หากอยากคว้าความสำเร็จ ลองสำรวจตัวเองมี ‘นิสัย’ เหล่านี้หรือไม่

หากอยากคว้าความสำเร็จ ลองสำรวจตัวเองมี ‘นิสัย’ เหล่านี้หรือไม่

ทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในชีวิตไปจนถึงหน้าที่การงาน? เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากจะรู้ และต้องการทำให้ได้ ซึ่งคำตอบอาจไม่ใช่แค่การพัฒนาตัวเอง เพื่อเป็น ‘คนเก่ง’ แต่อาจลงลึกถึงการปลูกฝังอุปนิสัยและสร้างทัศนคติของแต่ละคน

แล้วทัศนคติหรือนิสัยอะไรที่จะเป็นกุญแจเปลี่ยนชีวิตของพวกเราให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้และเป็นการสำเร็จแบบยั่งยืน 

เรื่องราวเหล่านี้ ‘ดร. สตีเฟน อาร์. โควี’ (Stephen R. Covey) ได้ถ่ายทอดผ่านหนังสือ The 7 Habits of Highly Effective People ซึ่งนำเสนอ ‘แก่น’ ความคิดที่จะส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมที่จะนำความสำเร็จมาให้ทั้งชีวิตส่วนตัวและโลกการทำงาน โดยหนังสือเล่มนี้ถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากกว่า 38 ภาษา และมียอดขายทั่วโลกมากกว่า 25 ล้านเล่ม

เริ่มต้นเขาแบ่งเส้นทางของคนที่จะประสบความสำเร็จไว้ 2 ทาง นั่นคือ

เส้นทางแรก ‘การพัฒนาทักษะให้เก่งในเรื่องที่อยากเก่ง’ เช่น หากคุณอยากเก่งด้านการลงทุน ก็ต้องศึกษาวิธีการลงทุน หรือถ้าอยากมีสุขภาพดี ต้องศึกษาเทคนิคที่ทำให้สุขภาพดี ฯลฯ แต่วิธีนี้จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ยั่งยืน หากนิสัยของคุณยังคงเป็นแบบเดิม 

เส้นทางที่ 2 ‘การปรับทัศนคติ นิสัย ระบบความเชื่อและมุมมองของตัวเอง’ โดยสิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมกลายเป็นตัวตนของคุณและติดเป็นนิสัยไปตลอดชีวิต เช่น หากอยากสุขภาพดี นอกจากศึกษาวิธีการทำให้สุขภาพดีแล้ว ลองหาเหตุผลดูว่าทำไมคุณถึงต้องการมีสุขภาพดี เช่น อยากอยู่กับคนที่รักไปนาน ๆ , ไม่อยากเจ็บป่วย ฯลฯ ซึ่งการคิดแบบนี้จะนำไปสู่การสร้างนิสัยให้รักการออกกำลังกาย เลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ฯลฯ

ส่วน 7 ทัศนคติหรือนิสัยที่จะเปลี่ยนชีวิตสู่ความสำเร็จได้แบบยั่งยืน ประกอบด้วย 

อุปนิสัยที่ 1 เป็นคนเริ่มต้นทำก่อน (Be Proactive) ไม่รอให้คนอื่นมาสั่งให้ทำ : คนลักษณะนิสัยเช่นนี้ จะมีสติตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และพยายามพัฒนาความสามารถเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง โดยไม่พยายามโทษสถานการณ์ หรือหาข้ออ้าง ถือเป็นนิสัยที่ฝึกให้ตัวเองเป็นคนรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่อะไรก็โทษโชคชะตาไปเสียหมด จนไม่สามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้ 

อุปนิสัยที่ 2 มีจุดมุ่งหมายชัดเจนในใจ (Begin with the end in mind) : หลายคนอาจใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ แบบไม่จุดหมาย ไม่วางแผนชีวิตล่วงหน้า แต่คนที่ประสบความสำเร็จ มักจะรู้เป้าหมายสุดท้ายชัดเจนว่าต้องการอะไรในชีวิต และทำอย่างไรถึงจะไปถึงเป้าหมายนั้น โดยการฝึกการตั้งจุดมุ่งหมายในใจตัวเองแบบง่าย ๆ คือ อาจจะเริ่มจากการจัดตารางชีวิตในแต่ละวัน เพื่อหาเวลาว่างทบทวนเป้าหมายสูงสุดที่ตัวเองอยากให้เกิดขึ้นในชีวิต จากนั้นลองเขียนคำปณิธานและวางขั้นตอนที่จะนำตัวเองไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ 

