เปิดคำถามที่คน Gen Z ใช้ถามกลับเมื่อกำลังสัมภาษณ์งาน

หลายครั้งที่เราเห็นพฤติกรรมของ Gen Z หรือ กลุ่มคนที่อายุระหว่าง 14-28 ปี แสดงความเป็นปัจเจกชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ตอนที่พวกเขาถูกสัมภาษณ์งาน บางทีก็มีประเด็นอื่น ๆ ที่อยู่ในความสนใจของพวกเขา นอกเหนือจากเรื่องค่าตอบแทน หรือ สวัสดิการต่าง ๆ

‘จิรภัทร์ กาญจะโนสถ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPA HAKUHODO ครีเอทีฟ เอเจนซี่ ระดับแถวหน้าของประเทศไทย ได้พูดยกตัวอย่างเกี่ยวกับกลุ่มคน Gen Z มองว่าน่าสนใจ และก็มาจากประสบการณ์ของบริษัท เมื่อเปิดรับสมัครตำแหน่งงานที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เธอเล่าว่า มีคำถามที่ Gen Z มักจะถามกลับตอนที่พวกเขากำลังสัมภาษณ์งาน โดยเลือกที่จะถามตรง ๆ กับบริษัทเพื่อให้ตัวเองคลายความสงสัย นั่นก็คือ ‘เรื่องสิ่งแวดล้อม’ ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยและผลสำรวจหลายที่ระบุว่า คน Gen Z ให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และความรักษ์โลกมากกว่า Gen อื่น ๆ

 

ขบถแต่ต้องถูกต้อง

ในระหว่างที่ จิรภัทร์ ได้แถลงเกี่ยวกับการปรับโครงการและกลยุทธ์ขององค์กร เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกการตลาดที่ต้องดึงผู้บริหารคนรุ่นใหม่ร่วมขบวน พร้อมเตรียมจะเปิด ‘Human Lab’ เร็ว ๆ นี้ เพื่อย้ำว่า เป็นหนึ่งในผู้นำที่มีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทย และเข้าใจตลาดไทยอย่างลึกซึ้ง

ดังนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับ Gen Z ที่เราหยิบมาเล่านั้น มาจากประสบการณ์ของ SPA HAKUHODO บวกกับความเข้าใจที่มีอยู่ก่อนแล้ว สรุปอย่างเข้าใจง่าย ก็คือ

• ไม่มีคำกำจัดความ สามารถแต่งชายได้ แต่งหญิงได้
• เป็นวัยที่มีความขบฏ นิด ๆ เรียกร้องอะไรใหม่ ๆ กล้าคิดกล้าทำ
• ในความกบฎนั้น ไม่ใช่สิ่งไม่ดี แต่เป็นวิธีคิดที่ทำให้โลกดีขึ้น
• ยอมรับในความหลากหลายมากกว่า gen อื่น
• โลกสำหรับพวกเขาไม่มีความเป็นดั้งเดิมแล้ว เพราะโลกจะมีความเปิดกว้างมากขึ้น
• อะไรที่ไม่ใช่การทำผิดต่อสังคม สามารถทำได้หมด สำหรับพวกเขาไม่มีพรมแดน
• แคมเปญ หรือกลยุทธ์การตลาดสามารถนำเสนอสาย Y ได้ เพราะสำหรับคนกลุ่มนี้ไม่มี

 

รักษ์โลกแค่ไหน

ทั้งนี้ ในมุมของการสัมภาษณ์งาน มีมุมที่น่าสนใจอีกเรื่องที่ ‘จิรภัทร์’ แชร์ก็คือ คำถามที่คน Gen Z สนใจพอ ๆ กับเรื่องอื่นเวลาที่สัมภาษณ์งาน และจะถามทันทีที่พวกเขาสงสัย

“ที่เราเซอร์ไพรส์จากคน Gen Z คือ เรากล้าถามแม้กระทั่งตอนที่สัมภาษณ์งาน คือที่เราเคยเจอมาจะถามว่า บริษัทได้แยกขยะมั้ย ซึ่งบางคนถามก่อนที่จะถามเรื่องสวัสดิการด้วยซ้ำ”

“บางคนก็มีถามบ้างว่า ที่นี่มีการใช้อุปกรณ์รักษ์โลก หรือ แนวทางปฎิบัติอะไรที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมั้ย”

ที่ผ่านมามีหลายคนพูดเรื่องความสนใจของคน Gen Z เรื่องความกล้าคิดกล้าถาม ดังนั้น คำถามเหล่านี้ที่ SPA HAKUHODO เจอ แม้จะเป็นเพียงพาร์ทหนึ่งเล็ก ๆ ไม่ใช่แรงกระเพื่อมใหญ่ที่จะถามแบบนี้ทุกคน แต่สะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่ Gen Z สนใจและอยากรู้อยากถามยังคงวนเวียนกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ความรักษ์โลกเสมอ

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่ม Gen อื่น ตั้งแต่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y และ Alpha ที่เรายังไม่ได้พูดถึง แต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะโลกที่หมุนเร็วมากในตอนนี้กว่า 1,670 km/h ดังนั้น นักการตลาด นักวางกลยุทธ์ ควรต้องเข้าใจสิ่งที่พวกเขาคิด และสนใจให้ได้

