทดลองมนุษย์’ ยังคงอยู่ต่อไปได้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม 

คุณยายที่เป็นตัวตายตัวแทนของท่านหญิงมาเอดะ หญิงหน้าสวยที่อยู่เบื้องหลังของการทดลองมนุษย์เองก็บอกว่า มนุษย์เป็นสิ่งไม่สมบูรณ์ ดังนั้นงานของพวกเขาจึงมีคุณค่า 

“สิ่งที่บอกว่าเราเป็นคนแบบไหน คือ อุปนิสัยใจคอหรือความสามารถ มนุษย์ส่วนใหญ่เป็นสิ่งไม่สมบูรณ์ที่ตั้งอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างสองขั้ว มนุษย์อาจดูเหมือนกำลังหาคำตอบของชีวิตอย่างไม่สิ้นสุด แต่ความจริงแล้วมนุษย์เพียงแค่คลายความกังวลภายในจิตใจตัวเองอย่างไม่สิ้นสุดเท่านั้น”

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

 

ในอดีตการทดลองมนุษย์อาจมาจากความฝืนใจและความไม่รู้ แต่การทดลองมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 การตลาด และคำเชื้อเชิญโฆษณาทำให้ผู้คนที่ต้องการความสมบูรณ์เดินเข้ามาด้วยความสมัครใจ 

จากคนที่อยู่ชนชั้นล่าง เพียงเข้ามาครอบครัวก็อาจสบายด้วยเงินสิบล้าน แก้ปัญหาตัวเอง จากคนพิการก็อาจจะเดินได้เป็นหลายที่ยายภูมิใจหรือเป้นนักดนตรีระดับโลก

แต่สุดท้าย มันอาจเป็นสัจธรรรมที่บอกเราว่า มนุษย์คือความไม่สมบูรณ์แบบ บางครั้งเราก็ต้องยอมรับสัจธรรมนั้น ทำทุกวันให้ดีที่สุด และเรียนรู้ที่จะอยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบนั้น

เพราะความไม่สมบูรณ์แบบอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเติบโตและใช้ชีวิตต่อไป 

 

กลัวมีชีวิต หรือ กลัวตาย 

อีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่มีบทบาทสำคัญใน Gyeongseong Creature 2 ก็คือ ‘ซึงโจ’ ลูกชายของอากิโกะ และลูกชายที่ท่านหญิงมาเอดะรับมาเลี้ยง

ซึงโจเติบโตมาในรูปแบบที่ต้องยอมและตอบได้เพียงคำว่า ‘ครับ’ ต่อหน้าท่านหญิงเท่านั้น ถึงจะอยากเป็นคนพิเศษ อยากได้คำชมมากแค่ไหน เขาก็เป็นเพียงเด็กชายที่ถูกกำหนดว่ามีความสามารถพิเศษตั้งแต่แรกเกิดเท่านั้น

คำว่า ‘ต่อสู้’ จึงไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมของชายคนนี้เลย และเขาไม่ได้กลัวการมีชีวิต แต่เขากลัวตาย อาจเป็นเพราะซึงโจคิดว่าตัวเองไม่ใช่มนุษย์ตั้งแต่แรก แต่เป็น ‘ตัวทดลองที่พิเศษ’

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

เขาจึงเป็นตัวละครลับที่ทำให้เรื่องน่าติดตาม และดูน่าสนใจ ซึงโจดูเหมือนคนดี คอยช่วยเหลือพระเอกนางเอกอยู่ตลอด แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งของท่านหญิงมาเอดะทุกครั้ง

ซึงโจเป็นคนที่ฉีดยาทำให้นาจินในตัวของแชอ๊กหลับใหล ที่ทำลงไป ก็เพราะเขากลัวตาย และมาเอดะก็เป็นคนที่ปกป้องเขาได้ และเป็นคนที่ทำให้เขามีชีวิตรอด

“บอกแล้วไงว่าฉันกลัว ฉันกลัวตาย” ซึงโจบอกกับแชอ๊กที่กำลังทุรนทุรายเพราะฤทธิ์ยา

ก่อนจะบอกต่อว่า “ฉันเป็นแค่สัตว์ประหลาด ฉันไม่สนว่านอกจากตัวเองแล้วใครจะเป็นยังไง ฉันไม่มีความละอาย ไม่รู้สึกผิดบาป อะไรที่เป็นภัยก็แค่ฆ่าทิ้ง เวลาเบื่อก็ออกล่า หิวเมื่อไรก็จับเหยื่อกิน”

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

ส่วนจางโฮแจ (อดีต คือ จางแทซัง) กับ ยุนแชอ๊ก พวกเขาไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวว่า พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตคนเดียว อาจเป็นเพราะทั้งสองคนรู้ว่า การอยู่คนเดียวมันเหงา และโดดเดี่ยวมากเพียงใด 

สำหรับโฮแจการใช้ชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นนั้นไม่สนุกเลย แทนที่เขาจะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แต่เขาก็ยังคงสงสัยในอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง และสำหรับยุนแชอ๊ก การให้เวลาเดินผ่านไปแต่ละวัน ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนนั้นไร้ชีวิตและความสุข

“สิ่งที่น่ากลัวจริง ๆ ไม่ใช่ความตาย แต่คือการเหลือตัวคนเดียว แต่ยังตายไม่ได้ต่างหาก” แชอ๊กเคยบอกไว้แบบนั้น

