19 ก.พ. 2568 | 17:00 น.
ในบรรดาแหล่งปลูกไวน์ระดับตำนาน Langhe คือดินแดนที่สร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่ง
บนเนินเขาอันงดงามในแคว้น Piemonte (เปียมอนเต้) ของอิตาลี ที่นี่คือถิ่นกำเนิดของ Barolo (บาโรโล) และ Barbaresco (บาร์บาเรสโก) ไวน์ไอคอนที่สะท้อนความลึกซึ้งและความสง่างามขององุ่นสายพันธุ์ Nebbiolo (เนบบิโอโล) ได้อย่างไร้ที่ติ
ชื่อ "Langhe" ออกเสียงว่า “ลัง-เง่” มีรากศัพท์จากภาษา Piemonteis หมายถึง “ดินแดนแห่งเนินเขา” สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศของที่นี่ ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เนินเขาสูงต่ำที่ปกคลุมด้วยไร่องุ่นทอดตัวสลับกันไปสุดสายตา
ภูมิภาคนี้มีประวัติศาสตร์ไวน์ยาวนานตั้งแต่ยุคโรมัน ก่อนจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางของไวน์คุณภาพในยุคกลาง และได้รับการยกย่องให้เป็น “มรดกโลก” ของ UNESCO ในปี 2014 โดยองุ่น Nebbiolo เติบโตได้ดีที่สุดในดินของ Langhe ภายใต้สายหมอกที่ปกคลุมไร่องุ่นในยามเช้า อันเป็นที่มาของชื่อ "Nebbiolo" ที่แปลว่า "หมอก" ในภาษาอิตาลีนั่นเอง
Barolo แข็งแกร่ง ดุดัน และมีโครงสร้างที่หนักแน่น ต้องการเวลาบ่มนานกว่าจะเผยเสน่ห์ที่แท้จริงออกมา ในขณะที่ Barbaresco มีความนุ่มนวลกว่า ดื่มง่ายกว่า และให้กลิ่นหอมที่ซับซ้อนของดอกไม้และผลไม้สุก
อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจไวน์จาก Langhe นั้น มีความลึกซึ้งมากกว่าเพียงเปิดขวดและจิบ อีกทั้งอุตสาหกรรมไวน์ไม่ใช่เพียงเรื่องของการผลิตเครื่องดื่มที่มีรสชาติดีเท่านั้น แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิประเทศเข้าด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้ Barolo & Barbaresco Academy จึงถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อให้เหล่า Wine Professionals จากทั่วโลก ได้เรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับไวน์จากภูมิภาคนี้ ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ การปลูกองุ่น การผลิตไวน์ และกลยุทธ์ทางการตลาด โดยมาจากความร่วมมือของ 2 องค์กรสำคัญ
องค์กรแรกคือ Consorzio di Tutela Barolo Barbaresco Alba Langhe e Dogliani ผู้ทำหน้าที่พิทักษ์และส่งเสริมแหล่งกำเนิดไวน์อันทรงเกียรติของ Langhe ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 600 ผู้ผลิตที่ทุ่มเทให้กับการผลิตไวน์คุณภาพเยี่ยมตามประเพณีอันยาวนาน
อีกองค์กรหนึ่งคือ Strada del Barolo e grandi vini di Langa สมาคมที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 เพื่อยกระดับและส่งเสริมดินแดนที่ผลิตไวน์อันทรงคุณค่าของ Langhe ด้วยสมาชิกมากกว่า 100 ราย สมาคมฯ ยังได้สร้างสรรค์โครงการ Wine Tasting Experience ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เปรียบเทียบไวน์จากผู้ผลิตต่างๆ ในคราวเดียว
หลักสูตรสามวัน ระดับ Level 1 ของ Academy ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เข้าถึงทุกแง่มุมของไวน์ Langhe ผ่านกิจกรรมที่ผสมผสานกัน ระหว่างการบรรยาย การชิมไวน์ และการลงพื้นที่จริง โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วย Sandro Minella ผู้ประสานงานหลักสูตร เป็นซอมเมอลิเยร์และมัคคุเทศก์, Edmondo Bonelli นักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและนักธรณีวิทยา, Edoardo Monticelli นักปฐพีวิทยา, Vincenzo Gerbi ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การอาหารและเทคโนโลยีที่มหาวิทยาลัยตูริน และ Serge Leveque ผู้อำนวยการฝ่ายส่งออกและ Langhe Wine Ambassador
วันที่สาม สัมผัสประสบการณ์จริง เป็นการนำความรู้ทั้งหมดมาบูรณาการผ่านการลงพื้นที่ ด้วยการทัวร์เขตไวน์ Barolo และ Barbaresco เพื่อสัมผัสภูมิประเทศและบรรยากาศที่หล่อหลอมให้เกิดไวน์ระดับตำนาน ก่อนจะปิดท้ายด้วยอาหารกลางวันสุดพิเศษที่ Ristorante Brezza พร้อมการชิมไวน์ระดับพรีเมียม และพิธีมอบประกาศนียบัตร
ในการอบรมระดับ Level 1 ของสถาบันฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2025 มีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์กว่า 50 คนจากทั่วโลก ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ลงทะเบียนมารวมตัวกัน เพื่อเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หลักสูตรนี้จึงไม่เพียงให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับไวน์เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้เชี่ยวชาญและผู้หลงใหลในไวน์ของ Langhe จากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย
Barolo & Barbaresco Academy ได้สร้างเครือข่าย Langhe Wines Ambassadors ที่แข็งแกร่งขึ้นมา โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมได้นำความรู้และประสบการณ์กลับไปเผยแพร่ในประเทศของตน ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของตลาดไวน์ Langhe และการท่องเที่ยวเชิงไวน์ในภูมิภาค ซึ่งดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์ไวน์ที่แท้จริง
ไวน์ Langhe คือการผสานระหว่างศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อิตาลี การได้เดินทางสู่ถิ่นกำเนิด สัมผัสไร่องุ่นท่ามกลางสายหมอก และดื่มด่ำกับไวน์ที่มีความหลากหลายจากแหล่งผลิต จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ Barolo และ Barbaresco ไปตลอดกาล
นี่คือเสน่ห์ของ Langhe - ดินแดนที่ไม่เพียงผลิตไวน์ แต่สร้างตำนานที่จารึกไว้ในทุกหยดของไวน์แต่ละขวด
หมายเหตุ: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมและค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อได้ที่ +39 0173 787166 หรืออีเมล [email protected]
Photo Credit: Some of the photographs are courtesy of IG Strada del Barolo