เช่น กลุ่ม Baby Boomer ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นในยุคนี้ ส่วนมากกลับมาสนใจตัวเองเพราะดูแลคนอื่นมาเยอะแล้ว, อยากสนุกกับชีวิตอีกครั้ง และพยายามเรียนรู้โซเชียล

หรือ Gen Y กลุ่มคนอายุไม่เกิน 42 ปี หากเป็นเมื่อก่อนจะทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะพวกเขาจะคิดแบบว่า ชีวิตนี้มีชีวิตเดียวใช้ซะ! พวกเขาจะทำงานหนัก แต่เพื่อเอาไปซื้อประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป เช่น กระโดดร่ม, เที่ยวต่างประเทศ เป็นต้น

ด้วยความที่กลุ่มลูกค้าในสมัยนี้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น มีความคิด และความสนใจที่แตกต่างกัน ไม่สามารถคิดเหมารวม และใช้โมเดลการตลาดเดียวกันได้ ดังนั้น จึงเป็นที่มาว่าทำไม SPA HAKUHODO ถึงสร้างธุรกิจย่อยอีก 3 กลุ่ม

1) สเปซ (SPACE) กลุ่มธุรกิจที่ให้บริการเรื่องของการตลาดดิจิทัลอย่างครบวงจร ซึ่งทีมงานจะมีความรู้ความเข้าใจในการตลาดยุคใหม่ มีวิธีคิดแบบใหม่ มีการสร้างสรรค์งานที่มุ่งเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโลกดิจิทัล เข้าใจการทำงานที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเปิดตัวแล้วหลายปีที่ผ่านมา

2) แพลนต์ (Plant) จะมุ่งเน้นการให้บริการเรื่องการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและนำเสนอโซลูชั่นทางการตลาดให้กับลูกค้า ด้วยบริบทของโลกการตลาดที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะใช้เงินจำนวนมากในการทำแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้กับผู้บริโภค ดังนั้น การปรึกษาและวางแผนในด้านการคิดและแผนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ Plant สามารถช่วยได้ ซึ่ง unit นี้จะเปิดตัวภายในปีนี้

3) อาร์เชอร์ (Archer) เกิดขึ้นจากการมองเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ หลังจากที่ SPA HAKUHODO ได้ดูแลกลุ่มธุรกิจจีน ซึ่งมีไม่กี่เอเจนซี่ที่ได้ดูแล โดยธุรกิจนี้เกิดจากการได้เรียนรู้และทําความเข้าใจวิธีคิดและความต้องการของนักการตลาดชาวจีน ก่อนหลาย ๆ เอเจนซี่ ดังนั้น ตลาดจีนมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น บริษัทฯ จึงต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรด้านต่าง ๆ (Chinese Resource) สามารถดูแลกลุ่มธุรกิจจีนได้ครบวงจร

นอกจากนี้ ยังมีการดึงผู้บริหารคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมพัฒนาด้วย ได้แก่

1) บงกช เจริญธรรม ช่วยบริหารเรื่องการเชื่อมต่อและสร้างเสริมการร่วมมือของเครือข่าย

2) ชาญวิทย์ ตระกูลไพบูลย์ผล ช่วยบริหารเรื่องการพัฒนานวัตกรรมที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในยุคการตลาดปัจจุบัน

3) พิมพิศา จุฬา เทิดทูลทวีเดช ช่วยบริหารด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่เน้นการให้บริการด้านที่ปรึกษาทางธุรกิจ

4) ภัค บุญชูสนอง ครีเอทีฟรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเสริมกำลังในการพัฒนาด้านการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (Creative Solution) และการคิดงานที่นอกกรอบ

5) นัฐกาญจน์ วัฒนมงคลศิลป์ ผู้นำด้านการวางแผนกลยุทธ์จากการค้นคว้าและทำความเข้าใจในมนุษย์เพื่อช่วยขับเคลื่อนแบรนด์และสังคมอย่างยั่งยืน

ส่วนเคล็ดลับที่ จิรภัทร์ ในฐานะซีอีโอ ได้แชร์กับเราเกี่ยวกับการครองใจกลุ่มลูกค้าเก่า และก็สามารถเจาะตลาดใหม่ ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน SPA HAKUHODO คิดอย่างไร หรือทำอย่างไร เพื่อเป้าหมายนี้

“ตอนนี้เรา on going กับลูกค้าประมาณ 30 ราย เราคิดว่าการที่เราสามารถครองใจลูกค้าเดิมให้กลับมาใช้บริการซ้ำได้ เพราะว่า ‘partnership spirit’ คือ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เราวางตัวเองเป็นคู่คิด ไม่ใช่แค่อยู่เคียงข้าง แต่อยู่กับลูกค้าทั้งทุกข์และก็สุขไปด้วยกัน เราอยู่กับเขาตลอดเวลา ทุกเวลาจริง ๆ นี่คือหลักการการทำงานของ SPA HAKUHODO”

 

 

ภาพ :  SPA HAKUHODO