22 พ.ย. 2565 | 15:46 น.
‘ฮั่วเซงฮง’ อาหารจีนที่ขายตั้งแต่ยังเป็นรถเข็นสู่ภัตตาคารอาหารเหลากว่า 50 ปี
ชาวจีนเป็นหนึ่งในชนชาติที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุด ย่านเยาวราชเป็นแหล่งอาศัยและค้าขายมานานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งนี้หนึ่งในร้านที่เป็นตำนานในถนนเยาวราชก็คือ ‘ร้านฮั่วเซ่งฮง’ ภัตตาคารอาหารจีน ซึ่งเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2510 สมัยยังเป็นรถเข็นขายตามถนน
ถึงแม้ว่า ฮั่วเซ่งฮง จะเป็นร้านในตำนานที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่กลับถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงควันหลงจากการประชุมเอเปค (APEC 2022) หลังจากที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส แวะไปดื่มเบียร์เย็น ๆ ที่ร้านในช่วงที่เดินสำรวจสตรีทฟู้ดบนถนนเยาวราชเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้ในโซเชียลมีเดียมีกลุ่มนักท่องเที่ยวคนฝรั่งเศสและในยุโรปพูดถึงฮั่วเซ่งฮงมากขึ้น และเป็นอีกหนึ่งร้านที่ต้องมาแวะหากมาเมืองไทย
ฮั่วเซ่งฮงสมัยเป็นรถเข็น
ภัตตาคารอาหารเหลา ฮั่วเซ่งฮง ที่ใหญ่โตมีหลายสาขาในปัจจุบัน อาจยังไม่มีใครรู้ว่าจุดเริ่มต้นของร้านมาจากการขายเป็นรถเข็นมาก่อน ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเมนูอาหารเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น
ฮั่วเซ่งฮง ในภาษาจีนหมายถึง ความรุ่งเรื่อง ความเฟื่องฟู ร้านเปิดขายตั้งแต่เมื่อ 55 ปีก่อน (เปิดร้านในปี 2510) โดย มานพ พิริยเลิศศักดิ์ ผู้ก่อตั้งร้านคนแรกและเริ่มต้นร้านด้วยการขายโจ๊ก, อาหารตามสั่ง และชากาแฟบนถนนเยาวราช
ซึ่งในสมัยนั้นคนไทยเริ่มมีความคุ้นเคยกับ ‘โจ๊ก’ บ้างแล้วเพราะคนจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยได้เผยแพร่วัฒนธรรมอาหารประเภทนี้อยู่บ้างแล้ว แต่ก็ยังถือว่ามีน้อยในสมัยนั้นคือถ้าอยากทานโจ๊กก็ต้องมาที่ย่านเยาวราช จึงทำให้ร้านฮั่วเซ่งฮงเป็นที่รู้จักตั้งแต่ในสมัยนั้น
ต่อมาไม่กี่ปีย่านเยาวราชเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น เช่น นักท่องเที่ยวฮ่องกง สิงคโปร์ ทำให้อากงเพิ่มเมนูให้หลากหลายขึ้น โดยเพิ่มทั้ง ติ่มซำ, ซาลาเปา, หูฉลาม และกระเพาะปลา ซึ่งตั้งแต่นั้นมา ร้านฮั่วเซ่งฮง ก็กลายเป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งคนไทยที่อยากลองทานหูฉลามและกระเพาะปลาด้วย
จากร้านริมถนนสู่ภัตตาคารอาหารเหลา
ในปี 2514 ฮั่วเซ่งฮง ได้พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบของร้านให้ดูหลากหลายและมีความทันสมัยมากขึ้น ที่เห็นชัด ๆ ก็คือการเพิ่มเมนูใหม่เข้าไป เช่น หูฉลามน้ำแดง, ปูผัดพงกระหรี่, ปูอบวุ้นเส้น, เป็ดปักกิ่ง ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักในตอนนั้นคือคนจีนที่เข้ามาทำธุระหรือทำธุรกิจในไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
จากนั้น ฮั่วเซ่งฮง ได้ขยับขยายร้านสู่รูปแบบ ‘ภัตตาคาร’ จากทายาทรุ่นที่ 2 ด้วยเมนูหูฉลามในปี 2515 ที่เป็นเมนูแนะนำลูกค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารของฮ่องเต้ที่นิยมทานกัน
โดยเหตผุลที่ขยายร้านไปสู่ภัตตาคารเพราะว่า ต้องการยกระดับเมนูอาหารและเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น โดยจุดเด่นของร้านนอกจากจะปรุงด้วยน้ำซุปหูฉลามที่เข้มข้น ยังขายหูฉลามในราคาที่ถูกกว่าไปทานที่ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์
ภัตตาคารอาหารเหลาในห้างฯ
ช่วงหลัง ๆ เราเริ่มเห็นภัตตาคารฮั่วเซ่งฮง ตบเท้าเข้าห้างสรรพสินค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นไอเดียของ ‘จิรวรรณ พิริยเลิศศักดิ์’ (ทายาทรุ่น 2) ที่มองว่าภัตตาคารฮั่วเซ่งฮง ควรเพิ่มกลุ่มลูกค้าในห้างฯ ด้วย เพราะว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวและคนไทยชอบที่จะมาเดินห้างฯ ช้อปปิ้งและทานอาหาร
จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเห็นฮั่วเซ่งฮงอยู่ในห้างฯ มากขึ้น ซึ่งร้านสาขาแรกที่เปิดให้บริการในห้างฯ อยู่ที่เซ็นทรัล พระราม 2 เป็นการยกโต๊ะอาหารจีนสูตรต้นตำรับฮั่วเซ่งฮงมาอยู่ที่นี่ทั้งหมด
นอกจากนี้ จิรวรรณ ได้ขยายธุรกิจเพิ่มเปิดร้าน ‘ฮ่องกงติ่มซำ’ คล้ายกับเป็นร้านลูกของฮั่วเซ่งฮง ซึ่งสินค้าที่ขายหลัก ๆ ก็คือ ติ่มซำ กับซาลาเปา โดยเปิดให้บริการในปี 2539
นอกจากนี้ ฮั่วเซ่งฮง ยังได้ขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มจากทายาทรุ่นที่ 3 ก็คือ ‘พิสิทธิ์ พิริยเลิศศักดิ์’ โดยเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ ซึ่งยกประเภทติ่มซำและซาลาเปามาอยู่ที่ปั๊มปตท., มอเตอร์เวย์, รถไฟฟ้า MRT และ BTS กับ ‘ร้านฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ’ ถือว่าเป็น pop-up store ที่ได้รับความนิยทในกลุ่มคนทำงานและนักศึกษา
ตลอด 55 ปีของฮั่วเซ่งฮง ทำให้เห็นการเติบโตที่ชัดเจน จากเป็นเพียงรถเข็นเล็ก ๆ ที่ขายริมถนนมาเป็นภัตตาคารที่มีสาขากว่า 15 แห่งในไทย ซึ่งอาหารยังหลากหลายมากถึง 200 เมนูด้วยกัน นอกจากนี้ ฮั่วเซ่งฮง ยังเป็นหนึ่งใน 50 ร้านแนะนำในนิตยสารโลนลี แพลนเน็ต ทราเวลเลอร์ ประเทศไทยด้วย จึงไม่แปลกใจที่วันนี้ ฮั่วเซ่งฮง ยังเป็นที่ชื่นชอบและครองใจลูกค้าหลายคน
ภาพ: ฮั่วเซ่งฮง Facebook page
อ้างอิง:
https://huasenghongdimsum.com/about-us/
https://huasenghong.co.th/about-us/
