SuperRich (สีส้ม) จากชีวิตเสื่อผืนหมอนใบ สู่ทายาทรุ่น 2 และเกมธุรกิจที่ต่างจากคู่แข่ง

SuperRich (สีส้ม) จากชีวิตเสื่อผืนหมอนใบ สู่ทายาทรุ่น 2 และเกมธุรกิจที่ต่างจากคู่แข่ง

ย้อนประวัติแบรนด์ SuperRich (สีส้ม) กว่า 58 ปีตั้งแต่รุ่นอากงตั้งเกาเตี้ย ชาวจีนโพ้นทะเล จนถึงทายาทรุ่น2 ‘ปิยะ ตันติเวชยานนท์’ กับกลยุทธ์การทำธุรกิจที่แตกต่างจากคู่แข่ง

  • จุดเริ่มต้นก่อนเป็น SuperRich (สีส้ม) รุ่นอากงคนจีนโพ้นทะเลเคยให้บริการแลกเงินหยวนมาก่อน
  • กว่า 58 ปีของ SuperRich (สีส้ม) ปิยะ ตันติเวชยานนท์ ทายาทรุ่น 2 เปลี่ยนระบบด้วยเทคโนโลยีทำให้ต่างจากคู่แข่งชัดเจน

เรื่องราวของ SuperRich ซึ่งทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หลายคนเคยให้ความสนใจมานาน เพราะเราจะเห็นธุรกิจนี้มีหลายสี ทั้งสีส้ม สีเขียว และสีฟ้า (ทั้ง 3 สีเกี่ยวข้องกันฉันเครือญาติ แต่ในแง่ธุรกิจได้แยกกันอย่างชัดเจน) นั้นไม่ใช่ประเด็นที่อยากจะพูดถึงในวันนี้ แต่เป็นกลยุทธ์ใหม่ของ SuperRich (สีส้ม) ที่ทำให้พลิกโฉมอุตสาหกรรมการรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้

ในยุคโควิด-19 อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและคนอาจจะนึกไม่ถึงก็คือ ธุรกิจอย่าง SuperRich ซึ่ง ‘ปิยะ ตันติเวชยานนท์’ ประธานกรรมการบริษัท ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) ได้พูดว่า ช่วงนั้นเขายื้ออย่างเต็มที่ จนในช่วงปลายปี 2565 ก่อนทุกอย่างจะเริ่มฟื้นตัวและทำให้ธุรกิจสามารถกลับมามีกำไร

ทั้งนี้ กลยุทธ์ใหม่ที่ปิยะปรับเปลี่ยนผ่านแผนการดำเนินธุรกิจระยะ 3 ปี (ปี 2566 - 2568) เพื่อฟื้นธุรกิจก็คือ การโฟกัสไปที่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตใหม่ในระยะข้างหน้า

ซึ่งล่าสุดกลยุทธ์ที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมระบบก็คือ ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ (E-wallet) เพื่อให้บริการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศรูปแบบใหม่ผ่านวอลเล็ต ถือเป็นเซอร์วิสใหม่ในวงการนี้ก็ว่าได้ โดยบริการนี้จะช่วยให้การโอนเงินไปต่างประเทศ (money transfer) สะดวกและง่ายขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 3 นี้

อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าธุรกิจ SuperRich ที่ใหญ่โตขนาดนี้ จะมีจุดเริ่มต้นมาจากยุคที่ชาวจีนหอบเสื่อผืนหมอนใบเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งวันนี้ The People จะพาย้อนไปที่จุดเริ่มต้นของ SuperRich (สีส้ม) ตามข้อมูลที่ค้นหาได้ ซึ่งมีแนวคิดและแรงบันดาลใจที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว

 

เริ่มจากยุคอากงเปิดให้แลกเปลี่ยน ‘เงินหยวน’

