‘ทิม คุก’ มีแผนอะไร? หลังตัดสินใจยกมือเป็นสปอนเซอร์ Super Bowl Halftime ต่อจาก Pepsi

‘ทิม คุก’ มีแผนอะไร? หลังตัดสินใจยกมือเป็นสปอนเซอร์ Super Bowl Halftime ต่อจาก Pepsi

ในยุคที่ ‘ทิม คุก’ ตัดสินใจเป็นสปอนเซอร์ Super Bowl Halftime Show 2024 แทน Pepsi เพราะอะไร? และทิศทาง Apple Music จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้

  • Apple Music สปอนเซอร์หลักของ Super Bowl Halftime Show 2024 ตั้งแต่ปี 2023
  • ทิม คุก คิดอะไร? เพราะ Apple แทบไม่ทำการตลาดแบบสปอนเซอร์ แต่ยุคนี้เขาเริ่มสนใจวงการกีฬา

คงไม่ใช่ภาพที่จะเห็นกันง่าย ๆ สำหรับ Apple Inc. ในยุคของ ‘ทิม คุก’ (Tim cook) โดยเฉพาะการตัดสินใจเข้าเป็นสปอนเซอร์ หรือ พาร์ทเนอร์ธุรกิจ เพราะดูไม่ใช่วิถีของ Apple ตั้งแต่แรก

จนกระทั่ง เราเริ่มเห็น Apple เริ่มสนใจพื้นที่โฆษณาจากการแข่งขันกีฬา โดย ‘Apple Music’ จะทำหน้าที่เหมือนทูตไมตรีที่เชื่อมโลกธุรกิจของ Apple และพื้นที่การแข่งขันให้เข้าใกล้กันมากขึ้น ซึ่งประมาณ 6 ปีก่อน Apple Music เริ่มแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับ ‘กีฬา’ เพราะเป็นการตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับ สโมสรฟุตบอลเยอรมัน Bayern Munich

หลังจากนั้น ก็คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดเมเจอร์ลีกเบสบอล หรือ MLB การแข่งขันเบสบอลที่ใหญ่ที่สุดของโลก และ เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ หรือ MLS ลีกการแข่งขันฟุตบอลของสหรัฐอเมริกา

และล่าสุด ก็คือ Super Bowl Halftime Show หรือ การแสดงช่วงพักครึ่งของการแข่งขันกีฬา ซึ่ง Apple Music ยกมือขอเป็นสปอนเซอร์แบบ multi-year ตั้งแต่ปีก่อน หลังจากที่ Pepsi ขอถอนตัวออกจากการเป็นสปอนเซอร์หลักในการแสดงโชว์ (เหลือแค่สนับสนุนการแข่งขันกีฬาอย่างเดียว) เหมือนเป็นการปิดฉากชีวิตคู่ระหว่าง Pepsi กับ Super Bowl Halftime ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานถึง 10 ปี

ทิม คุก พยายามใช้ Apple Music เพื่อเข้าถึงลูกค้าชุดใหญ่จำนวนมาก แม้จะไม่มีจุดประสงค์ในการสร้างรายได้โดยตรงกับ Apple Music แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ว่า ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ของ Apple ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, Gadget ไปจนถึง Apple TV+ เกี่ยวโยงกัน และอยู่ในกลยุทธ์ Apple One ที่รวมบริการต่าง ๆ ของ Apple ไว้ด้วยกันในราคาที่น่ารักขึ้น

ดังนั้น การแข่งขันกีฬา หรือ อย่าง Halftime Show จึงเป็นคัมภีร์ธุรกิจใหม่ของเขา เพื่อจะสร้างกำไรให้ Apple Inc. ซึ่ง ทิม คุก จะเป็นเจ้าพ่อการตลาดที่น่าสนใจคนหนึ่ง โดยที่ผ่านมาเขาทำกำไรให้กับ Apple Inc. เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2011

 

Apple และ NFL ต่างคนต่างถูกสเปคกัน

ความเคลื่อนไหวของ Apple Music ทำให้เรากลับไปฟังบทสัมภาษณ์เก่าของ ทิม คุก ในปี 2018 กับ Fast Company ซึ่งเขาเคยพูดถึงจุดยืนของ Apple Music ว่าเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร?