ไม่ว่าอยู่หรือตาย ทุกคนต่างมีเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อ หรือจากโลกนี้ไปกันทั้งนั้น 

 

การต่อสู้เพื่ออดีตและบอกว่าเรายังเป็นคน

ความสัมพันธ์ของซึงโจและโฮแจเป็นเหมือนพี่น้องที่รักและเชื่อใจกันจริง ๆ แต่ก็ดูเหมือนแม่เหล็ก 2 ขั้วไม่มีวันดึงดูดเข้าหากันได้

บุคลิกของซึงโจ ภายนอกดูเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน คนที่เขาไว้ใจและแอบหวังดี มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็คือ โฮแจคนที่เขาเรียกว่า ‘ฮยอง’ (พี่ชาย) มาตลอด

แต่สำหรับโฮแจ เขาสู้มาตลอด ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ถึงจะรู้ว่าแพ้ แต่ก็ยังคงสู้ต่อไป สู้เพื่อให้รู้ว่า เรื่องราวในอดีตสร้างบาดแผลที่บาดลึกในใจมันเป็นอย่างไร 

“ทำไมพี่ถึงยังสู้ต่อไปล่ะ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางชนะ” ซึงโจถาม

ก่อนโฮแจจะตอบว่า “ฉันไม่ได้สู้เพื่อเอาชนะ ฉันสู้เพื่อไม่ให้พวกมันลืมว่าทำอะไรไว้กับเรา”

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

และไม่มีคำว่า ‘ให้อภัย’ สำหรับคนที่ไม่คิดจะขอโทษแล้วทำราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

“จะให้อภัยกับคนที่ไม่คิดจะขอโทษได้ยังไง ให้อภัยคนแบบนั้นมันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ… การแก้ไขให้ถูกต้องเมื่อรู้ว่าทำผิด ก็เป็นสิ่งที่มีแต่คนเท่านั้นที่ทำได้”

มีอยู่บ้างที่ความมุ่งมั่นของโฮแจจะเติมเต็มความหวังและความฝันในการมีชีวิตอยู่ของซึงโจ  ถึงสุดท้าย ซึงโจจะเลือกเป็นสัตว์ประหลาด แต่อย่างน้อย บทเรียนชีวิตของโฮแจสอนซึงโจว่า บางครั้งเราก็ต้องสู้ สู้ไปก่อน ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็คงต้องปล่อยให้ชีวิตจัดสรรกันต่อไป 

การค้นพบชีวิตก่อนฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าจะมาถึง

“ช่วงเวลาดี ๆ จะมาถึงพวกเราบ้างไหม” คำพูดของแชอ๊กในทีเซอร์อย่างเป็นทางการของ Gyeongseong Creature 2

อาจเป็นเพราะทั้งสองคนต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมาตลอด 70 กว่าปี ขณะที่ฤดูกาลแปรเปลี่ยนตามกาลเวลาหลายต่อหลายครั้ง เมืองกยองซองผ่านยุคสมัยของการพัฒนาเมืองมาเป็นเมืองโซล และกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิในปี 2024 แต่ดูเหมือนจางแทซังกับยุนแชอ๊กจะยังคงติดอยู่ในวันที่ดอกซากุระร่วงโรยในปี 1948 อยู่เลย

Gyeongseong Creature 2: ฤดูใบไม้ผลิของมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบและอยู่บนความกลัว

และในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ก็ทำให้แทซังและแชอ๊กค้นพบความหมายของชีวิต

ชีวิตในความหมายของแชอ๊ก คือ การมีลมหายใจเพื่ออยู่กับคนที่เธอรัก

แม้จะต้องเป็นสัตว์ประหลาด กักตัวอยู่คนเดียว หิวกระหายเป็นบางครั้ง เพื่อแลกกับความเป็นอมตะ แต่เธอก็ค้นพบว่า เหตุผลของการมีลมหายใจของหญิงคนนี้ คือ ความหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะพบนายท่านจาง

ขณะที่จางแทซัง เขาเคยใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน มีความสุขในการใช้ชีวิต แต่ด้วยนิสัยใจคอ เขาคือคนที่ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่หนีปัญหา แต่พุ่งชนเท่านั้น

ซึงโจเคยถามเขาว่า “ไม่เคยเบื่อบ้างเหรอ สู้กับคนพวกนั้น โดนมันอัดปางตายเกือบไม่รอด แล้วยังอยากจะสู้กับมันอีกเหรอ คนที่ไหนเขาเป็นแบบนั้นกัน พี่ควรจะอยากให้มันจบลงได้แล้ว หนีไปเลยซะยังดีกว่า ไปอยู่ที่ไหนก็ได้กับผู้หญิงคนนั้น ไปใช้ชีวิตของพี่สักที”

คำตอบของแทซังก็คือ “ฉันก็อยากใช้ชีวิตของฉัน อยากอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอย่างมีความสุข แต่ว่าต้องการไม่ใช่การหนีไป ฉันไม่สามารถค้นพบชีวิตตัวเองได้ด้วยการหนีไป”

จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องรอให้ฤดูใบไม้ผลิหรอก แต่เราทุกคนต่างค้นหาความหมายของชีวิตอยู่ทุกลมหายใจ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เราเองก็ต่างเป็นมนุษย์ที่ไม่ควรสมบูรณ์แบบ

แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคงใช้ชีวิตต่อไป

 

ภาพ : Netflix K-Content