ข้อมูลจากในหนังสือ ‘กว่าจะเป็นซุปเปอร์ริช’ (Born to be SuperRich) ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอันดับ 1 ของไทย ซึ่งสรุปโดย SE-ED โดยมีข้อมูลในหนังสือที่น่าสนใจ อย่างเช่น จุดเริ่มต้นในธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของครอบครัวที่จริง ๆ แล้วเริ่มมาตั้งแต่ในยุคของชาวจีนที่เข้ามาทำมาหากินในเขตกรุงสยาม ซึ่งตอนนั้นคนที่ริเริ่มธุรกิจก็คือ ‘อากง’ ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทยในยุคนั้นเช่นกัน

นอกจากนี้ ปิยะเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร HELLO โดยบอกว่า อากง หรือชื่อว่า ‘ตั้งเกาเตี้ย’ ได้เริ่มทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงิน ‘สกุลหยวน’ ในปี 2508 โดยช่วงแรก ๆ ได้เลือกให้บริการที่ย่านบ้านหม้อซึ่งเป็นแหล่งค้าเพชรพลอยในสมัยก่อน

จนมาถึงรุ่นของคุณพ่อของปิยะ ก็คือ ‘วิบูลย์ ตันติเวชยานนท์’ ได้เล็งเห็นช่องทางการแลกเปลี่ยนเงินตราหลังจากการทำงานกับบริษัททัวร์ จึงปรับบริการให้เป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้เป็นบริษัทเต็มตัว โดยใช้ชื่อร้านว่า 'จิตรพาณิชย์' โดยเริ่มจากประเทศหลัก ๆ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทยในยุคนั้น

ต้องบอกว่าตระกูล ตันติเวชยานนท์ เคยเผชิญเรื่องหนักที่สุดมาแล้วเพราะถูกปล้นเกิดความเสียหายมากมาย ส่วนหนึ่งอาจเพราะว่ารูปแบบการบริหารในตอนนั้นเป็นแบบใน 'กงสี' ซึ่ง วิบูลย์ ต้องใช้เวลาศึกษาธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างหนักในตอนนั้น

เมื่อศึกษาและเข้าใจธุรกิจนี้พอสมควร วิบูลย์ ได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อร้านและหาโลเคชั่นใหม่เสริมสิริมงคล นำมาสู่ชื่อ 'SuperRich' และสีส้มก็เป็นสีของผลไม้มงคลตามความเชื่อของชาวจีนนั่นเอง

ทั้งนี้ SuperRich (สีส้ม) ที่ให้บริการมาแล้วกว่า 58 ปี ตั้งแต่รุ่นอากง ต้องพูดว่าเป็นแบรนด์แรก ๆ ของไทยที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการระบบการให้บริการ โดยเริ่มจากยุคของปิยะ ในฐานะทายาทรุ่น 2 ที่เข้ามาบริหารธุรกิจ ได้นำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาปรับปรุง

ซึ่งสิ่งที่ปิยะได้เริ่มเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวงการนี้ ตั้งแต่ การขยายสาขาเข้า BIG C ที่สาขาราชดำริ ในปี 2544 และขยับ SuperRich (สีส้ม) ไปที่สถานี BTS ชิดลม จากนั้นก็ขยายมาที่ไลน์ BTS และ MRT บางสาขา อีกทั้งยังมีที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยากหากไม่แกร่งจริง

แม้ว่าเรื่องราวของปิยะ อาจจะมีข้อมูลเปิดเผยนอกเหนือจากในหนังสือไม่มาก แต่ก็สร้างแรงบันดาลใจได้ดีในเรื่องการทำธุรกิจ เพราะสำหรับ SuperRich (สีส้ม) หลายคนจะยกให้เป็นเรื่องของเทคโนโลยี เรื่องของดิจิทัล ท่ามกลางผู้เล่นรายใหม่ ๆ ที่เข้ามาในตลาด ต้องยอมรับว่า SuperRich (สีส้ม) ยังเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับจากคนทั่วไปจนถึงปัจจุบัน

 

 

 

ภาพ : SuperRich (สีส้ม)

อ้างอิง :

Superrich

ฺBangkokbiznews[1]

Bangkokbiznews[2]

Hellomagazine

Marketingoops