ทิม คุก พยายามย้ำมาตลอดว่า “Apple Music เราไม่ได้ทำเพื่อเงิน” ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่ Spotify กำลังจะเปิด IPO เพื่อระดมทุนพอดิบพอดี

“ธุรกิจเพลงสำหรับ Apple ไม่ใช่การหาเงิน แต่เราอยากทำสิ่งที่ถูกต้อง ฉันคิดว่ามันสำคัญสำหรับศิลปิน หากเราจะมีชุมชนเชิงสร้างสรรค์ต่อไป และศิลปินพวกคุณจะต้องได้รับเงินทุนสนับสนุนด้วย”

ขณะเดียวกัน National Football League หรือ NFL ในช่วงหลัง ๆ ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงคนดู นอกเหนือจากการออกอากาศแบบดั้งเดิม NFL ต้องการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬา แน่นอนว่ารวมถึง Halftime Show ให้เข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix และ HBO Max ซึ่งเป็นฐานคนดูอายุน้อยและให้ความสนใจ ดังนั้น Apple จึงตอบโจทย์ในเรื่องนี้

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ผู้ที่น่าจับตามองในคอนเสิร์ตช่วงพักครึ่งของ Super Bowl ซึ่งมีหลายคนมาก ๆ เช่น Dr. Dre, Mary J. Blige, Eminem, Kendrick Lamar และ Snoop Dogg ได้สร้างคนดูจำนวนมหึมามากถึง 120 ล้านคน

ดังนั้น หากดูจากเม็ดเงินที่ Apple Music จะต้องจ่ายเพื่อเป็นทุนให้กับ Super Bowl Halftime จะอยู่ราว 40-50 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ถือเป็นเงินก้อนที่ใหญ่มาก ๆ และ Pepsi น่าจะประเมินแล้วว่ามันไม่น่าจะคุ้มกับ Pepsi จึงถอยทัพเสียดีกว่า

แต่กับ Apple Music นี่กลับเป็นคลังพื้นที่โฆษณาใหญ่ของแบรนด์ ซึ่ง Nana-Yaw Asamoah รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์พันธมิตรของ NFL บอกว่า คงไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ Apple Music อีกแล้ว เพราะมีประสบการณ์ และเป็นผู้สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการฟังเพลง ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ที่ยังเป็น iPod จนตอนนี้เป็น Apple Music

 

Halftime Show พื้นที่โฆษณาใหญ่ระดับโลก

นับตั้งแต่ปี 1967 หรือ 57 ปีที่ผ่านมา Super Bowl และ Halftime Show ต่างมีศิลปินที่มาแวะเวียน สร้างตำนานมากมายบนเวทีนี้ รวมไปถึงเป็นพื้นที่โฆษณาที่ใหญ่มากของแบรนด์ชั้นนำของโลก

อย่างเช่น Coca-Cola ที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ในปี 1988 หรือ Oscar Mayer ผู้ผลิตเนื้อและโคลด์คัทของอเมริกันที่เป็นสปอนเซอร์ในปี 1996 จึงสังเกตว่า การเปลี่ยนสปอนเซอร์มักจะเกิดขึ้นเป็นยุคสมัย เฉกเช่นกับยุคนี้ที่เป็นพื้นที่ทองของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งขึ้นมาเฉิดฉายแทน

ทั้งนี้ Super Bowl LVIII มีกำหนดจัดขึ้นที่ Allegiant Stadium ในลาสเวกัส ซึ่งมีผู้คนนับล้าน ๆ ที่เฝ้ารอ ‘Usher’ เจ้าพ่อ R&B อันทรงเสน่ห์ โดยจะขึ้นแสดงในงาน Apple Music Halftime Show 2024 ในวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

เดากันเล่น ๆ ว่า คนที่ชมพร้อมกันทั่วโลกสำหรับการแสดงโชว์นี้ ก็น่าจะไม่หนีจากปีก่อน ๆ มากนัก หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ซึ่ง Super Bowl Halftime Show มักจะถูกพูดถึงว่าเป็นงานที่มีคนดูมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ยิ่งกว่างานประกาศรางวัลออสการ์เสียอีก ส่วนปีนี้ตัวเลขผู้เข้าชมจะอยู่ที่เท่าไหร่ อีกไม่กี่วัน คงได้รู้กัน!

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

Why Apple is replacing Pepsi as Super Bowl halftime show sponsor in 2023

NFL has a new halftime show sponsor

Ahead of Spotify’s IPO, Apple says it’s not in the music business ‘for the money’

Apple Music Takes Over Pepsi as Presenter of Super Bowl Halftime Show

Apple Music Super Bowl Ad Features Tim Cook, Ludacris and More