อุปนิสัยที่ 3 เลือกทำสิ่งสำคัญก่อน (Put first things first) : นิสัยนี้จะเป็นการเรียงลำดับความสำคัญ และเลือกทำในสิ่งที่สำคัญก่อน ส่วนอะไรที่ไม่สำคัญต้องรู้จักปฎิเสธ เพราะ ‘เวลา’ เป็นสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากัน เมื่อมีจุดมุ่งหมายแล้วประเด็นต่อมา คือ เราจะบริหารจัดการเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งคนประสบความสำเร็จจะมี 4 หลักคิดในการบริหารจัดการเรื่องนี้

1. ‘งานสำคัญและเร่งด่วน’ ต้องลงมือทำทันที ถ้าไม่ทำจะเกิดปัญหา เช่น เรื่องวิกฤต, โครงการที่มีกำหนดเดดไลน์ และปัญหากดดัน 2. ‘งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน’ เป็นงานที่สามารถวางแผนและเตรียมตัวได้ เช่น การวางแผนพัฒนาตัวเอง, การอ่านหนังสือ, การพัฒนาในระยะยาว 

3.‘งานไม่สำคัญแต่เร่งด่วน’ เช่น งานแทรก, การรับโทรศัพท์, การตอบข้อความ และ 4. ‘งานไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน’ เรื่องที่มาขัดจังหวะไม่ทำก็ไม่มีผลกระทบอะไร เช่น ดูทีวี ซีรีส์ เล่นเกม เป็นต้น

อุปนิสัยที่ 4 คิดแบบชนะด้วยกันทุกฝ่าย (Think Win-Win) : ในโลกความเป็นจริงเราไม่จำเป็นต้องชนะหรือแพ้เพียงฝ่ายเดียว และควรจำไว้ว่า ทุกความสำเร็จ ล้วนมาจากการความพึ่งพาอาศัยและร่วมพลังกัน ดังนั้นคนที่ประสบความสำเร็จ ต้องพยายามมองหาโอกาสที่จะร่วมมือกับผู้อื่น ซึ่งนิสัยนี้ จะส่งผลดีและเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ในระยะยาว  

อุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อนจะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา (Seek first to understand then to be understood) : บางครั้งการเข้าใจคนอื่นง่ายกว่าเรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจเรา ดังนั้น เราควรเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้เป็นคนที่เปิดใจรับฟังและพยายามทำความเข้าใจคนอื่น โดยหลักการสำคัญ เราต้องเป็นนักฟังที่ดี มีความเห็นอกเห็นใจ และไม่ตัดสินใจใครก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้อีกฝ่ายเปิดใจและเข้าใจเราได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

อุปนิสัยที่ 6 รู้จักรวมพลังและผสานความแตกต่าง (Synergize) : อย่างที่ทราบกันว่า โลก ณ วันนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายและมีความแตกต่าง หากเราเห็นคุณค่าและสามารถผสมผสานเรื่องราวเหล่านี้ได้ จะเป็นการช่วยให้มุมมองของเรากว้างกว่าเดิม มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ยิ่งถ้าเราสร้างให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันได้ จะพาเราไปได้ไกลมากกว่าการเดินไปด้วยตัวคนเดียว 

อุปนิสัยที่ 7 ต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Sharpen the saw) : ‘ถ้าเราหยุด ก็เท่ากับถอยหลัง’ ดังนั้น การจะประสบความสำเร็จได้ต้องหมั่นพัฒนาตัวเอง เพื่อให้เราสามารถปรับตัว รับมือและยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะยุคนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

ดร. สตีเฟน อาร์. โควี ย้ำว่า การสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้น เราจะต้องเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกทั้งวิธีคิดและการปฏิบัติของตน (paradigm shift) ไม่ใช่แค่ปรับทัศนคติหรือเปลี่ยนพฤติกรรมแบบผิวเผิน เพราะนั่นจะสร้างความสำเร็จให้แบบฉาบฉวย   

.

บทความนี้มาจากส่วนหนึ่งของ ‘หนังสือ The 7 Habits of Highly Effective People’ เขียนโดย ดร. สตีเฟน อาร์. โควี